ปัตตานี - ชาวประมงพื้นบ้าน วอนภาครัฐเร่งหามาตรการช่วยเหลือ หลังเจอคลื่นลมมรสุมแรงจนไม่สามารถออกจับสัตว์ทะเลได้ คาดยาวกว่าเดือน ส่งผลให้ขาดรายได้
จากบริเวณความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนที่แผ่ลงมาปกคลุมประทศไทยตอนบน ซึ่งถึงแม้จะมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังแรง และคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างคลื่นยังคงสูง 2-3 เมตร
ขณะที่ จ.ปัตตานี ยังคงแจ้งเตือนให้ประชาชนที่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งอ่าวไทยใน 6 อำเภอ ประกอบด้วย อ.หนองจิก อ.เมือง อ.ยะหริ่ง อ.ปะนาเระ อ.สายบุรี และ อ.ไม้แก่น ระมัดระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงนี้ออกไปอีก
ด้าน นายประมุข ลมุล ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ลงพื้นที่บ้านแหลมนก ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี เพื่อตรวจสอบสภาพคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่ง จนน้ำทะเลล้นพนังกันคลื่น เข้าท่วมพื้นที่ใกล้ที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน และเกรงจะเกิดอันตราย โดยได้มีการกำชับให้มีการจัดเวรยามคอยเฝ้าระวัง รวมทั้งมีการเตรียมพร้อมอพยพหากสถานการณ์รุนแรงขึ้นตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกันนี้ ยังได้รับทราบข้อมูลจากชาวประมงพื้นบ้านที่ได้ขอความช่วยเหลือให้ทางจังหวัดเร่งหาอาชีพเสริม ให้สามารถมีรายได้ เนื่องจากกำลังประสบปัญหาชาวประมงพื้นบ้านไม่สามารถออกทะเลจับสัตว์น้ำในช่วงที่เกิดมรสุมได้ทั้งหมู่บ้าน และกำลังได้รับความเดือดร้อน ซึ่งอาจยืดเยื้อยาวนานกว่า 3 เดือน
นายอริสมันต์ สะแอแต๊ะ ผู้ใหญ่บ้านแหลมนก กล่าวว่า อยากให้หน่วยงานของรัฐได้จัดหางบประมาณเข้ามาจ้างงานชาวบ้าน ทำความสะอาดเก็บกวาดขยะที่มากับทะเลเพื่อให้มีงานทำ ซึ่งตอนนี้ ชาวประมงเกือบทั้งหมู่บ้านไม่มีงานทำ และคงต้องรอไปจนถึงเดือน ก.พ. ทำให้ขณะนี้ไม่มีรายได้ และอย่างน้อยหากมีงบประมาณเข้ามาช่วยชาวบ้านก็จะได้ไม่ต้องคอย
จากบริเวณความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนที่แผ่ลงมาปกคลุมประทศไทยตอนบน ซึ่งถึงแม้จะมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังแรง และคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างคลื่นยังคงสูง 2-3 เมตร
ขณะที่ จ.ปัตตานี ยังคงแจ้งเตือนให้ประชาชนที่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งอ่าวไทยใน 6 อำเภอ ประกอบด้วย อ.หนองจิก อ.เมือง อ.ยะหริ่ง อ.ปะนาเระ อ.สายบุรี และ อ.ไม้แก่น ระมัดระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงนี้ออกไปอีก
ด้าน นายประมุข ลมุล ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ลงพื้นที่บ้านแหลมนก ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี เพื่อตรวจสอบสภาพคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่ง จนน้ำทะเลล้นพนังกันคลื่น เข้าท่วมพื้นที่ใกล้ที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน และเกรงจะเกิดอันตราย โดยได้มีการกำชับให้มีการจัดเวรยามคอยเฝ้าระวัง รวมทั้งมีการเตรียมพร้อมอพยพหากสถานการณ์รุนแรงขึ้นตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกันนี้ ยังได้รับทราบข้อมูลจากชาวประมงพื้นบ้านที่ได้ขอความช่วยเหลือให้ทางจังหวัดเร่งหาอาชีพเสริม ให้สามารถมีรายได้ เนื่องจากกำลังประสบปัญหาชาวประมงพื้นบ้านไม่สามารถออกทะเลจับสัตว์น้ำในช่วงที่เกิดมรสุมได้ทั้งหมู่บ้าน และกำลังได้รับความเดือดร้อน ซึ่งอาจยืดเยื้อยาวนานกว่า 3 เดือน
นายอริสมันต์ สะแอแต๊ะ ผู้ใหญ่บ้านแหลมนก กล่าวว่า อยากให้หน่วยงานของรัฐได้จัดหางบประมาณเข้ามาจ้างงานชาวบ้าน ทำความสะอาดเก็บกวาดขยะที่มากับทะเลเพื่อให้มีงานทำ ซึ่งตอนนี้ ชาวประมงเกือบทั้งหมู่บ้านไม่มีงานทำ และคงต้องรอไปจนถึงเดือน ก.พ. ทำให้ขณะนี้ไม่มีรายได้ และอย่างน้อยหากมีงบประมาณเข้ามาช่วยชาวบ้านก็จะได้ไม่ต้องคอย