นครศรีธรรมราช - มวลชนใต้คึก เตรียมบุกกรุงร่วมชุมนุมคาดอาจถึง 1 แสน ส่วน ตร.ปราบจลาจลถูกเรียกเตรียมพร้อมเดินทางค่ำนี้ ผู้บังคับบัญชาหวั่นสั่งติวเข้มห้ามแตกแถวร่วมม็อบ ผู้ประกอบการรถรับจ้างผวา ถูกผู้มีอำนาจสั่งห้ามรับงานขนคนเด็ดขาด
วันนี้ (21 พ.ย.) นายวรวุฒิ แซ่ตั้ง ในฐานะเลขาธิการเครือข่ายประชาชน 16 จังหวัดภาคใต้ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทุกจังหวัดได้เร่งความพร้อมในการเตรียมการเดินทาง โดยส่วนใหญ่จะเดินทางไปในค่ำวันที่ 23 พ.ย.55 ซึ่งทั้ง 16 จังหวัดภาคใต้นั้นเราคาดหวังว่าประชาชนจะเดินทางเข้าร่วมไม่น้อยกว่า 1 แสนคน ซึ่งการจัดการนั้นได้มีความพร้อม มีทีมแม่ครัว ทีมอาหารสนับสนุนครบครัน และในวันแรกนั้นทุกคนที่เดินทางไปนั้นจะมีอาหารพร้อมรับประทานที่เตรียมไปเองอย่างน้อย 2 มื้อ
“ในส่วนของจังหวัดนครศรีธรรมราชนั้น ประมาณการเบื้องต้น จะมีประชาชนเดินทางไปร่วมราว 5,000 คน ซึ่งจะมีทั้งการเดินทางด้วยรถไฟ รถบัส และรถตู้ รวมทั้งส่วนตัว และชักชวนลูกหลานที่เรียนอยู่ในกรุงเทพมหานครเข้าร่วมด้วยให้มากที่สุด สำหรับรถบัสแบบเหมานั้น พบว่า มีการจัดการบางอย่างจากผู้มีอำนาจไม่ให้รับงานเหมาพาคนไปยังกรุงเทพมหานคร ทำให้ผู้ประกอบการเกิดความหวาดกลัวไม่กล้ารับงาน บางรายที่รับงานไปแล้วต้องกลับมาบอกคืน โดยอ้างว่าติดงาน ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดปกติหากการตกลงล่วงหน้าเรียบร้อยแล้วมาปฏิเสธว่าติดงานนั้นมันไม่น่าจะเป็นไปได้” นายวรวุฒิกล่าว
ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวในวงการข้าราชการเปิดเผยว่า ได้มีการสั่งการจากผู้มีอำนาจในจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้เข้าไปเจรจากับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะรถบัสรับเหมาไม่ให้รับงานขนคนเข้าร่วมม็อบ โดยจะส่งผลกระทบต่อข้าราชการระดับสูง เนื่องจากการเดินทางด้วยรถบัสนั้นจะสังเกตได้ง่าย และหากเดินทางไปด้วยรถประเภทนี้จำนวนมากผู้บริหารในจังหวัดอาจถูกลงโทษได้
ด้านความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ตำรวจในจังหวัดนครศรีธรรมราช ปรากฏว่า ได้มีคำสั่งตำรวจส่งต่อเป็นทอดๆ มายัง บช.ภ.8 บก.ภ.นครศรีธรรมราช ไปยังทุก สภ.ในสังกัดให้เตรียมพร้อมกองร้อยปราบจลาจล โดยทุกนายจะต้องตัดผมสั้น โกนหนวดเคราให้เรียบร้อย จัดเตรียมเครื่องแบบสีน้ำเงิน อุปกรณ์ของใช้ส่วนตัวโดยเฉพาะเต็นท์สนาม มุ้งครอบกันยุง เสื้อผ้าตามแบบสามารถอยู่ได้เป็นเวลา 7 วัน พร้อมเคลื่อนที่ได้ตลอดเวลา และสั่งห้ามพกพาอาวุธปืน วัตถุระเบิดทุกชนิด รวมทั้งสิ่งของมีค่าอย่างเด็ดขาด
โดยในช่วงค่ำของวันนี้ ให้ผู้บังคับกองร้อยให้เข้ารายงานตัวต่อ พ.ต.อ.สุทัศน์ ชาญสวัสดิ์ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช และให้กำลังพลในแต่ละกองร้อยที่ถูกเรียกตัวรายงานตัวต่อ พ.ต.อ.อดุลย์ ธนะชัยขันธ์ รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช เพื่อรับการอบรม และทราบภารกิจ โดยทราบว่า ผู้บังคับบัญชาระดับสูงเกรงว่าตำรวจที่เดินทางไปจากภาคใต้อาจใช้เวลาว่างภารกิจเข้าร่วมกับผู้ชุมนุมด้วย จึงมีการกำชับเป็นพิเศษ หลังจากนั้น จะเดินทางไปยัง กทม.ล่วงหน้าเพื่อเตรียมความพร้อมรับการชุมนุม
