ศูนย์ข่าวภูเก็ต - 2 สมาคมท่องเที่ยวภูเก็ตพบผู้ว่าฯ ชี้แจงผลกระทบจากการจัดงานดนตรีในทะเลที่เกิดขึ้นกับจังหวัดภูเก็ต รวมทั้งนักท่องเที่ยวในภาพรวม พร้อมขอความร่วมมือจังหวัดในการอนุญาตให้มีการจัดงานที่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของการท่องเที่ยวจะต้องรับฟังความคิดเห็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในจังหวัดก่อนว่าควรจะจัดหรือไม่
เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (4 ม.ค.) นายพงศ์อนันต์ สุวัณณาคาร นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต และนายสุชาติ หิรัญกนกกุล นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ นายสรายุทธ มัลลัม อุปนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เข้าพบ นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ที่ห้องรับรองศาลากลางจังหวัดภูเก็ต เพื่อชี้แจงผลกระทบที่เกิดจากการจัดงานกิจกรรมสีสันดนตรีและดีเจในทะเลป่าตอง ระหว่างวันที่ 30 ม.ค.55-1 ม.ค.56 เนื่องจากทางสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว รวมทั้งสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ (ตอนบน) ได้มีการประชุมร่วมกันหลังได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการ และนักท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากการจัดกิจกรรมดังกล่าว
โดยทั้ง 2 สมาคมมีความเห็นตรงกันว่า การจัดงานดังกล่าว มิได้เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต ตามแผนและนโยบายทางการตลาด เนื่องด้วยจังหวัดภูเก็ตไม่ได้มีความต้องการการท่องเที่ยวประเภท Mass Tourism เพราะจังหวัดภูเก็ตมีแผนการที่จะพัฒนาเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางทะเลระดับโลกในภูมิภาคนี้
รวมทั้งการจัดงานดังกล่าวได้จัดในช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังจังหวัดภูเก็ตสูงสุดอยู่แล้ว และโรงแรมเกือบทุกแห่งจะจัดงานเฉลิมฉลองวันสิ้นปี เพื่อจะเข้าปีใหม่อยู่แล้ว ทำให้โรงแรมส่วนใหญ่ และผู้ประกอบการในหาดป่าตองได้รับผลกระทบด้านรายได้ที่ลดน้อยลงของผู้ประกอบการรายย่อย นอกจากนั้น การใช้เสียงบนเวทีตลอดทั้งคืนของผู้จัดงานที่มีมาตรฐานเดซิเบลเกินกว่าที่สิ่งแวดล้อมได้กำหนดไว้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อลูกค้าของโรงแรม ไม่สามารถพักผ่อนนอนหลับได้ จึงแสดงความไม่พอใจ และแสดงอาการโกรธเคืองในการจัดงานดังกล่าว ทั้งทางวาจา และเขียนเป็นหนังสือ เขียนข้อความที่ทำให้จังหวัดภูเก็ตเสื่อมเสียชื่อเสียงลงในเว็บไซต์ออนไลน์ในต่างประเทศ รวมถึงการออกจากที่พักก่อนกำหนด เนื่องจากไม่สามารถทนรับฟังเสียงที่ดังเกินขนาดได้
นอกจากนั้น การจัดงานดังกล่าวได้จัดขึ้นที่หาดป่าตอง ซึ่งเป็นหาดที่มีชื่อเสียงที่สุดของจังหวัดภูเก็ต และเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลก งานดังกล่าวมิได้ทำให้หาดป่าตองได้รับผลดีต่อการท่องเที่ยว แต่ในทางตรงข้าม หาดป่าตองกลับกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตที่ใครก็ได้จะมาใช้ที่สาธารณประโยชน์ในทางธุรกิจของตนเอง และพวกพ้อง และจากไป โดยทิ้งสิ่งปฏิกูล และความสกปรกไว้ ทำให้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเยือนจังหวัดภูเก็ตในช่วงเวลาดังกล่าว ได้ร้องเรียนมายังทั้งสองสมาคมฯ รวมถึงไปแจ้งความที่สถานีตำรวจกะทู้ โดยกล่าวว่า หากมีการจัดงานแบบนี้เกิดขึ้นอีกในจังหวัดภูเก็ต ก็จะไม่มาที่จังหวัดภูเก็ตอีกต่อไป
