อาสาสมัครทั้งชายหญิงในเกือบทุกวัยจากทั่วประเทศไทย ร่วม 800 คน เข้าร่วมโครงการ “รักษ์เล ป่าฟ้า สตูล” ซึ่ง อบจ.สตูล ได้สานต่อเป็นปีที่ 12 ร่วมกับอุทยานแห่งชาติตะรุเตา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตรัง และปศุสัตว์จังหวัดสตูล ระหว่างวันที่ 16-19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวทางทะเล ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2555-15 พฤษภาคม 2556
ซึ่งนอกจากกิจกรรมในครั้งนี้จะเป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แล้ว ยังสอดแทรกการสร้างจิตสำนึกในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมผ่านกิจกรรมต่างๆ ก่อนจะตระเวนเก็บขยะรอบเกาะในเขตอุทยานแห่งชาติ เช่น เกาะหินงาม เกาะอาดัง-ราวี เกาะไข่ เกาะหลีเป๊ะ เป็นต้น
นายสัมฤทธิ์ เลียงประสิทธิ์ นายก อบจ.สตูล กล่าวว่า กิจกรรมนี้ได้รับความสนใจเข้าร่วมเป็นอาสาสมัครเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งเมื่อได้มีโอกาสท่องเที่ยว และเห็นความสวยงามของธรรมชาติแล้ว ก็อาสาที่จะเข้ามาดูแลความสะอาด โดยเรื่องปัญหาขยะบนเกาะนั้นได้มีความพยายามแก้ไขมาโดยตลอด โดยเฉพาะเกาะที่มีประชาชนอาศัย หรือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม แต่การกำจัดขยะนั้นยังไม่เท่าทัน และมีประสิทธิภาพตามปริมาณที่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน
โดยในขณะนี้ ต้องใช้วิธีการขนขยะบนเกาะขึ้นไปกำจัดบนฝั่งแทนวิธีการเผาซึ่งก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ ควบคู่กับการรีไซเคิลขยะที่โรงแรมบางแห่งเริ่มนำมาใช้ ทั้งนี้ หากทุกภาคส่วนยังเมินเฉย และปล่อยให้เกาะหลีเป๊ะเผชิญปัญหาขยะ และน้ำเสียโดยไม่เร่งแก้ไข จะส่งผลต่อคุณภาพน้ำจืดที่สูบขึ้นมาใช้จะไม่เพียงพอ การพัฒนาเกาะหลีเป๊ะก็จะชะงักลงเช่นกัน
ในขณะเดียวกัน อบจ.สตูลได้สนับสนุนงบประมาณจำนวนหนึ่ง ร่วมกับการทำงานของปศุสัตว์ที่ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่จากจังหวัดใกล้เคียงเพื่อมาทำหมันสุนัข และแมวที่เกาะหลีเป๊ะ โดยทำต่อเนื่องมา 3 ปีแล้ว แม้ปริมาณจะไม่ได้ลดลง แต่ก็สามารถควบคุมประชากรสัตว์เลี้ยงไม่ให้ขยายพันธุ์อย่างรวดเร็ว
นายจรัญ ชื่นในธรรม ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตรัง (ตรัง-สตูล) กล่าวว่า กิจกรรมในครั้งนี้ ได้รับความสนใจมีจิตอาสาเข้ามาสมัครร่วมโครงการ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวไทยซึ่งมาจากทั่วภูมิภาคของประเทศ บางปีก็มีต่างชาติเดินทางมาร่วมด้วย และร่วมประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของ จ.สตูล ว่ามีความพร้อมในเรื่องการดูแลธรรมชาติ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลมาในช่วงไฮซีซันอย่างไร
ทั้งนี้ ททท.ตรัง ซึ่งดูแลพื้นที่ จ.สตูล ด้วย ได้มีการเตรียมความพร้อมด้านการท่องเที่ยวสู่การเป็นประชาคมอาเซียน ทั้งในเรื่องของบุคลากรในภาคการท่องเที่ยวให้มีมาตรฐานการบริการ โดยเฉพาะด่านวังประจันที่จะเป็นประตูสู่เมืองสตูล โดยหารือให้การเดินทางเข้า-ออกมีความสะดวกสบายมากขึ้นเพื่อรองรับต่างชาติ
สำหรับตลาดการท่องเที่ยวของ จ.สตูล นั้น มีความโดดเด่นทั้งแหล่งท่องเที่ยวบนบก และทางทะเล โดยเฉพาะเกาะหลีเป๊ะกลายเป็นไข่มุกเม็ดที่ 2 ของอันดามัน เป็นที่ชื่นชอบของตลาดยุโรปในนักท่องเที่ยวกลุ่มสแกนดิเนเวีย อิตาลี และในอนาคตข้างหน้าจะมีการเชื่อมโยงกับเกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย