ตรัง - ผ่าพิสูจน์ซากพะยูนตัวที่ 8 ในรอบปี เพื่อหาสาเหตุการตายที่ชัดเจน ขณะที่หลายฝ่ายเกรงหากไม่ดูแลอย่างจริงจังอาจจะส่งผลให้เกิดการสูญพันธุ์ไปจากทะเลตรัง
นายประจวบ โมฆรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 จ.ตรัง กล่าวว่า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง (มทร.) ได้ร่วมกับสัตวแพทย์หญิงพัชราภรณ์ แก้วโม่ง นายสัตวแพทย์ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน จ.ภูเก็ต พร้อมทีมงานทำการผ่าพิสูจน์ซากพะยูนเพศเมียเป็นตัวที่ 8 ที่ตายในปีนี้ โดยมีอายุ 4-5 ปี ยาว 180 ซม. และหนัก 120 กก. ซึ่งตายในทะเลอันดามันห่างจากสะพานเกาะลิบง หมู่ที่ 4 ต.เกาะลิบง อ.กันตัง เมื่อวันที่ 24 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการใช้มีดผ่าเลาะเอาชั้นไขมันออกเพื่อนำไปตรวจความสมบูรณ์ของร่างกาย ก่อนที่จะทำการตรวจสอบอวัยวะภายในต่างๆ ทั้งหมด และคาดว่าจะสามารถทราบผลได้ในเร็วๆ นี้
สำหรับพะยูนเพศเมียตัวดังกล่าวนั้น ทางศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 จ.ตรัง ได้รับแจ้งจากนายเอกพจน์ อวนข้อง ชาวบ้านหมู่ที่ 6 ต.เกาะลิบง และเครือข่ายประมงพื้นบ้าน ซึ่งจากการตรวจสอบพบบาดแผลรวมกว่า 20 จุด โดยเฉพาะที่บริเวณหัว ขอบตาขวา และซ้าย สันนิษฐานว่าเกิดจากการเกี่ยวพันกับเบ็ดราราว หรือเบ็ดราไวจนไม่สามารถขึ้นหายใจบนผิวน้ำได้
ดังนั้น ทางเจ้าหน้าที่จึงนำซากพะยูนไปฝากเก็บไว้ในห้องเย็นของ อ.กันตัง เพื่อรอประสานเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเข้าพิสูจน์ซากแทนการเคลื่อนย้ายไปตรวจสอบที่สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน จ.ภูเก็ต อย่างไรก็ตาม การตายของพะยูนจำนวนมากในปีนี้ กำลังเป็นที่กังวลของหลายฝ่าย และเกรงจะส่งผลให้เกิดการสูญพันธุ์ไปจากทะเลตรัง