นครศรีธรรมราช - ตำรวจเข้าตรวจยึดยาแก้ไอในโกดังร้านขายยาชื่อดังกลางเมืองนครศรีธรรมราช พบใบส่งของกว่า 8 หมื่นขวด ส่งขายแล้วจำนวนมาก เหลือเพียง 1.8 หมื่นขวด ขณะเดียวกัน ตำรวจสอบสวนกลางเข้ายึดยาบ้ารวม 5 หมื่นเม็ด ถูกนำมาพักไว้ในโรงแรม ส่วนเจ้าของหลบหนี แต่วงจรปิดจับภาพได้
วันนี้ (19 ธ.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. พ.ต.ท.ฉกาจ เลิกอาราม สว.กก.6 กองบังคับการกองปราบปราม พ.ต.ท.ธีระวุฒิ เทพเลื่อน สว.กก.สส.ภ.นครศรีธรรมราช และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าทำการตรวจสอบโกดังเก็บยาเลขที่ 12/32-33 ถ.เอกนคร ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามได้ติดตามรถขนส่งต้องสงสัยกำลังขนลังขนาดใหญ่ใส่รถ จึงแสดงตัวและทำการตรวจสอบพบว่า เป็นยาแก้ไอจำนวนมาก โดยเป็นสูตรที่นิยมในนักเสพยาเสพติดชนิดสี่คูณร้อย
ส่วนโกดังดังกล่าวนั้น ได้มีนายสัญญา ไชยพาณิชย์ แสดงตัวเป็นเจ้าของ พร้อมทั้งนำใบอนุญาต และใบส่งของจากร้านขายยาแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานครมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ และเมื่อเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจใบส่งของพบว่า มีการส่งยาแก้ไอมายังโกดังแห่งนี้ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ถึง 415 ลัง หรือ 83,000 ขวด แต่เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจนับพบว่า เหลืออยู่เพียง 94 ลัง หรือ 18,800 ขวด เจ้าหน้าที่จึงทำการอายัดไว้ทั้งหมด
โดยทางสาธารณสุขจังหวัดจะต้องตรวจสอบถึงที่มาของยาจำนวนดังกล่าวกับคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย.รวมทั้งหลักเกณฑ์ในการครอบครองยาจำนวนมาก เพื่อเตรียมดำเนินคดีอย่างรัดกุม และให้เจ้าของชี้แจงถึงยาจำนวนกว่า 300 ลัง ที่ขายไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจสอบ ขณะที่นายสัญญา เจ้าของอ้างว่า อย.ห้ามซื้อจากผู้ผลิตเกินกว่า 300 ขวด แต่ไม่ได้ห้ามซื้อจากร้านขายยาด้วยกัน หรือยี่ปั๊ว
ซึ่งในวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลางจำนวนหนึ่งได้เข้าประสานขอกำลังจาก พ.ต.อ.สมพงศ์ ทิพย์อาภากุล ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เพื่อเข้าทำการจับกุมคนร้ายที่ลักลอบขนยาเสพติดจำนวนมากเข้ามาหลบอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่งกลางเมืองนครศรีธรรมราช หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้เข้าแสดงตัวต่อพนักงานโรงแรมพบว่า คนร้ายมาเปิดห้องพักชั้น 5 ของโรงแรมดังกล่าว
โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าทำการปิดล้อม และเข้าไปในห้องพบว่า ไม่มีคนร้ายอยู่ในภายใน แต่สามารถตรวจยึดยาบ้ารวม 5 หมื่นเม็ด มูลกว่า 8 ล้านบาท และเมื่อตรวจสอบวงจรปิดพบว่า ผู้ที่ถือยาบ้าเข้ามานั้นเป็นคนร้าย 2 คน ตรงกับที่เจ้าหน้าที่ติดตามจึงขอหมายจับจากศาลเพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไปแล้ว
วันนี้ (19 ธ.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. พ.ต.ท.ฉกาจ เลิกอาราม สว.กก.6 กองบังคับการกองปราบปราม พ.ต.ท.ธีระวุฒิ เทพเลื่อน สว.กก.สส.ภ.นครศรีธรรมราช และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าทำการตรวจสอบโกดังเก็บยาเลขที่ 12/32-33 ถ.เอกนคร ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามได้ติดตามรถขนส่งต้องสงสัยกำลังขนลังขนาดใหญ่ใส่รถ จึงแสดงตัวและทำการตรวจสอบพบว่า เป็นยาแก้ไอจำนวนมาก โดยเป็นสูตรที่นิยมในนักเสพยาเสพติดชนิดสี่คูณร้อย
ส่วนโกดังดังกล่าวนั้น ได้มีนายสัญญา ไชยพาณิชย์ แสดงตัวเป็นเจ้าของ พร้อมทั้งนำใบอนุญาต และใบส่งของจากร้านขายยาแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานครมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ และเมื่อเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจใบส่งของพบว่า มีการส่งยาแก้ไอมายังโกดังแห่งนี้ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ถึง 415 ลัง หรือ 83,000 ขวด แต่เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจนับพบว่า เหลืออยู่เพียง 94 ลัง หรือ 18,800 ขวด เจ้าหน้าที่จึงทำการอายัดไว้ทั้งหมด
โดยทางสาธารณสุขจังหวัดจะต้องตรวจสอบถึงที่มาของยาจำนวนดังกล่าวกับคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย.รวมทั้งหลักเกณฑ์ในการครอบครองยาจำนวนมาก เพื่อเตรียมดำเนินคดีอย่างรัดกุม และให้เจ้าของชี้แจงถึงยาจำนวนกว่า 300 ลัง ที่ขายไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจสอบ ขณะที่นายสัญญา เจ้าของอ้างว่า อย.ห้ามซื้อจากผู้ผลิตเกินกว่า 300 ขวด แต่ไม่ได้ห้ามซื้อจากร้านขายยาด้วยกัน หรือยี่ปั๊ว
ซึ่งในวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลางจำนวนหนึ่งได้เข้าประสานขอกำลังจาก พ.ต.อ.สมพงศ์ ทิพย์อาภากุล ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เพื่อเข้าทำการจับกุมคนร้ายที่ลักลอบขนยาเสพติดจำนวนมากเข้ามาหลบอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่งกลางเมืองนครศรีธรรมราช หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้เข้าแสดงตัวต่อพนักงานโรงแรมพบว่า คนร้ายมาเปิดห้องพักชั้น 5 ของโรงแรมดังกล่าว
โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าทำการปิดล้อม และเข้าไปในห้องพบว่า ไม่มีคนร้ายอยู่ในภายใน แต่สามารถตรวจยึดยาบ้ารวม 5 หมื่นเม็ด มูลกว่า 8 ล้านบาท และเมื่อตรวจสอบวงจรปิดพบว่า ผู้ที่ถือยาบ้าเข้ามานั้นเป็นคนร้าย 2 คน ตรงกับที่เจ้าหน้าที่ติดตามจึงขอหมายจับจากศาลเพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไปแล้ว
