รพ.เกาะสมุยเฝ้าระวังโรคคอตีบหลังพบผู้ติดเชื้อที่สุราษฎร์ฯ

สุราษฎร์ธานี - โรงพยาบาลเกาะสมุย วางมาตรการเฝ้าระวังโรคคอตีบในพื้นที่อำเภอเกาะสมุย หลังพบผู้ติดเชื้อในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี 2 ราย เตือนประชาชนควรป้องกันตนเองด้วยการสวมหน้ากากอนามัย และควรล้างมือบ่อยๆ

วันนี้ (12 ก.ย.) นพ.เฉลิมพงษ์ สุคนธผล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเกาะสมุย กล่าวว่า สถานการณ์ของโรคคอตีบในประเทศไทยขณะนี้มีการระบาดอย่างมากในภาคอีสาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณชายแดนที่ติดต่อกับประเทศลาว อย่างเช่น จังหวัดเลย จังหวัดบึงกาฬ และจังหวัดน่าน พบมีการระบาดของโรคคอตีบอย่างมาก ส่วนจังหวัดอื่นๆ ยังคงพบผู้ที่ติดเชื้อบ้างบางส่วน

ส่วนในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขณะนี้พบผู้ที่ติดเชื้อโรคคอตีบแล้ว 2 ราย รายแรกเป็นเด็กชาวพม่า อายุ 10 ขวบ ตรวจพบที่อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งขณะนี้ได้เสียชีวิตแล้ว ส่วนอีกรายพบที่อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นเด็ก อายุ 8 ขวบ ซึ่งย้ายตามพ่อกับแม่ที่ทำงานรับจ้างมาจากจังหวัดภูเก็ต ขณะนี้อยู่ระหว่างการรักษาอยู่ที่ รพ.สุราษฎร์ธานี

สาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงได้ประกาศให้พื้นที่ 5 อำเภอในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นพื้นที่เสี่ยงที่จะต้องตรวจเฝ้าระวัง คือ อำเภอเมือง อำเภอกาญจนดิษฐ์ อำเภอพุนพิน อำเภอดอนสัก และอำเภอเกาะสมุย โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอเกาะสมุยซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยว และมีแรงงานต่างด้าวเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก จึงต้องเร่งวางมาตรการเพื่อป้องกันและเฝ้าระวัง โดยทางโรงพยาบาลเกาะสมุยได้จัดให้เจ้าหน้าที่เฝ้าสังเกตผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษากับโรงพยาบาลโดยเฉพาะ ผู้ป่วยที่มีอาการไข้ เจ็บคอ หรือมีไอเล็กน้อย และถ้าแพทย์ตรวจพบว่ามีฝ้าขาวบริเวณทอมซิล สงสัยได้ว่าอาจจะเป็นโรคคอตีบได้ ก็จะมีการตรวจหาเชื้ออย่างละเอียดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค

ด้าน พญ.จิรวรรณ อารยะพงษ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์โรงพยาบาลเกาะสมุย กล่าวว่า โรคคอตีบเป็นโรคที่มีการแพร่กระจายของเชื้อโรคโดยการไอ จาม ประชาชนจึงควรป้องกันตนเองด้วยการสวมหน้ากากอนามัย และควรล้างมือบ่อยๆ และถ้าสงสัยว่าตนเองอาจได้รับเชื้อโรคคอตีบควรรีบมาพบแพทย์เพื่อทำการตรวจรักษาโดยด่วน