ศูนย์ข่าวภูเก็ต - พบโรฮิงญาประมาณ 70 คน จอดเรือลอยลำใกล้เกาะบอนภูเก็ต เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ เบื้องต้น ให้การช่วยเหลือตามหลักสิทธิมนุษยชน ก่อนดำเนินการตามกฎหมายหลบหนีเข้าเมือง อ้างเรือน้ำมันหมด
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (1 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรฉลอง รับแจ้งจากนายอรุณ โสฬส มีเรือประมงพร้อมคนในเรือจำนวนมากเข้ามาลอยลำอยู่ที่บริเวณเกาะบอน ม.3 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ขอให้ตรวจสอบ หลังรับแจ้ง พ.ต.อ.กฤตภาษณ์ เดชอินทรศร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรฉลอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลราไวย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ พบว่า ทั้งหมดเป็นชาวโรฮิงญา ซึ่งมีทั้งเด็ก ผู้หญิง และชายฉกรรจ์อัดกันมาเต็มลำเรือ ประมาณ 70 คน ซึ่งทั้งหมดอยู่ในสภาพหิวโหย ทราบว่าอดข้าวมาหลายวันแล้ว อย่างไรก็ตาม หลังการตรวจสอบพบว่าเป็นชาวโรฮิงญาได้มีการประสานไปยังทหารเรือทัพเรือภาคที่ 3 และตำรวจน้ำในการเข้าไปดูแลช่วยเหลือ
นายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลราไวย์ กล่าวว่า ช่วงเช้าวันนี้ (1 ม.ค.) ได้รับแจ้งจากชาวประมงที่หาปลาอยู่บริเวณเกาะบอน ว่า มีเรือต้องสงสัย และมีคนอยู่บนเรือเต็มลำจอดลอยลำอยู่ที่บริเวณหน้าเกาะบอน จึงได้แจ้งประสานไปยังตำรวจภูธรฉลอง ทหารเรือ ตำรวจน้ำ กำนันในพื้นที่ ให้เข้าไปตรวจสอบ โดยทางเทศบาลได้จัดเรืออำนวยความสะดวกให้แก่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งจากการตรวจสอบ และสอบถามในเบื้องต้นพบว่า ทั้งหมดเป็นชาวโรฮิงญาที่ล่องเรือมา และต้องการที่จะเดินทางไปยังประเทศที่ 3 แต่เรือเจอมรสุม รวมทั้งน้ำมันหมด จึงแวะจอดเรือเพื่อหลบพายุโดยเดินทางมาตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค.2555
ซึ่งในเบื้องต้น ชาวโรฮิงญาได้ร้องขอสิ่งของอุปโภคบริโภค รวมทั้งน้ำมันเพื่อที่จะเดินทางต่อไปยังประเทศที่ 3 ตามที่ต้องการ โดยขณะนี้ ทางเทศบาลตำบลราไวย์ ได้จัดหาข้าวสาร นม ยารักษาโรค และน้ำมันให้เป็นการเบื้องต้น ส่วนเรื่องของการดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายนั้นเป็นเรื่องของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และในเบื้องต้น การดูแลเพื่อให้ชาวโรฮิงญาอยู่ในจุดจอดเรือทางตำรวจน้ำได้เฝ้าระวังอยู่บริเวณใกล้กับจุดจอดเรือ
ขณะที่ พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ทางผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรฉลอง ประสานยังตำรวจน้ำ และทหารเรือแล้ว รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ดูแลป้องกันไม่ให้ลักลอบขึ้นฝั่ง
ด้านพล.ร.ท.ธราธร ขจิตสุวรรณ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 กล่าวว่า ในส่วนของทัพเรือภาคที่ 3 ต้องดำเนินการตามกฎหมายในการดูแลผลประโยชน์ของชาติทางทะเล สำหรับชาวโรฮิงญาทั้งหมดขณะนี้ถือว่าเป็นบุคคลที่ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ก็ต้องดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมาย แต่อย่างไรก็ตาม การดำเนินการนั้นจะคำนึงเรื่องของสิทธิมนุษยชนด้วย และทำตามกระบวนการในการอำนวยความสะดวกหลังจากที่มีการดำเนินการตามกระบวนการกฎหมายของประเทศไทยแล้ว
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (1 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรฉลอง รับแจ้งจากนายอรุณ โสฬส มีเรือประมงพร้อมคนในเรือจำนวนมากเข้ามาลอยลำอยู่ที่บริเวณเกาะบอน ม.3 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ขอให้ตรวจสอบ หลังรับแจ้ง พ.ต.อ.กฤตภาษณ์ เดชอินทรศร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรฉลอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลราไวย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ พบว่า ทั้งหมดเป็นชาวโรฮิงญา ซึ่งมีทั้งเด็ก ผู้หญิง และชายฉกรรจ์อัดกันมาเต็มลำเรือ ประมาณ 70 คน ซึ่งทั้งหมดอยู่ในสภาพหิวโหย ทราบว่าอดข้าวมาหลายวันแล้ว อย่างไรก็ตาม หลังการตรวจสอบพบว่าเป็นชาวโรฮิงญาได้มีการประสานไปยังทหารเรือทัพเรือภาคที่ 3 และตำรวจน้ำในการเข้าไปดูแลช่วยเหลือ
นายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลราไวย์ กล่าวว่า ช่วงเช้าวันนี้ (1 ม.ค.) ได้รับแจ้งจากชาวประมงที่หาปลาอยู่บริเวณเกาะบอน ว่า มีเรือต้องสงสัย และมีคนอยู่บนเรือเต็มลำจอดลอยลำอยู่ที่บริเวณหน้าเกาะบอน จึงได้แจ้งประสานไปยังตำรวจภูธรฉลอง ทหารเรือ ตำรวจน้ำ กำนันในพื้นที่ ให้เข้าไปตรวจสอบ โดยทางเทศบาลได้จัดเรืออำนวยความสะดวกให้แก่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งจากการตรวจสอบ และสอบถามในเบื้องต้นพบว่า ทั้งหมดเป็นชาวโรฮิงญาที่ล่องเรือมา และต้องการที่จะเดินทางไปยังประเทศที่ 3 แต่เรือเจอมรสุม รวมทั้งน้ำมันหมด จึงแวะจอดเรือเพื่อหลบพายุโดยเดินทางมาตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค.2555
ซึ่งในเบื้องต้น ชาวโรฮิงญาได้ร้องขอสิ่งของอุปโภคบริโภค รวมทั้งน้ำมันเพื่อที่จะเดินทางต่อไปยังประเทศที่ 3 ตามที่ต้องการ โดยขณะนี้ ทางเทศบาลตำบลราไวย์ ได้จัดหาข้าวสาร นม ยารักษาโรค และน้ำมันให้เป็นการเบื้องต้น ส่วนเรื่องของการดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายนั้นเป็นเรื่องของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และในเบื้องต้น การดูแลเพื่อให้ชาวโรฮิงญาอยู่ในจุดจอดเรือทางตำรวจน้ำได้เฝ้าระวังอยู่บริเวณใกล้กับจุดจอดเรือ
ขณะที่ พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ทางผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรฉลอง ประสานยังตำรวจน้ำ และทหารเรือแล้ว รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ดูแลป้องกันไม่ให้ลักลอบขึ้นฝั่ง
ด้านพล.ร.ท.ธราธร ขจิตสุวรรณ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 กล่าวว่า ในส่วนของทัพเรือภาคที่ 3 ต้องดำเนินการตามกฎหมายในการดูแลผลประโยชน์ของชาติทางทะเล สำหรับชาวโรฮิงญาทั้งหมดขณะนี้ถือว่าเป็นบุคคลที่ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ก็ต้องดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมาย แต่อย่างไรก็ตาม การดำเนินการนั้นจะคำนึงเรื่องของสิทธิมนุษยชนด้วย และทำตามกระบวนการในการอำนวยความสะดวกหลังจากที่มีการดำเนินการตามกระบวนการกฎหมายของประเทศไทยแล้ว