ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ชุดสืบสวน ตร.ภูธรเมืองภูเก็ต ตามรวบ 3 ผู้ต้องหาร่วมกันลักทรัพย์-รับของโจร ยึดของกลางได้เพียบ แกะรอยจากสติกเกอร์ติดรถ
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (27 พ.ย.) ที่ห้องประชุมสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต พ.ต.อ.พีรยุทธ การะเจดีย์ รอง ผบก.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.เสริมพันธ์ ศิริคง ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต และ พ.ต.ท.ประวิทย์ เอ่งฉ้วน สารวัตรสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาคดีร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานฯ พร้อมของกลางหลายรายการ เช่น กล้องถ่ายรูปยี่ห้อแคนนอน กระเป๋า คอมพิวเตอร์ เครื่องประดับ และของกลางอื่นๆ อีกหลายรายการ ทั้งนี้ การจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เวลากลางวัน ได้มีคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ภายในบ้านเลขที่ 74/249 หมู่บ้านซิตี้โฮม ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต ของนายพีระพันธ์ ปาละคเชนทร์ และเอาทรัพย์สินหลายรายการหลบหนีไป และ พ.ต.ท.พีรพันธ์ มีมาก พนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับคำร้องไว้
ภายหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจภายใต้การอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เร่งติดตามจับกุมคนร้าย ซึ่งมีพฤติกรรมงัดแงะเข้าไปลักทรัพย์สินตามบ้านเรือนของประชาช นก่อความเดือดร้อนแก่ชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตโดยเร่งด่วน ซึ่งจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ตทราบว่า ผู้ก่อเหตุเข้าไปลักทรัพย์ภายในบ้านเลขที่ 74 /249 หมู่บ้านซิตี้โฮม ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา มีจำนวน 2 คน คือ นายสันติ หรือเอ็กซ์ สุขจำลอง และนายอดิศร หรือสร หินแก้ว ซึ่งใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า ฟิโน่ สีชมพู ตามภาพวงจรปิดของหมู่บ้านณัฐกมล สาขาแยกศูนย์เครื่องมือกล และตรวจสอบแล้วพบว่า ผู้ต้องหาทั้งสองเป็นคนร้ายที่เคยก่อเหตุร่วมกันเข้าไปลักทรัพย์ภายในหมู่บ้านณัฐกมล ต.รัษฎา เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2555 ด้วย ซึ่งการสืบสวนในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แกะรอยจากสติกเกอร์คำว่า “ลูกเทวดา” ที่ติดไว้บริเวณหน้ารถจักรยานยนต์
หลังจากนั้น พนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติหมายจับคนร้ายตามภาพวงจรปิด ต่อศาลจังหวัดภูเก็ต ตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ 534-535/2555 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2555 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคล หรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยเข้าทางช่องทางซึ่งได้ทำขึ้น โดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม”
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้ทำการตรวจสอบหารถจักรยานยนต์ที่มีตำหนิรูปพรรณตรงกับรถที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุ พบรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟิโน่ สีชมพู ทะเบียน ขฉจ 210 ภูเก็ต ซึ่งเป็นรถเช่าของร้านรถเช่าตั้งอยู่บริเวณถนนพังงา ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต จนสามารถสืบทราบว่า นายสันติ หรือเอ็กซ์ สุขจำลอง พักอาศัยอยู่ที่ห้องเช่าย่านถนนพังงา ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง และในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2555 เวลาประมาณ 15.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.เมือง จับกุมตัวนายสันติ ได้ที่หน้าร้านจี๊ดยอดผัก ถนนพังงา ต.ตลาดใหญ่ และนำตัวมาสอบปากคำ
จากการสอบถามนายเอ็กซ์ รับว่า ได้ร่วมกับนายอดิศร หรือสร หินแก้ว ก่อเหตุลักทรัพย์จริง โดยมีทรัพย์สินที่ได้จากการลักทรัพย์เก็บไว้ที่ห้องพัก โดยนำเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบภายในห้องพัก พบทรัพย์สิ่งซึ่งได้มาจากการลักทรัพย์อยู่ภายในห้องพัก ซึ่งมีกล้องถ่ายรูปแคนนอน 550D พร้อมอุปกรณ์ จำนวน 1 ตัว เป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากบ้านผู้เสียหายภายในหมู่บ้านซิตี้โฮม เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน และมีทรัพย์สินบางรายการเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการร่วมกับนายอดิศร เข้าไปลักทรัพย์บ้านบริเวณบ้านบางทอง ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เมื่อประมาณต้นเดือนตุลาคม 2555
