ตร.สงขลาเรียกสอบ “อุทิศ” หลังพบข้อมูลมีส่วนเชื่อมโยงคดีฆ่า “นายกฯ พีระ”

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ตำรวจสงขลาเรียกตัว นายอุทิศ ชูช่วย นายก อบจ.สงขลา มาสอบสวน หลังพบข้อมูลบางอย่างมีส่วนเชื่อมโยงคดีฆ่า “นายกฯ พีระ” แต่ส่งทนายขอเลื่อนนัดสอบปากคำเป็นต้นมกราคม 56 ชาวสงขลาเฝ้าจับตาคดีนี้ แหล่งข่าวเผย ได้กลิ่นล้มมวยวิ่งเต้นในชั้นสอบสวนด้วยเงิน 7 หลัก

ความคืบหน้ากรณี นายพีระ ตันติเศรณี อดีตนายกเทศมนตรีนครสงขลา ถูกคนร้ายยิงถล่มด้วยอาวุธปืนสงครามจนเสียชีวิตคาที่ บริเวณหน้าร้านสงขลาฟอรั่ม เลขที่ 97 ถนนนครใน เขตเทศบาลเมือง ต่อมา ตำรวจได้พยายามรวบรวมพยานหลักฐาน จนสามารถทยอยนำไปสู่การเสนออนุมัติศาลจังหวัดสงขลาออกหมายจับตัวผู้ต้องหาที่มีส่วนพัวพันในคดีนี้ รวมทั้งหมดในขณะนี้รวม 5 คนคือ นายไพศาล หนูพันธ์ อายุ 47 ปี นายนิวัฒน์ รัตน์แก้ว อายุ 47 ปี นายฉ้วน หมวดมี อายุ 50 ปี นายชยันต์ หนูพันธ์ อายุ 41 ปี และล่าสุด คือนายกิตติ ชูช่วย อายุ 47 ปี เจ้าของสถานีสงขลาเรดิโอ และยังเป็นน้องชายนายอุทิศ ชูช่วย นายก อบจ.สงขลา จุดที่คนร้ายนำรถยนต์กระบะคันที่ใช้ก่อเหตุไปจอดทิ้งไว้ ก่อนสับเปลี่ยนรถยนต์อีกคันขับหลบหนีไป กระทั่งถูกตำรวจออกหมายจับในข้อหาร่วมกันฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และเป็นผู้จ้างวาน แต่นายกิตติ ได้ชิงมอบตัวก่อน

วันนี้ (24 ธ.ค.) ที่ สภ.เมืองสงขลา พ.ต.ท.สัญญา เจริญแระ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสงขลา ได้เรียกตัว นายอุทิศ ชูช่วย นายก อบจ.สงขลา เพื่อมาสอบปากคำ หลังพบข้อมูลบางอย่างที่มีส่วนเชื่อมโยงกับคดีนี้ โดยนายอุทิศ ได้ให้ทนายความส่วนตัว ทำเรื่องถึงพนักงานสอบสวน ขอเลื่อนนัดสอบปากคำไปวันที่ 7 มกราคม 2556 โดยอ้างว่า ยังไม่พร้อมที่จะมาให้การ เนื่องจากติดภารกิจ ทางฝ่ายพนักงานสอบสวนจึงได้อนุมัติเลื่อนไปต้นเดือนมกราคม หากถึงเวลานัดนายอุทิศ ยังไม่ยอมมาก็จะดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

โดยคดีนี้ เป็นที่สนใจของประชาชนชาว จ.สงขลา เนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญ คนร้ายกระทำการโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย และมีประชาชนจำนวนมากคอยเฝ้าดูและติดตามเหตุการณ์โดยตลอด และชาวบ้านเริ่มไม่มั่นใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ เนื่องจากกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นผู้กว้างขวาง และรู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ในวงราชการ มีการวิ่งเต้นให้ล้มคดีนี้ ถึงแม้ผู้ต้องหาทั้งหมดได้เข้ามอบตัวแล้ว แต่ยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา หากเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหลักฐานไม่เพียงพอผู้ต้องหาทั้งหมดก็จะไม่ได้รับโทษตามกฎหมาย โดยชาวบ้านคนหนึ่งบอกว่า คดีนี้อาจมีการล้มมวยก็เป็นได้ และมีแหล่งข่าวบอกว่าคดีนี้ในชั้นสอบสวนมีการวิ่งเต้นจะให้เงินเจ้าหน้าที่บางคนเป็นเงินสูงถึง 7 หลักด้วย แต่ไม่มีใครกล้าเล่นด้วย