ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - คลี่ปมฆาตกรรมครอบครัว “ชูช่วย” 4 ศพกลางเมืองสงขลา พบเป็นเรื่องฆ่ากันเองภายในบ้าน คาดพ่อเมาสุราก่อนทะเลาะกับแม่ และใช้ขวานฟัน 3 แม่ลูกเสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยมคาบ้าน ก่อนผูกคอตายหนีปัญหา โดยเจ้าหน้าที่ยืนยันว่า ไม่เชื่อมโยงกับคดีฆ่านายกเทศมนตรีนครสงขลาแต่อย่างใด
เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (17 พ.ย.) ร.ต.อ.อำนาจ อนันตพันธุ์ ร้อยเวร สภ.เมืองสงขลา รับแจ้งว่าเกิดเหตุฆ่ากันตายภายในบ้านเลขที่ 18 ซอย 33 ถนนไทยบุรี เขตเทศบาลนครสงขลา จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุมิตร ศรีนวล ผกก. นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา แพทย์โรงพยาบาลสงขลา เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่ชุดร่วมใจกู้ภัยเมืองสงขลา
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเช่าสภาพเก่า ชั้นเดียว ฝาบ้าน และหลังคามุงด้วยกระเบื้อง ประตูบ้านซึ่งเป็นไม้ถูกล็อกมาจากข้างใน เจ้าหน้าที่จึงงัดประตูเข้าไป และพบว่ามีผู้เสียชีวิตรวม 4 ศพอยู่ภายในบ้าน
โดยศพแรกคือ นายเตี้ย ชาวพม่า อายุประมาณ 50 ปี ใช้เชือกผู้คอตายติดกับคานลิ้นจุกปากอยู่กลางบ้าน ส่วนอีก 3 ศพซึ่งเป็นผู้หญิงนอนเสียชีวิตจมกองเลือดเรียงรายอยู่บริเวณหลังบ้าน ทราบชื่อคือ นางวันดี ชูช่วย อายุ 45 ปี ด.ญ.ชฎาพร ชูช่วย อายุ 13 ปี และ ด.ญ.ดารุณี ชูช่วย อายุ 12 ปี ซึ่งเป็นภรรยา และลูกสาวของนายเตี้ย สภาพศพทั้ง 3 คนถูกฟันด้วยขวานเข้าที่ศีรษะอย่างน่าสยดสยอง โดยนางวันดีถูกฟันเข้าที่หน้าผาก และขมับซ้าย ด.ญ.ชฎาพร ถูกฟันเข้าที่หน้าผากกลางแสกหน้า ส่วน ด.ญ.ดารุณี ถูกฟันเข้าที่หน้าผาก และท้ายทอย ทั้งนี้ ลักษณะของทั้ง 3 คนถูกฟันแบบซ้ำๆ อย่างโหดเหี้ยม และทั้งหมดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง
นอกจากนี้ ในที่เกิดเหตุพบขวานเปื้อนเลือดตกอยู่บ้านในบ้าน ขณะที่สภาพภายในบ้านพบรถซาเล้ง 2 คันจอดอยู่ภายในบ้าน รวมทั้งของเก่า ทั้งขวดแก้ว พลาสติก และเหล็กกองรวมกันอยู่ภายในบ้าน เนื่องจากครอบครัวนี้มีอาชีพเก็บของเก่าขาย
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่คาดว่าเหตุฆ่าหมู่ยกครัว 4 ศพในครั้งนี้ไม่ใช่ถูกคนร้ายฆาตกรรม แต่เป็นการฆ่ากันเองจากปัญหาภายในครอบครัว เพราะจากการสอบสวนเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันทราบว่า ในช่วงคืนเกิดเหตุ นายเตี้ย และนางวันดีมีปากเสียง และทะเลาะกันอย่างรุนแรง ซึ่งมักจะทะเลาะกันเป็นประจำ เพื่อนบ้านจึงไม่ค่อยสนใจ กระทั่งเมื่อเพื่อนบ้านข้างเคียงมาพบสิ่งผิดปกติ เห็นสามแม่ลูกนอนเรียงกันอยู่บริเวณหลังบ้านในช่วงบ่าย จึงได้แจ้งให้ตำรวจมาตรวจสอบ และพบทั้ง 4 คนเสียชีวิตอยู่ภายในบ้านพัก
และจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบหลักฐานอย่างอื่นนอกเหนือจากขวานที่ใช้ก่อเหตุ รวมทั้งเพื่อนบ้านก็ไม่พบเห็นสิ่งผิดปกติอื่นๆ นอกเหนือจากการทะเลาะวิวาทของนายเตี้ย และนางวันดี รวมทั้งในช่วงเวลาเกิดเหตุไม่มีบุคคลแปลกหน้าเข้ามาในบ้านหลังดังกล่าว จึงคาดว่า นายเตี้ยน่าจะบันดาลโทสะ และอาจจะเมาสุราด้วย จึงได้ลงมือฆ่าภรรยา รวมทั้งลูกสาวอีก 2 คน ก่อนที่จะตัดสินใจแขวนคอตายตามเพื่อตัดปัญหาชีวิต เนื่องจากเพื่อนบ้านให้ข้อมูลว่า นายเตี้ย และนางวันดีนั้นอยู่กินกันมาหลายปีจนกระทั่งมีลูกสาวด้วยกันสองคน และบุคลิกของนายเตี้ยเป็นคนค่อนข้างเก็บกดไม่ค่อยสุงสิงกับใคร
อย่างไรก็ตาม สำหรับคดีที่เกิดขึ้นนี้ไม่เกี่ยวกับการตายของ นายพีระ ตันติเศรณี นายกเทศมนตรีนครสงขลา แม้ว่านามสกุลของนางวันดี จะเหมือนกับนามสกุลของนักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่งที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับนายพีระ