สตูล - ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ขานรับสตูลเป็นบ้านพี่เมืองน้อง พร้อมผลักดันความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการเดินทางจากเกาะหลีเป๊ะไปลังกาวี รวมทั้งเชฟปรุงอาหารไทย และพนักงานบริการสาขาต่างๆ ในโรงแรมซึ่งเกาะลังกาวีกำลังขาดแคลน
เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายเหนือชาย จิระอภิรักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมด้วยคณะ ได้เดินทางไปยังเกาะลังกาวี รัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย เพื่อขอพบปะหารือกับ ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ณ โรงแรมโฟร์พอยท์ เกาะลังกาวี โดยใช้เวลาในการสนทนาประมาณ 1 ชั่วโมง
ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซียกล่าวว่า เกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย กับ จ.สตูล ประเทศไทย มีความสัมพันธ์อันดีกันมาช้านาน ประชากรของทั้ง 2 ฝั่งได้เดินทางไปมาหาสู่ บ้างก็เป็นเครือญาติกัน และในภาคส่วนราชการก็มีกิจกรรมที่ดำเนินการร่วมกันมา เช่น การฝึกร่วมทางทะเล การแข่งขันตกปลานานาชาติ
โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว ขณะนี้ เกาะลังกาวีมีนักท่องเที่ยวนานาชาติมาเยือนปีละไม่น้อยกว่า 3 ล้านคน เป็นนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อขาย หากมีการแลกเปลี่ยนกันก็จะเป็นการส่งผลดีทางเศรษฐกิจ หาก จ.สตูล สนใจในกิจกรรมใด ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรีก็พร้อมสนับสนุน
นายเหนือชาย จิระอภิรักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล กล่าวว่า การเดินทางมาพบ ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซียครั้งนี้ ได้ยื่นข้อเสนอต่อประเทศมาเลเซียหลายรายการ เช่น การแลกเปลี่ยนด้านการท่องเที่ยวระหว่างเกาะลังกาวีกับเกาะหลีเป๊ะของประเทศไทย ซึ่งเสนอให้มีการตั้งด่านตรวจคนเข้าเมืองระดับถาวรบนเกาะหลีเป๊ะ การร้องขอให้ทางราชการเกาะลังกาวีดูแล และผ่อนปรนแรงงานไทยที่เข้าไปทำงานบนเกาะลังกาวี ซึ่งบางส่วนอาจปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานไม่ครบถ้วนด้วย กล่าวในภาพรวมการเดินทางไปครั้งนี้ถือว่าเป็นประโยชน์กับทางราชการ และ จ.สตูล อย่างมาก และสิ่งที่ จ.สตูล จะสามารถดำเนินการได้ และเกาะลังกาวีมีความต้องการ คือ เชฟปรุงอาหารไทย พนักงานบริการสาขาต่างๆ ในโรงแรม ซึ่งเกาะลังกาวีกำลังขาดแคลน