ต่อมา วันเดียวกัน เวลาประมาณ 17.30 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ได้จับกุมนายอดิสร หรือสร หินแก้ว ได้ที่หน้าร้านสะดวกซื้อ ปากซอยธนูเทพ ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต จากการสอบถาม นายดิศร รับว่า ได้ร่วมกันก่อเหตุลักทรัพย์จริง และรับว่า มีทรัพย์สินที่ได้จากการลักทรัพย์เก็บไว้ที่ห้องพัก ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปทำการตรวจสอบภายในห้องพัก พบทรัพย์สินซึ่งได้มาจากการลักทรัพย์อยู่ภายในห้องพัก โดยมีทรัพย์สินเป็นเครื่องประดับหลายรายการ ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ได้ลักมาจากบ้านผู้เสียหายภายในหมู่บ้านซิตี้โฮม เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน และมีกล้องถ่ายรูปแคนนอน 550D พร้อมอุปกรณ์ จำนวน 1 ตัว เป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการเข้าไปลักทรัพย์ในบ้านที่หมู่บ้านณัฐกมล แยกศูนย์เครื่องมือกล ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2555 ด้วย
และจากการสืบสวนเพิ่มเติม พบว่า ผู้ต้องหาทั้งสองได้ขายเครื่องคอมพิวเตอร์ ยี่ห้อเอซุส สีดำ ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ลักมาจากหมู่บ้านซิตี้โฮม เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2555 ให้แก่นายบุญพฤกษ์ หรือหนึ่ง บุญจิตมงคล ซึ่งพักอยู่ที่แมนชัน ถนนศักดิเดช ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต ในราคา 5,000 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ไปตรวจสอบที่ห้องพัก พบนายบุญพฤกษ์ เดินถือเครื่องคอมพ์ดังกล่าวลงมาจากแมนชัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวทำการตรวจสอบพบว่า เป็นทรัพย์สินของผู้เสียหายที่ถูกลักไปจริง และนายบุญพฤกษ์ รับว่าได้ซื้อเครื่องคอมพ์มาจากนายอดิศร และนายสันติ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุมนายบุญพฤกษ์ ในความผิดฐานลักทรัพย์ หรือรับของโจร พร้อมยึดของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (27 พ.ย.) ที่ห้องประชุมสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต พ.ต.อ.พีรยุทธ การะเจดีย์ รอง ผบก.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.เสริมพันธ์ ศิริคง ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต และ พ.ต.ท.ประวิทย์ เอ่งฉ้วน สารวัตรสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาคดีร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานฯ พร้อมของกลางหลายรายการ เช่น กล้องถ่ายรูปยี่ห้อแคนนอน กระเป๋า คอมพิวเตอร์ เครื่องประดับ และของกลางอื่นๆ อีกหลายรายการ ทั้งนี้ การจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เวลากลางวัน ได้มีคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ภายในบ้านเลขที่ 74/249 หมู่บ้านซิตี้โฮม ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต ของนายพีระพันธ์ ปาละคเชนทร์ และเอาทรัพย์สินหลายรายการหลบหนีไป และ พ.ต.ท.พีรพันธ์ มีมาก พนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับคำร้องไว้
ภายหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจภายใต้การอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เร่งติดตามจับกุมคนร้าย ซึ่งมีพฤติกรรมงัดแงะเข้าไปลักทรัพย์สินตามบ้านเรือนของประชาช นก่อความเดือดร้อนแก่ชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตโดยเร่งด่วน ซึ่งจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ตทราบว่า ผู้ก่อเหตุเข้าไปลักทรัพย์ภายในบ้านเลขที่ 74 /249 หมู่บ้านซิตี้โฮม ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา มีจำนวน 2 คน คือ นายสันติ หรือเอ็กซ์ สุขจำลอง และนายอดิศร หรือสร หินแก้ว ซึ่งใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า ฟิโน่ สีชมพู ตามภาพวงจรปิดของหมู่บ้านณัฐกมล สาขาแยกศูนย์เครื่องมือกล และตรวจสอบแล้วพบว่า ผู้ต้องหาทั้งสองเป็นคนร้ายที่เคยก่อเหตุร่วมกันเข้าไปลักทรัพย์ภายในหมู่บ้านณัฐกมล ต.รัษฎา เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2555 ด้วย ซึ่งการสืบสวนในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แกะรอยจากสติกเกอร์คำว่า “ลูกเทวดา” ที่ติดไว้บริเวณหน้ารถจักรยานยนต์