และที่สำคัญ การจัดงานดังกล่าวผู้จัดมิได้กระทำการตามเงื่อนไขแนบท้ายหนังสือจังหวัดภูเก็ตหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเรื่องการปิดกั้นพื้นที่จัดงานบริเวณหาดป่าตองโดยการกั้นรั้วรอบ เป็นเหตุให้นักท่องเที่ยว และประชาชนทั่วไปไม่สามารถเข้าไปใช้ประโยชน์ในที่สาธารณะได้เป็นเวลา 3 วัน และยังมีการจำหน่ายเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในบริเวณสถานที่จัดงานกันอย่างเปิดเผย โดยไม่สนใจต่อเงื่อนไขของจังหวัดภูเก็ต อีกทั้งทางจังหวัดภูเก็ตมิได้ศึกษากรมธรรม์การประกันภัยหมู่จากผู้จัดว่าได้มีการทำประกันภัยไว้อย่างไร
นอกจากนั้น การจัดงานดังกล่าวเมื่อจบงานได้เกิดมลพิษทั้งขยะมูลฝอย ขวดแตก อาหารเน่าเสีย และมีการขุดชายหาดเพื่อฝังเศษอาหาร เป็นผลให้มีแมลงวันมาตอมอาหารดังกล่าวบนชายหาด ซึ่งผู้จัดมิได้ใช้เวลาในการจัดการดังกล่าวให้เกิดความสะอาด และเป็นไปตามเป้าหมายของหาดทรายที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยใช้ระยะเวลานานถึง 3 วัน จนบัดนี้ยังมิได้แล้วเสร็จ ทำให้นักท่องเที่ยวที่สัญจรไปมาบริเวณชายหาดได้พบภาพ และบันทึกภาพที่เป็นผลลบต่อการท่องเที่ยวไว้เป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งได้ส่งออกไปทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก ทำให้ภาพลักษณ์ของหาดป่าตองกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เสื่อมโทรมลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งนักท่องเที่ยวบางรายใช้คำว่า Patong beach new low ซึ่งหมายถึง ความตกต่ำถึงที่สุดของหาดป่าตอง
จากเหตุ และผลดังกล่าว ทางสมาคมฯ ทั้งสองจึงใคร่ขอความร่วมมือจากผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ว่า หากในอนาคตจะมีการจัดงานใดๆ ที่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตอย่างรุนแรง ขอให้รับฟัง หรือหารือภาคเอกชน และภาคประชาชนซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้เสียกับการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต เพื่อเป็นข้อมูลในการที่จะร่วมกันพิจารณาว่าสมควรที่จะดำเนินการหรือไม่ เพียงใด เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตโดยรวม ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้รับความกรุณาจากท่านตามที่ร้องขอ
เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (4 ม.ค.) นายพงศ์อนันต์ สุวัณณาคาร นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต และนายสุชาติ หิรัญกนกกุล นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ นายสรายุทธ มัลลัม อุปนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เข้าพบ นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ที่ห้องรับรองศาลากลางจังหวัดภูเก็ต เพื่อชี้แจงผลกระทบที่เกิดจากการจัดงานกิจกรรมสีสันดนตรีและดีเจในทะเลป่าตอง ระหว่างวันที่ 30 ม.ค.55-1 ม.ค.56 เนื่องจากทางสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว รวมทั้งสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ (ตอนบน) ได้มีการประชุมร่วมกันหลังได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการ และนักท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากการจัดกิจกรรมดังกล่าว
โดยทั้ง 2 สมาคมมีความเห็นตรงกันว่า การจัดงานดังกล่าว มิได้เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต ตามแผนและนโยบายทางการตลาด เนื่องด้วยจังหวัดภูเก็ตไม่ได้มีความต้องการการท่องเที่ยวประเภท Mass Tourism เพราะจังหวัดภูเก็ตมีแผนการที่จะพัฒนาเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางทะเลระดับโลกในภูมิภาคนี้
