โดย...วรากรณ์ สามโกเศศ
สองเรื่องสำคัญในชีวิตมนุษย์คือการจัดการการเงินส่วนตัว และการเลี้ยงลูก แต่ทั้งสองเรื่องซึ่งสำคัญที่สุดกลับไม่มีการสอนกันเป็นเรื่องเป็นราว ดังนั้น เมื่อใครกล่าวถึงสองเรื่องนี้อย่างน่าฟัง จึงสมควรนำมาเล่าต่อ
เมื่อเร็วๆ นี้ ผมได้พบข้อเขียนเรื่องการจัดการเงินส่วนตัวของ Mr.Adam Khoo คนสิงคโปร์ ซึ่งเป็นนักธุรกิจสำคัญคนหนึ่งของภูมิภาค ผมไม่ขอแปลคำต่อคำแต่ขอเก็บเนื้อความแทนหัวข้อของสิ่งที่เขาเขียนชื่อ Power of Money
Khoo รู้จักเมืองไทยดี และเดินทางมาบ่อยๆ มีอายุเพียง 26 ปี เป็นมหาเศรษฐีด้วยความสามารถของตนเอง ถึงแม้ว่าจะมีพ่อเป็นมหาเศรษฐีด้วยก็ตามที เขามีชื่อเสียงในความเก่งด้านการสื่อสาร และการจัดการ เขาเป็นมหาเศรษฐีที่มีอายุน้อยของสิงคโปร์ในปัจจุบัน
เขาเริ่มเล่าว่า มีคนพบเขานั่งเครื่องบินในชั้นประหยัด และสงสัยว่าทำไม มหาเศรษฐีอย่างเขาจึงบินชั้นประหยัด เขาก็ตอบว่า ก็เพราะนั่งแบบนี้แหละ จึงทำให้ผมเป็นมหาเศรษฐี
Khoo บอกว่า คนจำนวนมากถูกล้างสมองว่ามหาเศรษฐีต้องใช้ Gucci/Hugo Boss ใส่นาฬิกา Rolex และนั่งเครื่องบิน First Class และนี่คือเหตุผลว่าทำไมคนจำนวนมากจึงไม่มีวันรวย ทั้งนี้ เนื่องจากพอมีเงินก็คิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องใช้จ่ายมากขึ้น ซึ่งจะทำให้กลับไปสู่จุดเริ่มต้นคือ ความไม่รวย
ความจริงของเศรษฐีสร้างตัวเองส่วนใหญ่ก็คือ เขามัธยัสถ์ (frugal) กันทั้งนั้น จะใช้จ่ายเงินเฉพาะสิ่งที่จำเป็น และมีคุณค่า นี่คือเหตุผลว่าทำไมคนเหล่านี้จึงสามารถสั่งสม และเพิ่มความร่ำรวยได้อีกหลายเท่าอย่างรวดเร็ว
ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา เขาออมได้ร้อยละ 80 ของรายได้ แต่ปัจจุบัน เขาออมได้เพียงร้อยละ 60 (มีภรรยา และลูกสองคน แม่ยาย คนใช้ 2 คน ฯลฯ ที่ต้องดูแล) แต่ถึงกระนั้น ก็ยังสูงกว่าคนส่วนใหญ่ที่ออมได้เพียงร้อยละ 10 ของรายได้ (ถ้าโชคดีพอ)
ตัวเขาปฏิเสธที่จะซื้อตั๋ว First Class ซื้อเสื้อเชิ้ตตัวละ 15,000 บาท เพราะคิดว่าเป็นการสูญเปล่าของเงิน แต่เขายินดีจะจ่าย 40,000 บาท ส่งลูกสาวอายุ 2 ขวบ เข้าหลักสูตรฝึกพูด และการแสดงโดยไม่ลังเลใจเลยแม้แต่น้อย
ในการพบปะกับเหล่าเศรษฐีซึ่งมีอายุต่ำกว่า 40 ปี (มีรายได้จากธุรกิจไม่ต่ำกว่าปีละ 30 ล้านบาท) เขาพบว่า พวกเศรษฐีที่สร้างตัวเองคิดเหมือนเขา หลายคนมีทรัพย์สินสุทธิมากกว่า 150 ล้านบาท แต่บิน Economy Class ขับรถ Toyota หรือ Nissan ไม่ใช่ Audi หรือ BMW หรือ Mercedes-Benz
เขาพบว่า พวกที่ไม่เคยต้องทำงานหนักสร้างธุรกิจจนสู่ความร่ำรวย คือผู้ที่ใช้จ่ายเงินสนุกมือราวกับว่าจะไม่มีวันพรุ่งนี้ ที่เป็นอย่างนี้ก็เนื่องจากพวกเขาไม่เคยต้องสร้างอะไรจากจุดเริ่มต้น ดังนั้น พวกเขาจึงไม่เห็นคุณค่าของเงินอย่างแท้จริงและนี่คือเหตุผลว่าเหตุใดความมั่นคงจึงยากที่จะคงทนถึงชั่วคนที่สาม
เขาขอบคุณพ่อเขาที่ไม่ได้ให้เงินเขาแม้แต่เซ็นต์เดียวในการก่อร่างสร้างธุรกิจของเขา เพราะพ่อเขามองทะลุว่า เขาจะเห็นคุณค่าของเงินต่างออกไปหากเขาสร้างธุรกิจขึ้นมาด้วยตัวของเขาเอง
Khoo เล่าต่อไปว่า มีคนถามเขาว่า แล้วจะมีประโยชน์อะไรถ้าหาเงินได้มากมายแล้วไม่หาความสุขจากมัน? คำตอบของเขาคือ เขาไม่เคยพบความสุขที่แท้จริงเลยจากการซื้อสินค้าแบรนด์เนม เพชรนิลจินดา หรือนั่ง First Class อย่างไรก็ดี การซื้อบางสิ่งอาจทำให้มีความสุขแต่มันก็เกิดขึ้นไม่นาน และไม่คงทน
ความสุขจากวัตถุนิยมไม่มีวันคงทน มันเพียงให้ความสุขชนิดเยียวยาประเดี๋ยวเดียว (Quick Fix) เท่านั้น หลังจากนั้นก็จะรู้สึกเบื่อเซ็ง และต้องซื้ออีกเพราะคิดว่าจะทำให้มีความสุข เขาคิดว่าถ้าเขาต้องการวัตถุเพื่อทำให้เขามีความสุขแล้ว เขาคงจะมีชีวิตที่ค่อนข้างเศร้า และเป็นชีวิตที่ไม่รู้สึกว่าเต็มเป็นแน่
สิ่งที่ทำให้เขามีความสุขก็คือ การเห็นลูกหัวเราะ เล่น และเรียนรู้อย่างรวดเร็ว เขามีความสุขเมื่อเห็นบริษัท และเพื่อนร่วมงานของเขาขยายงานมากขึ้นไปยังหลายประเทศ สิ่งที่ทำให้เขามีความสุขอย่างแท้จริงก็คือ เมื่อเขาอ่านอีเมลที่ส่งมาถึงเขา และบอกว่าหนังสือ และการพูดของเขาสร้างแรงบันดาลใจให้ชีวิตของใครบางคน ความรู้สึกดีๆ อย่างนี้อยู่กับเขานาน และมากกว่าความสุขที่ได้รับจากการเป็นเพียงเจ้าของนาฬิการาคาแพง
ประเด็นที่เขาเน้นก็คือ ความสุขต้องมาจากการทำงานที่สำคัญของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการสอน สร้างบ้าน ออกแบบ ค้าขาย ชนะการแข่งขัน ฯลฯ ส่วนเงินนั้นเป็นเพียงผลพลอยได้เท่านั้น
เขาบอกว่า ถ้าคุณเกลียดสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่แต่ต้องพึ่งเงินที่หามาได้เพื่อจะเป็นตัวทำให้เกิดความสุขจากการซื้อวัตถุ เขาคิดว่าคุณกำลังใช้ชีวิตที่ไร้ความหมายอย่างสิ้นเชิง
หมายเหตุตอนจบก็คือ Khoo เขียนหนังสือขายดีชื่อ Secrets of Self-Made Millionaires / I am gifted, So Are You / How to Multiply you Childs Intelligence ฯลฯ เขาเป็นวิทยากรอบรมที่มีชื่อเสียง เขาทำธุรกิจเกี่ยวกับการศึกษา โดยเฉพาะเรื่องการฝึกอบรมสัมมนา การจัด Event และโฆษณา ฯลฯ
หนังสือของเขาขายดีมาก และเต็มไปด้วยสาระน่าคิด สำหรับคนอายุ 26 ปี Adam Khoo นั้นไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
ข้อมูลจาก “เศรษฐ์ตังค์” จุลสารเพิ่มพูนความรู้เศรษฐศาสตร์ ปีที่ 4 ฉบับที่ 1 มกราคม-มีนาคม 2555 คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์