วันนี้ (21 พ.ย.) นายวรวุฒิ แซ่ตั้ง ในฐานะเลขาธิการเครือข่ายประชาชน 16 จังหวัดภาคใต้ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทุกจังหวัดได้เร่งความพร้อมในการเตรียมการเดินทาง โดยส่วนใหญ่จะเดินทางไปในค่ำวันที่ 23 พ.ย.55 ซึ่งทั้ง 16 จังหวัดภาคใต้นั้นเราคาดหวังว่าประชาชนจะเดินทางเข้าร่วมไม่น้อยกว่า 1 แสนคน ซึ่งการจัดการนั้นได้มีความพร้อม มีทีมแม่ครัว ทีมอาหารสนับสนุนครบครัน และในวันแรกนั้นทุกคนที่เดินทางไปนั้นจะมีอาหารพร้อมรับประทานที่เตรียมไปเองอย่างน้อย 2 มื้อ
“ในส่วนของจังหวัดนครศรีธรรมราชนั้น ประมาณการเบื้องต้น จะมีประชาชนเดินทางไปร่วมราว 5,000 คน ซึ่งจะมีทั้งการเดินทางด้วยรถไฟ รถบัส และรถตู้ รวมทั้งส่วนตัว และชักชวนลูกหลานที่เรียนอยู่ในกรุงเทพมหานครเข้าร่วมด้วยให้มากที่สุด สำหรับรถบัสแบบเหมานั้น พบว่า มีการจัดการบางอย่างจากผู้มีอำนาจไม่ให้รับงานเหมาพาคนไปยังกรุงเทพมหานคร ทำให้ผู้ประกอบการเกิดความหวาดกลัวไม่กล้ารับงาน บางรายที่รับงานไปแล้วต้องกลับมาบอกคืน โดยอ้างว่าติดงาน ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดปกติหากการตกลงล่วงหน้าเรียบร้อยแล้วมาปฏิเสธว่าติดงานนั้นมันไม่น่าจะเป็นไปได้” นายวรวุฒิกล่าว
ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวในวงการข้าราชการเปิดเผยว่า ได้มีการสั่งการจากผู้มีอำนาจในจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้เข้าไปเจรจากับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะรถบัสรับเหมาไม่ให้รับงานขนคนเข้าร่วมม็อบ โดยจะส่งผลกระทบต่อข้าราชการระดับสูง เนื่องจากการเดินทางด้วยรถบัสนั้นจะสังเกตได้ง่าย และหากเดินทางไปด้วยรถประเภทนี้จำนวนมากผู้บริหารในจังหวัดอาจถูกลงโทษได้
ด้านความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ตำรวจในจังหวัดนครศรีธรรมราช ปรากฏว่า ได้มีคำสั่งตำรวจส่งต่อเป็นทอดๆ มายัง บช.ภ.8 บก.ภ.นครศรีธรรมราช ไปยังทุก สภ.ในสังกัดให้เตรียมพร้อมกองร้อยปราบจลาจล โดยทุกนายจะต้องตัดผมสั้น โกนหนวดเคราให้เรียบร้อย จัดเตรียมเครื่องแบบสีน้ำเงิน อุปกรณ์ของใช้ส่วนตัวโดยเฉพาะเต็นท์สนาม มุ้งครอบกันยุง เสื้อผ้าตามแบบสามารถอยู่ได้เป็นเวลา 7 วัน พร้อมเคลื่อนที่ได้ตลอดเวลา และสั่งห้ามพกพาอาวุธปืน วัตถุระเบิดทุกชนิด รวมทั้งสิ่งของมีค่าอย่างเด็ดขาด
โดยในช่วงค่ำของวันนี้ ให้ผู้บังคับกองร้อยให้เข้ารายงานตัวต่อ พ.ต.อ.สุทัศน์ ชาญสวัสดิ์ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช และให้กำลังพลในแต่ละกองร้อยที่ถูกเรียกตัวรายงานตัวต่อ พ.ต.อ.อดุลย์ ธนะชัยขันธ์ รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช เพื่อรับการอบรม และทราบภารกิจ โดยทราบว่า ผู้บังคับบัญชาระดับสูงเกรงว่าตำรวจที่เดินทางไปจากภาคใต้อาจใช้เวลาว่างภารกิจเข้าร่วมกับผู้ชุมนุมด้วย จึงมีการกำชับเป็นพิเศษ หลังจากนั้น จะเดินทางไปยัง กทม.ล่วงหน้าเพื่อเตรียมความพร้อมรับการชุมนุม