ยะลา - พิชิต “เสือโคร่ง” ที่คร่าชีวิตชาวยะลาไป 3 ศพ และสร้างความปั่นป่วนมาเกือบปีได้แล้ว หลังระดมเจ้าหน้าที่และชาวบ้านพร้อมอาวุธครบมือกว่าครึ่งพันไล่ล่า เผยหวังจะจับให้ได้ตัวเป็นๆ แต่สุดท้ายต้องสาดเอชเค และเอ็ม 16 ใส่กลายเป็นศพ
บ่ายวันนี้ (13 ธ.ค.) นายก้องสกุล จันทราช นายอำเภอธารโต จ.ยะลา ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่บ้านวังศิลา หมู่ที่ 10 ต.บ้านแหร อ.ธารโต จ.ยะลา ว่า พบเสือโคร่งกำลังไล่ตะปบสุนัขของชาวบ้านอยู่บริเวณหลังโรงเรียนบ้านวังศิลา จึงได้อำนวยการสั่งการให้นายปรเมศร์ จันแสง ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง นำกำลังเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทหารพราน อส. และชาวบ้านกว่า 500 คน รุดเข้าที่เกิดเหตุ
เมื่อถึงที่เกิดเหตุ พบเสือโคร่งกำลังนอนอยู่ในป่ารกทึบหลังโรงเรียนวังศิลา เจ้าหน้าที่พยายามที่จะจับเป็น แต่เสืออยู่ในอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าซ้ายหน้า เนื่องจากโดนกับดักของชาวบ้านหลังจากที่ไล่ตะปบชาวบ้านเสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บ 2 ราย มาตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค.2555 ที่ผ่านมา เมื่อเจ้าหน้าที่ และชาวบ้านเข้าใกล้เพื่อที่จะจับเป็นเสือได้กระโจนออกมาจากป่ารกทึบเพื่อที่จะกระโจนเข้าหาชาวบ้าน เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนั้นชุดไล่ล่าจึงได้ระดมยิงด้วยปืนลูกซอง แต่ไม่ระคายผิว จึงได้ใช้อาวุธปืนเอชเค และเอ็ม 16 จึงสามารถหยุดความดุร้ายของเสือโคร่งได้
ภายหลังเจ้าหน้าที่ระดมยิง เสือโคร่งตัวดังกล่าวนอนสงบแน่นิ่งอยู่ในป่า ชุดติดตามจึงได้ใช้ไม้ยาวเขี่ยร่างเสือ แต่นิ่งไม่ไหวติงจึงเข้าใจว่าเสือตายแล้ว จึงเข้ามัดร่างเสือทันที ซึ่งเสือมีสภาพผอม เพราะก่อนหน้านี้ผู้ที่เห็นเสือบอกว่าเสือตัวนี้มีน้ำหนักประมาณ 200 กก. สาเหตุที่ผอมลงเนื่องจากหนีการไล่ล่าจากชาวบ้านที่พยายามที่จะจับเป็นเสือให้ได้ เนื่องจากไม่สามารถประกอบอาชีพได้ ขณะที่ผลไม้ เช่น ลองกอง ทุเรียน เงาะ กำลังออกผลผลิต
อย่างไรก็ดี ทางชุดล่าเสือโคร่งตัวนี้จะนำร่างเสือส่งมอบให้กรมอุทยานสัตว์ป่าฯ ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป