ชาวบ้านดับปริศนาหลังร่วมประท้วงทหารเรือทำลายผลอาสิน

นครศรีธรรมราช - พนักงานสอบสวน สภ.ขนอม ส่งศพนายเจริญ ประทุม ไปยังสถาบันนิติเวช เพื่อผ่าพิสูจน์สาเหตุการตายอย่างละเอียด หลังญาติไม่ปักใจเชื่อว่ามีสาเหตุมาจากการผูกคอตาย เนื่องจากพบข้อพิรุธจากสภาพศพหลายประการ โดยเหตุเกิดหลังจากที่ไปร่วมชุมนุมประท้วงทหารเรือที่เข้ามาทำลายผลอาสินในที่ดินครอบครอง

วันนี้ (8 ธ.ค.) หลังจากที่นายเจริญ ประทุม อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เข้าชุมนุมประท้วงขอความเป็นธรรมยังหน้าที่ว่าการอำเภอขนอม จ.นครศรีธรรมราช ต่อกรณีทหารเรือชุดเฉพาะกิจ 321 เข้าทำการรื้อถอนผลอาสินในพื้นที่อย่างไม่เป็นธรรม หลังจากนั้น ได้เดินทางกลับบ้าน และไปเลี้ยงวัว ทำไร่ในพื้นที่พิพาท ปรากฏว่า ในช่วงดึก ภรรยา และบุตรสาวไม่พบว่านายเจริญกลับบ้านมาเช่นปกติ จึงออกตามหา กลับพบว่า นายเจริญเสียชีวิตอยู่ในสภาพแขวนคอกับต้นมะขามภายในไร่ในช่วงกลางคืนที่ผ่านมา และมีสภาพศพที่ผิดปกติ โดยเฉพาะสภาพบาดแผลที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับการฆ่าตัวตาย

โดยในช่วงเช้าของวันนี้ ครอบครัวได้นำศพของนายเจริญ มาเตรียมบำเพ็ญกุศลที่บ้านเลขที่ 11 ม.4 ต.ท้องเนียน อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช และเมื่อต่างได้เห็นสภาพศพทำให้ญาติไม่มั่นใจว่า นายเจริญเสียชีวิตเนื่องจากการฆ่าตัวตาย แต่น่าจะเป็นการถูกกระทำให้ตายก่อนที่จะถูกนำศพมาแขวนคอ เนื่องจากมีสภาพบาดแผลหลายจุด จึงเข้าพบพนักงานสอบสวนเนื่องจากติดใจในสาเหตุการตาย

ขณะที่ พ.ต.ท.วชิรพันธ์ เกื้อแก้ว รอง ผกก.สส.สภ.สภ.ขนอม ระบุว่า ได้ทำหนังสือส่งศพนายเจริญไปยังสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อทำการผ่าชันสูตรหาสาเหตุการตายอย่างละเอียด เนื่องจากญาติของนายเจริญติดใจในสาเหตุการตายหลังจากได้ดูศพแล้วพบข้อสงสัย ซึ่งในส่วนของพนักงานสอบสวนได้ให้ความเป็นธรรมในเรื่องนี้แก่ทุกฝ่าย และเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เนื่องจากกลุ่มที่ญาติของผู้ตายสงสัยนั้นเป็นข้าราชการ

น.ส.ฉวีวรรณ ประทุม บุตรสาวของผู้ตายระบุว่า หลังจากที่พ่อได้ไปชุมนุมร้องเรียนขอความเป็นธรรมถึงเรื่องที่ทหารเรือที่เข้ามาทำลายผลอาสินในที่ดินครอบครอง รวมทั้งแนวหลักเขตได้กลับมาบ้านแล้วไปเลี้ยงวัว และทำไร่เช่นปกติ จนตกค่ำยังไม่กลับบ้านจึงไปตาม กลับพบว่าเสียชีวิตในสภาพแขวนคออยู่แล้ว โดยสภาพศพมีลักษณะผิดปกติอย่างมาก ทั้งบาดแผล และลักษณะของศพ รวมทั้งมีดพร้าที่ติดตัวเป็นประจำตกอยู่ห่างจากศพกว่า 50 เมตร

ขณะที่ ร.อ.อุเทน บัวทิม ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจที่ 321 กองเรือภาคที่ 2 ซึ่งมีหน่วยประจำการอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุไม่มากนักได้แสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต และขอยืนยันว่า กำลังพลของชุดเฉพาะกิจที่ 321 ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ และกรณีพิพาทที่ดินตามปรากฏเป็นข่าวนั้น กองทัพเรือมีการพิพากที่ดินกับชาวบ้านในพื้นที่เพียง 6 ราย และไม่มีชื่อของ นายเจริญ เป็นผู้ที่พิพาทอยู่ด้วย ส่วนทั้ง 6 รายนั้น ได้ดำเนินการไปตามขั้นตอนทางกฎหมายโดยทหารพระธรรมนูญ และยืนยันว่่า ที่ดินแปลงที่ นายเจริญ ครอบครองนั้นไม่ได้เป็นที่ดินราชพัสดุที่ทหารเรือครอบครอง