หลังจากนั้น พนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติหมายจับคนร้ายตามภาพวงจรปิด ต่อศาลจังหวัดภูเก็ต ตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ 534-535/2555 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2555 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคล หรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยเข้าทางช่องทางซึ่งได้ทำขึ้น โดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม”
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้ทำการตรวจสอบหารถจักรยานยนต์ที่มีตำหนิรูปพรรณตรงกับรถที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุ พบรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟิโน่ สีชมพู ทะเบียน ขฉจ 210 ภูเก็ต ซึ่งเป็นรถเช่าของร้านรถเช่าตั้งอยู่บริเวณถนนพังงา ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต จนสามารถสืบทราบว่า นายสันติ หรือเอ็กซ์ สุขจำลอง พักอาศัยอยู่ที่ห้องเช่าย่านถนนพังงา ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง และในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2555 เวลาประมาณ 15.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.เมือง จับกุมตัวนายสันติ ได้ที่หน้าร้านจี๊ดยอดผัก ถนนพังงา ต.ตลาดใหญ่ และนำตัวมาสอบปากคำ
จากการสอบถามนายเอ็กซ์ รับว่า ได้ร่วมกับนายอดิศร หรือสร หินแก้ว ก่อเหตุลักทรัพย์จริง โดยมีทรัพย์สินที่ได้จากการลักทรัพย์เก็บไว้ที่ห้องพัก โดยนำเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบภายในห้องพัก พบทรัพย์สิ่งซึ่งได้มาจากการลักทรัพย์อยู่ภายในห้องพัก ซึ่งมีกล้องถ่ายรูปแคนนอน 550D พร้อมอุปกรณ์ จำนวน 1 ตัว เป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากบ้านผู้เสียหายภายในหมู่บ้านซิตี้โฮม เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน และมีทรัพย์สินบางรายการเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการร่วมกับนายอดิศร เข้าไปลักทรัพย์บ้านบริเวณบ้านบางทอง ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เมื่อประมาณต้นเดือนตุลาคม 2555
ต่อมา วันเดียวกัน เวลาประมาณ 17.30 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ได้จับกุมนายอดิสร หรือสร หินแก้ว ได้ที่หน้าร้านสะดวกซื้อ ปากซอยธนูเทพ ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต จากการสอบถาม นายดิศร รับว่า ได้ร่วมกันก่อเหตุลักทรัพย์จริง และรับว่า มีทรัพย์สินที่ได้จากการลักทรัพย์เก็บไว้ที่ห้องพัก ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปทำการตรวจสอบภายในห้องพัก พบทรัพย์สินซึ่งได้มาจากการลักทรัพย์อยู่ภายในห้องพัก โดยมีทรัพย์สินเป็นเครื่องประดับหลายรายการ ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ได้ลักมาจากบ้านผู้เสียหายภายในหมู่บ้านซิตี้โฮม เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน และมีกล้องถ่ายรูปแคนนอน 550D พร้อมอุปกรณ์ จำนวน 1 ตัว เป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการเข้าไปลักทรัพย์ในบ้านที่หมู่บ้านณัฐกมล แยกศูนย์เครื่องมือกล ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2555 ด้วย
และจากการสืบสวนเพิ่มเติม พบว่า ผู้ต้องหาทั้งสองได้ขายเครื่องคอมพิวเตอร์ ยี่ห้อเอซุส สีดำ ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ลักมาจากหมู่บ้านซิตี้โฮม เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2555 ให้แก่นายบุญพฤกษ์ หรือหนึ่ง บุญจิตมงคล ซึ่งพักอยู่ที่แมนชัน ถนนศักดิเดช ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต ในราคา 5,000 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ไปตรวจสอบที่ห้องพัก พบนายบุญพฤกษ์ เดินถือเครื่องคอมพ์ดังกล่าวลงมาจากแมนชัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวทำการตรวจสอบพบว่า เป็นทรัพย์สินของผู้เสียหายที่ถูกลักไปจริง และนายบุญพฤกษ์ รับว่าได้ซื้อเครื่องคอมพ์มาจากนายอดิศร และนายสันติ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุมนายบุญพฤกษ์ ในความผิดฐานลักทรัพย์ หรือรับของโจร พร้อมยึดของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี