นราธิวาส - นายอำเภอสุไหงโก-ลก เร่งติดตามผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่อีกหลายราย ซึ่งยังไม่ได้ติดต่อขอรับเงินเยียวยาเพิ่มเติมตามมติ ครม. ก่อนครบกำหนดสิ้นสุดการมอบเงินในวันที่ 31 มี.ค.56
วันนี้ (21 พ.ย.) นายจำนัล เหมือนดำ นายอำเภอสุไหงโก-ลก เร่งรัดติดตามผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก เพื่อเข้ารับเงินเยียวยาเพิ่มเติมซึ่งเป็นการปรับหลักเกณฑ์การมอบเงินเยียวยา ตามมติคณะรัฐมนตรี จากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยจากที่ อ.สุไหงโก-ลก ได้รับเงินเยียวยาเพิ่มเติมเพื่อนำมามอบให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก รวม 14,720,000 บาท (สิบสี่ล้านเจ็ดแสนสองหมื่นบาท)
ขณะนี้ได้ดำเนินการจ่ายเงินให้ผู้ได้รับผลกระทบฯ ไปแล้ว เป็นจำนวนเงิน 10,480,000 บาท (สิบล้านสี่แสนแปดหมื่นบาท) คิดเป็น 71.20 เปอร์เซ็นต์ โดยแยกเป็น
- กรณีผู้เสียชีวิต จำนวน 45 ราย มารับเงินแล้ว จำนวน 41 ราย ยังไม่มารับจำนวน 4 ราย
- กรณีได้รับบาดเจ็บสาหัส จำนวน 43 ราย มารับเงินแล้ว 36 รายยังไม่มารับจำนวน 7 ราย
- กรณีบาดเจ็บปานกลาง จำนวน 183 ราย รับแล้ว 96 ราย ยังไม่มารับ จำนวน 87 ราย
- กรณีบาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน 70 ราย รับแล้ว 36 ราย ยังไม่มารับ จำนวน 34 ราย
- กรณีทุพพลภาพ มารับทั้งหมดแล้ว
ทั้งนี้ นายอำเภอสุไหงโก-ลก ระบุว่า ปัญหาที่ทำให้ไม่สามารถจ่ายเงินเยียวยาให้ผู้ได้รับผลกระทบได้ทั้งหมด ก็เนื่องมาจากไม่สามารถติดต่อผู้ได้รับผลกระทบฯ หรือทายาทได้ เพราะการเยียวยาในกรณีนี้ครอบคลุมผู้ได้รับผลกระทบฯ ตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา ทำให้ส่วนใหญ่อาจมีการโยกย้ายถิ่นฐาน หรือเปลี่ยนที่อยู่ไปแล้ว
ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการแล้วเสร็จภายในวันที่ 31 มีนาคม 2556 ตามที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้กำหนดไว้ จึงได้ทำการส่งจดหมายแบบตอบรับไปยังผู้ได้รับผลกระทบฯ ที่มีที่อยู่ตามที่ระบุไว้ในห้วงเกิดสถานการณ์ความไม่สงบ จำนวน 53 ราย ซึ่งอยู่ในหลายจังหวัดทั่วประเทศ รวมถึงชาวมาเลเซียด้วย และขณะนี้ มีการตอบรับกลับมาแล้ว จำนวน 31 ราย
อย่างไรก็ตาม นายอำเภอสุไหงโก-ลก ยืนยันจะรีบดำเนินการเพื่อหาตัวที่ผู้ได้รับผลกระทบ หรือทายาทมารับเงินในส่วนนี้ที่เป็นสิทธิโดยชอบธรรม ที่ทุกคนจะต้องได้รับตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งหวังในการสร้างขวัญกำลังใจ และบรรเทาความเดือดร้อนที่ได้รับจากสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
สำหรับผู้ได้รับผลกระทบฯ ที่มาติดต่อรับเงินเยียวยา ขอให้นำบัตรประจำตัวประชาชนมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ แต่หากให้บุคคลอื่นมารับแทนต้องมีหนังสือมอบอำนาจมาเป็นหลักฐานการรับเงินด้วย
วันนี้ (21 พ.ย.) นายจำนัล เหมือนดำ นายอำเภอสุไหงโก-ลก เร่งรัดติดตามผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก เพื่อเข้ารับเงินเยียวยาเพิ่มเติมซึ่งเป็นการปรับหลักเกณฑ์การมอบเงินเยียวยา ตามมติคณะรัฐมนตรี จากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยจากที่ อ.สุไหงโก-ลก ได้รับเงินเยียวยาเพิ่มเติมเพื่อนำมามอบให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก รวม 14,720,000 บาท (สิบสี่ล้านเจ็ดแสนสองหมื่นบาท)
ขณะนี้ได้ดำเนินการจ่ายเงินให้ผู้ได้รับผลกระทบฯ ไปแล้ว เป็นจำนวนเงิน 10,480,000 บาท (สิบล้านสี่แสนแปดหมื่นบาท) คิดเป็น 71.20 เปอร์เซ็นต์ โดยแยกเป็น
- กรณีผู้เสียชีวิต จำนวน 45 ราย มารับเงินแล้ว จำนวน 41 ราย ยังไม่มารับจำนวน 4 ราย
- กรณีได้รับบาดเจ็บสาหัส จำนวน 43 ราย มารับเงินแล้ว 36 รายยังไม่มารับจำนวน 7 ราย
- กรณีบาดเจ็บปานกลาง จำนวน 183 ราย รับแล้ว 96 ราย ยังไม่มารับ จำนวน 87 ราย
- กรณีบาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน 70 ราย รับแล้ว 36 ราย ยังไม่มารับ จำนวน 34 ราย
- กรณีทุพพลภาพ มารับทั้งหมดแล้ว
ทั้งนี้ นายอำเภอสุไหงโก-ลก ระบุว่า ปัญหาที่ทำให้ไม่สามารถจ่ายเงินเยียวยาให้ผู้ได้รับผลกระทบได้ทั้งหมด ก็เนื่องมาจากไม่สามารถติดต่อผู้ได้รับผลกระทบฯ หรือทายาทได้ เพราะการเยียวยาในกรณีนี้ครอบคลุมผู้ได้รับผลกระทบฯ ตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา ทำให้ส่วนใหญ่อาจมีการโยกย้ายถิ่นฐาน หรือเปลี่ยนที่อยู่ไปแล้ว
ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการแล้วเสร็จภายในวันที่ 31 มีนาคม 2556 ตามที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้กำหนดไว้ จึงได้ทำการส่งจดหมายแบบตอบรับไปยังผู้ได้รับผลกระทบฯ ที่มีที่อยู่ตามที่ระบุไว้ในห้วงเกิดสถานการณ์ความไม่สงบ จำนวน 53 ราย ซึ่งอยู่ในหลายจังหวัดทั่วประเทศ รวมถึงชาวมาเลเซียด้วย และขณะนี้ มีการตอบรับกลับมาแล้ว จำนวน 31 ราย
อย่างไรก็ตาม นายอำเภอสุไหงโก-ลก ยืนยันจะรีบดำเนินการเพื่อหาตัวที่ผู้ได้รับผลกระทบ หรือทายาทมารับเงินในส่วนนี้ที่เป็นสิทธิโดยชอบธรรม ที่ทุกคนจะต้องได้รับตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งหวังในการสร้างขวัญกำลังใจ และบรรเทาความเดือดร้อนที่ได้รับจากสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
สำหรับผู้ได้รับผลกระทบฯ ที่มาติดต่อรับเงินเยียวยา ขอให้นำบัตรประจำตัวประชาชนมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ แต่หากให้บุคคลอื่นมารับแทนต้องมีหนังสือมอบอำนาจมาเป็นหลักฐานการรับเงินด้วย
