กระบี่ - แม่ค้าตลาดสดมหาราช เทศบาลเมืองกระบี่ เดือดบุกเทศบาล โวยขึ้นค่าเช่าแผงขายของแพงเกินเหตุ สุดท้าย เทศบาลเห็นใจลดค่าเช่าให้ รองนายกเทศบาลระบุสาเหตุที่ขึ้นราคาแผง เนื่องจากเป็นแม่ค้ากลุ่มใหม่ที่ไม่ได้อยู่ในสัญญาเดิม
วันนี้ (29 ธ.ค.) นายป้อมเพชร สุคนธกนิษฐ์ รองนายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีผู้ประกอบการจำหน่ายสินค้าประเภทต่างๆ ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองกระบี่ จำนวนกว่า 50 คน เดินทางมาที่เทศบาลเมืองกระบี่ เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (28 ธ.ค.) เพื่อร้องถามถึงเรื่องการขึ้นราคาค่าเช่าแผงภายในตลาดมหาราช ซึ่งอยู่ในความดูแลของเทศบาลเมืองกระบี่ เนื่องจากไม่พอใจที่ทางเทศบาลได้มีการขึ้นราคาค่าเช่าแผงกว่าเท่าตัว ซึ่งกลุ่มแม้ค้าได้ขอเข้าพบนายกีรติศักดิ์ ภูเก้าล้วน นายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ แต่เนื่องจากนายกฯ ติดภารกิจ ตนจึงได้ลงไปรับเรื่องแทน
นายป้อมเพชร กล่าวอีกว่า ในตลาดสดมหาราชมีแม่ค้าจำหน่ายสินค้าอยู่กว่า 800 ราย แบ่งเป็นแม่ค้า 2 ประเภท คือ 1.ประเภทที่เป็นเจ้าของแผงเองโดยตรง ทำตามกฎระเบียบที่ทางเทศบาลกำหนดทุกอย่าง 2.ประเภทที่เซ้งแผงมาจากบุคคลอื่นโดยที่ไม่ได้แจ้งให้ทางเทศบาลทราบ และมีปัญหา เช่น ไม่ค่อยมาจำหน่ายสินค้า ไม่เข้าร่วมอบรม ซึ่งประเภทที่ 2 ที่เซ้งแผงมามาจากบุคคลอื่นนี้ ทางเทศบาลจำเป็นต้องเก็บค่าเช่าและค่าต่อสัญญาเพิ่มขึ้น เพราะถือว่าเป็นบุคคลกลุ่มใหม่ที่เข้ามาอยู่ ส่วนประเภทแรกเก็บค่าเช่าตามเดิมเพราะถือว่าได้ปฏิบัติตามกฎ และอยู่มานานแล้ว
นายป้อมเพชร กล่าวต่ออีกว่า หลังจากที่ได้มีการประชุมชี้แจงกับแม่ค้านานกว่า 1 ชั่วโมง จนได้ข้อสรุปว่า ทางเทศบาลจะเก็บค่าต่อสัญญาครั้งละ 5,000 บาท ต่อพื้นที่ 1 เมตร กับแม่ค้าประเภทที่ 2 เหมือนเดิม แต่ทางเทศบาลจะดำเนินการเปลี่ยนชื่อเจ้าของแผงให้เป็นคนปัจจุบันที่เสียค่าต่อสัญญา ส่วนค่าเช่ารายเดือนให้เขียนข้อเรียกร้องในราคาที่ต้องการ และทางเทศบาลจะนำข้อเรียกร้องให้คณะกรรมการประเมินรายได้ ทำการพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งทางกลุ่มแม่ค้าก็พอใจ และต่างแยกย้ายกันกลับไป
โดย น.ส.เสาวลักษณ์ แซ่อื้อ อายุ 39 ปี ผู้ประกอบการจำหน่ายสินค้าตลาดสดมหาราช กล่าวว่า ตนและกลุ่มสมาชิกเดินทางมาที่เทศบาลเมืองกระบี่ เพื่อถามถึงการขึ้นราคาค่าเช่าแผงสินค้าที่เพิ่มมากว่าเท่าตัว ซึ่งจากเดิมค่าเช่าแผงอยู่ที่เดือนละ 500 บาท และค่าต่อสัญญา 2 ปี อยู่ที่ครั้งละ 1,600 บาทต่อแผง ขนาด 1 เมตร แต่มาครั้งนี้ทางเทศบาลกลับปรับราคาค่าเช่าขึ้นเป็นเดือนละ 1,000 บาท และค่าต่อสัญญา 5 พันบาท ต่อแผงขนาด 1 เมตร เช่น มีแผงขายสินค้าขนาดกว้าง 3 เมตร ต้องเสียค่าเช่าเดือนละ 3 พันบาท และค่าต่อสัญญาอีกครั้งละ 15,000 บาท ซึ่งราคาเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว เกินกว่าที่แม่ค้าจะสามารถจ่ายได้ จึงได้เดินทางมาเรียกร้อง
วันนี้ (29 ธ.ค.) นายป้อมเพชร สุคนธกนิษฐ์ รองนายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีผู้ประกอบการจำหน่ายสินค้าประเภทต่างๆ ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองกระบี่ จำนวนกว่า 50 คน เดินทางมาที่เทศบาลเมืองกระบี่ เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (28 ธ.ค.) เพื่อร้องถามถึงเรื่องการขึ้นราคาค่าเช่าแผงภายในตลาดมหาราช ซึ่งอยู่ในความดูแลของเทศบาลเมืองกระบี่ เนื่องจากไม่พอใจที่ทางเทศบาลได้มีการขึ้นราคาค่าเช่าแผงกว่าเท่าตัว ซึ่งกลุ่มแม้ค้าได้ขอเข้าพบนายกีรติศักดิ์ ภูเก้าล้วน นายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ แต่เนื่องจากนายกฯ ติดภารกิจ ตนจึงได้ลงไปรับเรื่องแทน
นายป้อมเพชร กล่าวอีกว่า ในตลาดสดมหาราชมีแม่ค้าจำหน่ายสินค้าอยู่กว่า 800 ราย แบ่งเป็นแม่ค้า 2 ประเภท คือ 1.ประเภทที่เป็นเจ้าของแผงเองโดยตรง ทำตามกฎระเบียบที่ทางเทศบาลกำหนดทุกอย่าง 2.ประเภทที่เซ้งแผงมาจากบุคคลอื่นโดยที่ไม่ได้แจ้งให้ทางเทศบาลทราบ และมีปัญหา เช่น ไม่ค่อยมาจำหน่ายสินค้า ไม่เข้าร่วมอบรม ซึ่งประเภทที่ 2 ที่เซ้งแผงมามาจากบุคคลอื่นนี้ ทางเทศบาลจำเป็นต้องเก็บค่าเช่าและค่าต่อสัญญาเพิ่มขึ้น เพราะถือว่าเป็นบุคคลกลุ่มใหม่ที่เข้ามาอยู่ ส่วนประเภทแรกเก็บค่าเช่าตามเดิมเพราะถือว่าได้ปฏิบัติตามกฎ และอยู่มานานแล้ว
นายป้อมเพชร กล่าวต่ออีกว่า หลังจากที่ได้มีการประชุมชี้แจงกับแม่ค้านานกว่า 1 ชั่วโมง จนได้ข้อสรุปว่า ทางเทศบาลจะเก็บค่าต่อสัญญาครั้งละ 5,000 บาท ต่อพื้นที่ 1 เมตร กับแม่ค้าประเภทที่ 2 เหมือนเดิม แต่ทางเทศบาลจะดำเนินการเปลี่ยนชื่อเจ้าของแผงให้เป็นคนปัจจุบันที่เสียค่าต่อสัญญา ส่วนค่าเช่ารายเดือนให้เขียนข้อเรียกร้องในราคาที่ต้องการ และทางเทศบาลจะนำข้อเรียกร้องให้คณะกรรมการประเมินรายได้ ทำการพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งทางกลุ่มแม่ค้าก็พอใจ และต่างแยกย้ายกันกลับไป
โดย น.ส.เสาวลักษณ์ แซ่อื้อ อายุ 39 ปี ผู้ประกอบการจำหน่ายสินค้าตลาดสดมหาราช กล่าวว่า ตนและกลุ่มสมาชิกเดินทางมาที่เทศบาลเมืองกระบี่ เพื่อถามถึงการขึ้นราคาค่าเช่าแผงสินค้าที่เพิ่มมากว่าเท่าตัว ซึ่งจากเดิมค่าเช่าแผงอยู่ที่เดือนละ 500 บาท และค่าต่อสัญญา 2 ปี อยู่ที่ครั้งละ 1,600 บาทต่อแผง ขนาด 1 เมตร แต่มาครั้งนี้ทางเทศบาลกลับปรับราคาค่าเช่าขึ้นเป็นเดือนละ 1,000 บาท และค่าต่อสัญญา 5 พันบาท ต่อแผงขนาด 1 เมตร เช่น มีแผงขายสินค้าขนาดกว้าง 3 เมตร ต้องเสียค่าเช่าเดือนละ 3 พันบาท และค่าต่อสัญญาอีกครั้งละ 15,000 บาท ซึ่งราคาเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว เกินกว่าที่แม่ค้าจะสามารถจ่ายได้ จึงได้เดินทางมาเรียกร้อง