รวมทั้งการจัดงานดังกล่าวได้จัดในช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังจังหวัดภูเก็ตสูงสุดอยู่แล้ว และโรงแรมเกือบทุกแห่งจะจัดงานเฉลิมฉลองวันสิ้นปี เพื่อจะเข้าปีใหม่อยู่แล้ว ทำให้โรงแรมส่วนใหญ่ และผู้ประกอบการในหาดป่าตองได้รับผลกระทบด้านรายได้ที่ลดน้อยลงของผู้ประกอบการรายย่อย นอกจากนั้น การใช้เสียงบนเวทีตลอดทั้งคืนของผู้จัดงานที่มีมาตรฐานเดซิเบลเกินกว่าที่สิ่งแวดล้อมได้กำหนดไว้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อลูกค้าของโรงแรม ไม่สามารถพักผ่อนนอนหลับได้ จึงแสดงความไม่พอใจ และแสดงอาการโกรธเคืองในการจัดงานดังกล่าว ทั้งทางวาจา และเขียนเป็นหนังสือ เขียนข้อความที่ทำให้จังหวัดภูเก็ตเสื่อมเสียชื่อเสียงลงในเว็บไซต์ออนไลน์ในต่างประเทศ รวมถึงการออกจากที่พักก่อนกำหนด เนื่องจากไม่สามารถทนรับฟังเสียงที่ดังเกินขนาดได้
นอกจากนั้น การจัดงานดังกล่าวได้จัดขึ้นที่หาดป่าตอง ซึ่งเป็นหาดที่มีชื่อเสียงที่สุดของจังหวัดภูเก็ต และเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลก งานดังกล่าวมิได้ทำให้หาดป่าตองได้รับผลดีต่อการท่องเที่ยว แต่ในทางตรงข้าม หาดป่าตองกลับกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตที่ใครก็ได้จะมาใช้ที่สาธารณประโยชน์ในทางธุรกิจของตนเอง และพวกพ้อง และจากไป โดยทิ้งสิ่งปฏิกูล และความสกปรกไว้ ทำให้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเยือนจังหวัดภูเก็ตในช่วงเวลาดังกล่าว ได้ร้องเรียนมายังทั้งสองสมาคมฯ รวมถึงไปแจ้งความที่สถานีตำรวจกะทู้ โดยกล่าวว่า หากมีการจัดงานแบบนี้เกิดขึ้นอีกในจังหวัดภูเก็ต ก็จะไม่มาที่จังหวัดภูเก็ตอีกต่อไป
และที่สำคัญ การจัดงานดังกล่าวผู้จัดมิได้กระทำการตามเงื่อนไขแนบท้ายหนังสือจังหวัดภูเก็ตหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเรื่องการปิดกั้นพื้นที่จัดงานบริเวณหาดป่าตองโดยการกั้นรั้วรอบ เป็นเหตุให้นักท่องเที่ยว และประชาชนทั่วไปไม่สามารถเข้าไปใช้ประโยชน์ในที่สาธารณะได้เป็นเวลา 3 วัน และยังมีการจำหน่ายเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในบริเวณสถานที่จัดงานกันอย่างเปิดเผย โดยไม่สนใจต่อเงื่อนไขของจังหวัดภูเก็ต อีกทั้งทางจังหวัดภูเก็ตมิได้ศึกษากรมธรรม์การประกันภัยหมู่จากผู้จัดว่าได้มีการทำประกันภัยไว้อย่างไร
นอกจากนั้น การจัดงานดังกล่าวเมื่อจบงานได้เกิดมลพิษทั้งขยะมูลฝอย ขวดแตก อาหารเน่าเสีย และมีการขุดชายหาดเพื่อฝังเศษอาหาร เป็นผลให้มีแมลงวันมาตอมอาหารดังกล่าวบนชายหาด ซึ่งผู้จัดมิได้ใช้เวลาในการจัดการดังกล่าวให้เกิดความสะอาด และเป็นไปตามเป้าหมายของหาดทรายที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยใช้ระยะเวลานานถึง 3 วัน จนบัดนี้ยังมิได้แล้วเสร็จ ทำให้นักท่องเที่ยวที่สัญจรไปมาบริเวณชายหาดได้พบภาพ และบันทึกภาพที่เป็นผลลบต่อการท่องเที่ยวไว้เป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งได้ส่งออกไปทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก ทำให้ภาพลักษณ์ของหาดป่าตองกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เสื่อมโทรมลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งนักท่องเที่ยวบางรายใช้คำว่า Patong beach new low ซึ่งหมายถึง ความตกต่ำถึงที่สุดของหาดป่าตอง
จากเหตุ และผลดังกล่าว ทางสมาคมฯ ทั้งสองจึงใคร่ขอความร่วมมือจากผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ว่า หากในอนาคตจะมีการจัดงานใดๆ ที่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตอย่างรุนแรง ขอให้รับฟัง หรือหารือภาคเอกชน และภาคประชาชนซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้เสียกับการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต เพื่อเป็นข้อมูลในการที่จะร่วมกันพิจารณาว่าสมควรที่จะดำเนินการหรือไม่ เพียงใด เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตโดยรวม ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้รับความกรุณาจากท่านตามที่ร้องขอ