นครศรีธรรมราช - ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช เผยข้อมูลการว่าจ้างสังหาร “ออด แซ่ผั่ว” เป็นวงเงิน 150,000 บาท ผลอย่างไม่เป็นทางการพบอาวุธปืนผู้ต้องสงสัยที่ถูกวิสามัญ เป็นกระบอกเดียวกับที่ใช้สังหาร
หลังจากเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 19 พ.ย.55 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจปราบปรามมือปืนรับจ้าง สตช. นำโดย พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผช.ผบ.ตร. ชุดเฉพาะกิจปราบปรามมือปืนรับจ้างตำรวจภูธรภาค 8 นำโดย พล.ต.ต.รณพงศ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไฝจู ผกก.สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช นำกำลังเข้าติดตามจับกุมนายสำราญ เศรษฐการ หรือด้วง อายุ 31 ปี ชาว อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ผู้ต้องสงสัยเป็นมือปืนก่อเหตุสังหารนายออด แซ่ผั่ว เจ้าหน้าที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราชเสียชีวิต
หลังจากสืบทราบว่า กำลังเตรียมเดินทางไปก่อเหตุสังหารเหยื่อที่เป็นนักการเมืองท้องถิ่นอีกรายใน อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช และได้เกิดการยิงต่อสู้จนถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรมนายสำราญ เสียชีวิต ในขณะกำลังนำตัวส่งโรงพยาบาลตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้ว
ล่าสุด วันนี้ (20 พ.ย.) พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไฝจู ผกก.สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า แม้ว่าญาติของนายสำราญ หรือด้วง ได้มาติดต่อรับศพของนายสำราญไปแล้วตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ในทางคดีแม้ว่านายสำราญจะเสียชีวิตแล้วก็ตาม ในส่วนการทำคดียังต้องดำเนินต่อไปใน 2 ส่วน คือ ข้อหาต่อสู้ขัดขวางการจับกุม และพยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่นั้นจะต้องถูกแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยการป้องกันตัวในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ เป็นคดีวิสามัญฆาตกรรม
เนื่องจากเจ้าพนักงานกระทำการตามหน้าที่ ส่วนการตรวจค้นรถยนต์ของนายสำราญ หรือด้วงนั้น ได้พบของกลางเพิ่มเติมเป็นยาบ้าหลายสิบเม็ด ยาไอซ์ และอุปกรณ์การเสพ นอกเหนือไปจากหมวกกันน็อก หมวกไหมพรม และถุงมือ ซึ่งหมวกกันน็อกนั้น พบว่า อาจเป็นใบเดียวกับที่ใช้ในการก่อเหตุสังหารนายออด ที่ปรากฏในภาพวงจรปิด
ด้าน พล.ต.ต.รณพงศ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยข้อมูลว่า นายสำราญ ได้รับจ้างสังหารนายออด แซ่ผั่ว เจ้าหน้าที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เป็นวงเงิน 150,000 บาท โดยนายสำราญ ได้ถูกหลอกว่านายออดเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยธรรมดา หรือยาม ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรือนจำ และมาทราบภายหลังว่านายออด เป็นเจ้าหน้าที่เรือนจำเมื่อก่อเหตุสำเร็จ และเป็นข่าวโด่งดังแล้ว
ส่วนผลของการตรวจสอบอาวุธปืนขนาด 9 มม.ยี่ห้อซีแซดของนายสำราญ หรือด้วง ที่ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญนั้น ปรากฏว่า ขณะนี้การตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ยังไม่แล้วเสร็จอย่างเป็นทางการ แต่ผลที่ออกมาเบื้องต้นนั้นเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ เป็นปืนกระบอกเดียวกันกับที่ใช้สังหารนายออด เจ้าหน้าที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ส่วนการติดตามเครือข่ายที่ว่าจ้างนั้นยังคงดำเนินการต่อไป โดยเฉพาะการเร่งติดตามผู้ขับขี่รถที่ยังหลบหนีไปได้ขณะเกิดเหตุ
หลังจากเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 19 พ.ย.55 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจปราบปรามมือปืนรับจ้าง สตช. นำโดย พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผช.ผบ.ตร. ชุดเฉพาะกิจปราบปรามมือปืนรับจ้างตำรวจภูธรภาค 8 นำโดย พล.ต.ต.รณพงศ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไฝจู ผกก.สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช นำกำลังเข้าติดตามจับกุมนายสำราญ เศรษฐการ หรือด้วง อายุ 31 ปี ชาว อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ผู้ต้องสงสัยเป็นมือปืนก่อเหตุสังหารนายออด แซ่ผั่ว เจ้าหน้าที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราชเสียชีวิต
หลังจากสืบทราบว่า กำลังเตรียมเดินทางไปก่อเหตุสังหารเหยื่อที่เป็นนักการเมืองท้องถิ่นอีกรายใน อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช และได้เกิดการยิงต่อสู้จนถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรมนายสำราญ เสียชีวิต ในขณะกำลังนำตัวส่งโรงพยาบาลตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้ว
ล่าสุด วันนี้ (20 พ.ย.) พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไฝจู ผกก.สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า แม้ว่าญาติของนายสำราญ หรือด้วง ได้มาติดต่อรับศพของนายสำราญไปแล้วตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ในทางคดีแม้ว่านายสำราญจะเสียชีวิตแล้วก็ตาม ในส่วนการทำคดียังต้องดำเนินต่อไปใน 2 ส่วน คือ ข้อหาต่อสู้ขัดขวางการจับกุม และพยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่นั้นจะต้องถูกแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยการป้องกันตัวในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ เป็นคดีวิสามัญฆาตกรรม
เนื่องจากเจ้าพนักงานกระทำการตามหน้าที่ ส่วนการตรวจค้นรถยนต์ของนายสำราญ หรือด้วงนั้น ได้พบของกลางเพิ่มเติมเป็นยาบ้าหลายสิบเม็ด ยาไอซ์ และอุปกรณ์การเสพ นอกเหนือไปจากหมวกกันน็อก หมวกไหมพรม และถุงมือ ซึ่งหมวกกันน็อกนั้น พบว่า อาจเป็นใบเดียวกับที่ใช้ในการก่อเหตุสังหารนายออด ที่ปรากฏในภาพวงจรปิด
ด้าน พล.ต.ต.รณพงศ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยข้อมูลว่า นายสำราญ ได้รับจ้างสังหารนายออด แซ่ผั่ว เจ้าหน้าที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เป็นวงเงิน 150,000 บาท โดยนายสำราญ ได้ถูกหลอกว่านายออดเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยธรรมดา หรือยาม ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรือนจำ และมาทราบภายหลังว่านายออด เป็นเจ้าหน้าที่เรือนจำเมื่อก่อเหตุสำเร็จ และเป็นข่าวโด่งดังแล้ว
ส่วนผลของการตรวจสอบอาวุธปืนขนาด 9 มม.ยี่ห้อซีแซดของนายสำราญ หรือด้วง ที่ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญนั้น ปรากฏว่า ขณะนี้การตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ยังไม่แล้วเสร็จอย่างเป็นทางการ แต่ผลที่ออกมาเบื้องต้นนั้นเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ เป็นปืนกระบอกเดียวกันกับที่ใช้สังหารนายออด เจ้าหน้าที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ส่วนการติดตามเครือข่ายที่ว่าจ้างนั้นยังคงดำเนินการต่อไป โดยเฉพาะการเร่งติดตามผู้ขับขี่รถที่ยังหลบหนีไปได้ขณะเกิดเหตุ