ตรัง - คนร้ายใช้เอ็ม 16 และ 9 มม.ยิงโหดหนุ่มใหญ่ชาวสวนยางพาราเมืองตรังเสียชีวิตคาที่ในคืนลอยกระทง สภาพศพนอนพนมมือไหว้ขอชีวิต แต่มือปืนก็ไม่ปรานี ตร.มุ่งปมขัดแย้งส่วนตัว และธุรกิจบางอย่าง
วันนี้ (29 พ.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น. ร.ต.ต.วิสวัส ไพบูลย์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.ปะเหลียน จ.ตรัง ได้รับแจ้งเหตุพบศพคนถูกฆ่าตายภายในสวนยางพารา ซอยต้นไทร หมู่ที่ 9 ต.ท่าข้าม จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.นิรัตน์ ปานดำ ผกก.สส.ภ.จว.ตรัง และ พ.ต.อ.สมศักดิ์ ศรีแสง ผกก.สภ.ปะเหลียน นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่งรุดไปตรวจสอบร่วมกับแพทย์เวร และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย
จากการตรวจสอบทราบชื่อคือ นายวิสุทธิ์ ไมเรกัน อายุ 40 ปี อาชีพรับจ้างกรีดยาง อยู่บ้านเลขที่ 139/3 หมู่ที่ 9 ต.สุโสะ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง เสียชีวิตอยู่ใต้โคนต้นยางพารา ในสภาพสวมชุดกรีดยาง และนอนพนมมือไหว้ขอชีวิต มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนสั้นขนาด 9 มม. เข้าที่บริเวณโหนกแก้มขวา 1 นัด และชนิดลูกซองสั้นไม่ทราบขนาดเข้าที่บริเวณหน้าอก และชายโครงขวา รวม 2 นัด
ในที่เกิดเหตุ ยังพบกระสุนปืน ขนาด 9 มม. ตกอยู่จำนวน 1 ปลอก และชนิดเอ็ม 16 ตกอยู่จำนวน 2 ปลอก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้ ยังพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ สแมช สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งเป็นของนายวิสุทธิ์ ผู้ตาย ล้มอยู่ห่างจากจุดพบศพประมาณ 30 เมตร รวมทั้งยังพบร่องรอยการขับขี่รถจักรยานยนต์ของคนร้ายผ่านมาตามถนนลูกรังภายในสวนยางพาราด้วย
นายสุวิทย์ ไมเรกิน อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นน้องชายของนายวิสุทธิ์ ผู้ตายให้การว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ตนได้ชักชวนพี่ชายไปเที่ยวงานลอยกระทงใกล้บ้านแต่เจ้าตัวไม่ยอมไป และบอกว่าขอไปกรีดยางพาราดีกว่า ก่อนที่จะหายออกจากบ้านไปตั้งแต่ช่วงกลางดึก แล้วมีผู้มาพบว่ากลายเป็นศพในเวลาต่อมา สำหรับสาเหตุความขัดแย้งนั้นทางครอบครัวไม่เคยทราบ เพราะพี่ชายไม่เคยบอกกล่าวอะไรให้ฟัง
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปะเหลียน ระบุว่า คนร้ายประมาณ 2 คน น่าจะขับขี่รถจักรยานยนต์เข้าประกบก่อนใช้อาวุธปืนซึ่งบรรจุกระสุนชนิดเอ็ม 16 ยิงใส่ร่าง 3 นัดซ้อน จนทำให้นายวิสุทธิ์ เสียหลักล้มลงจากรถจักรยานยนต์แล้วพยายามวิ่งหนีไปที่โคนต้นยางพารา แต่คนร้ายก็ยังไล่ตามก่อนใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. จ่อยิงซ้ำที่แก้มขวา ทั้งๆ ที่นายวิสุทธิ์นอนยกมือไหว้ขอชีวิตแล้ว จากนั้นคนร้ายทั้งหมดได้หลบหนีไป
สำหรับสาเหตุเบื้องต้นมุ่งไปที่ความขัดแย้งส่วนตัว และธุรกิจบางอย่าง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป