กระบี่ - อธิบดีกรมประมงลงพื้นที่บ้านควนต่อ อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ติดตามโครงการฟื้นฟูอาชีพชาวประมงพื้นบ้าน หลังเลิกอาชีพทำโพงพาง
เวลา 12.00 น.วันนี้ (7 ม.ค.) ดร.วิมล จันทรโรทัย อธิบดีกรมประมง พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่จากกรมประมง ได้ลงพื้นที่บ้านควนต่อ ม.3 ต.คลองเขม้า อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ พบปะกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านเพื่อสำรวจความเป็นอยู่ ภายหลังเลิกอาชีพทำโพงพางดักจับสัตว์น้ำ และโป๊ะน้ำตื้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2545 จำนวนกว่า 50 ราย เนื่องจากโพงพางเป็นเครื่องมือประมงที่ผิดกฎหมาย ทำลายสัตว์น้ำวัยอ่อน โดยชาวบ้านส่วนใหญ่ที่เลิกอาชีพทำโพงพาง หันมาประกอบอาชีพทำประมงพื้นบ้าน เลี้ยงปลากระชัง วางอวนกุ้ง หารายได้เลี้ยงครอบครัว มีรายได้เฉลี่ยเดือนละไม่ต่ำกว่า 10,000 บาทต่อราย นอกจากนี้ ผลจากการรณรงค์อนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำ ไม่ใช้เครื่องมือประมงผิดกฎหมาย ส่งผลให้ปริมาณสัตว์น้ำเพิ่มขึ้นด้วย
ดร.วิมล กล่าวว่า หลังจากที่ทางกรมประมงได้มีการทำโครงการจัดการทรัพยากรชายฝั่งเข้ามาสนับสนุนในเรื่องของอาชีพ และการจัดตั้งกองทุน ชาวประมงพื้นบ้านที่ให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่เลิกทำโพงพาง หรือเครื่องมือทำประมงที่ผิดกฎหมาย และโป๊ะน้ำตื้น ตั้งแต่ปี 2545 ก็ได้ประกอบอาชีพอื่น เช่น เลี้ยงปลากระชัง แต่ภายหลังจากที่ประสบภัยสึนามิ เมื่อปี 2547 ทำให้สภาพความเป็นอยู่เปลี่ยนไป จึงได้เข้ามาช่วยเหลือในด้านอาชีพ ทำให้โครงการมีความต่อเนื่อง เช่น การปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ตั้งกลุ่มกองทุนเพื่อประกอบอาชีพเลี้ยงปลากระชัง เป็นต้น
สำหรับจังหวัดกระบี่ เป็นเป็นจังหวัดตัวอย่างที่มีการเลิกอาชีพโพงพางได้ 100% แต่ก็ยังประกอบอาชีพประมงอย่างอื่นได้ โดยกลุ่มชาวประมงบ้านควนต่อนับเป็นกลุ่มตัวอย่างของชาวบ้านที่ให้ความร่วมมือกับกรมประมงได้เป็นอย่างดี เป็นชุมชนที่มีความเข้มแข็ง ชาวประมงสามารถรวมกลุ่มกันได้ และยังสามารถช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ชาวบ้านยังมีปัญหาเรื่องของสภาพแวดล้อมในพื้นที่ เช่น การปล่อยน้ำเสียจากบ่อเลี้ยงกุ้ง และการตั้งโรงเรือนแปรรูปแมงกะพรุนทำให้คุณภาพน้ำเสียไป ซึ่งหลังจากนี้ ทางกรมประมงจะส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาติดตามเก็บรวบรวมข้อมูล และหาทางช่วยเหลือต่อไป