ชาวเลเกาะลันตาเป็นโรคปากเปื่อย หลังกินเต่ากระดอกไม้

กระบี่ - ชาวเลบ้านสังกะอู้ ต.เกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ ผวาเพื่อนบ้านกว่า 40 ราย กินเต่ากระดอกไม้เข้าไปจนเกิดอาการปากเปื่อย ชาตามมือตามเท้า บางรายคลื่นไส้ท้องเสียอย่างรุนแรง และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย ด้านนายอำเภอเกาะลันตา เผยชาวบ้านที่เสียชีวิตไม่ได้เกิดจากกินเต่ากระ แต่เกิดจากโรคประจำตัว เตือนชาวบ้านอย่ารับประทานสัตว์ทะเลที่ไม่ใช่อาหารทั่วไปในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง

วันนี้ (11 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายสุริยัน ณรงค์กุล นายอำเภอเกาะลันตา จ.กระบี่ ว่า มีชาวบ้านจำนวนหลายรายป่วยด้วยโรคประหลาด มีลักษณะอาการปากเปื่อย เท้าชา ในพื้นที่บ้านสังกะอู้ ซึ่งเป็นหมู่บ้านของชาวเลอูรักลาโว้ย ม.7 ต.เกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบว่ามีชาวบ้านหลายรายนั่งจับกลุ่มพูดคุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น และจากการสอบถามชาวบ้านในหมู่บ้านสังกะอู้ทราบว่า สาเหตุของโรคประหลาดที่ทำให้ปากเปื่อย คาดว่าน่าจะเกิดจากการรับประทานเต่าทะเลชนิดหนึ่งเข้าไป ทำให้เกิดล้มป่วยจำนวนหลายราย และล่าสุด ได้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย เมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา

จากการสอบถามนายบุญทิน ช้างน้ำ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77 ม.7 ต.เกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา ทราบว่า เมื่อช่วงเดือนตุลาคม 2555 ที่ผ่านมา ตนได้พบเต่าทะเลชนิดหนึ่งติดอวนอยู่กลางทะเล จึงได้นำกลับมาบ้าน รวมหนักประมาณ 30 กิโลกรัม พร้อมกับได้ทุบกระดองแล่เนื้อแจกญาติพี่น้องรวมกว่า 10 ครัวเรือน บางคนทั้งต้ม และแกงกินเป็นอาหาร

โดยหลังจากที่ตนพร้อมกับคนในครอบครอบครัวกินเนื้อเต่าดังกล่าวเข้าไปไม่นาน ก็มีอาการเจ็บคอ คล้ายกับมีทรายติดที่ลำคอ น้ำลายก็กลืนไม่ได้ เจ็บคออย่างรุนแรง นอกจากนี้ มีอาการวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด ชาตามมือตามเท้า จึงได้พากันไปหาหมอที่โรงพยาบาลเกาะลันตา หมอให้ยามาทานอาการดีขึ้น ขณะนี้ผ่านมาเกือบเดือนแล้ว แต่ก็ยังเป็นๆ หายๆ ต้องกินยาตลอด

นายบุญทิน เล่าต่อว่า สำหรับผู้ที่เสียชีวิต ชื่อนายหวัด ทะเลลึก อายุ 61 ปี ซึ่งเป็นพ่อตาของตนเอง ก็มีอาการในลักษณะดังกล่าวเช่นกัน โดยในรายของนายหวัด พ่อตาของตนนั้นมีอาการค่อนข้างรุนแรง และมีอาเจียนเป็นเลือดด้วย จึงนำส่งโรงพยาบาลเกาะลันตา และในวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมาก็ได้เสียชีวิต ทั้งนี้ ทราบจากแพทย์ของโรงพยาบาลเกาะลันตาว่า นายหวัดมีโรคประจำตัวมาก่อน ทั้งโรคเบาหวาน ความดัน และโรคกระเพาะขั้นรุนแรง ซึ่งสาเหตุการเสียชีวิตไม่ใช่เกิดจากการกินเต่ากระดอกไม้เข้าไป แต่หลังมีคนเสียชีวิตทำให้ชาวบ้านก็รู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก

ด้านนายสุริยัน ณรงค์กูล นายอำเภอเกาะลันตา กล่าวว่า หลังจากที่ทราบว่าชาวบ้านมีการอาการป่วย ก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเกาะลันตา สาธารณสุขอำเภอ และประมงอำเภอ ตั้งแต่เกิดเหตุใหม่ๆ ทราบว่า มีชาวบ้านล้มป่วยทั้งหมด จำนวน 43 ราย แต่ขณะนี้อาการก็ดีขึ้นแล้ว ส่วนในรายที่เสียชีวิตนั้นไม่ได้มาจากสาเหตุกินเต่า แต่มาจากโรคประจำตัว

สำหรับเต่าที่ชาวบ้านกินเต่าเข้าไปนั้นเป็นเต่ากระดอกไม้ ซึ่งเป็นสัตว์ทะเลอนุรักษ์ แต่คาดว่าชาวบ้านอาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เนื่องจากเป็นชาวเล และที่ผ่านมา ก็ทราบว่าชาวบ้านก็เคยกินกันแต่ไม่มีอาการ ซึ่งอาการที่เกิดขึ้นกับชาวบ้านคาดว่าเกิดจากเต่าตัวดังกล่าวกินแพลงก์ตอน หรือแมงกะพรุนมีพิษเข้าไป และเมื่อชาวบ้านนำมารับประทานก็เกิดอาการดังกล่าวขึ้น และในเบื้องต้น ก็ได้ประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านทราบแล้วว่าเต่าเป็นสัตว์สงวนห้ามนำมากินเป็นอาหาร และขอเตือนชาวบ้านไม่ควรรับประทานเต่า หรือสัตว์ทะเลที่ไม่ใช่เป็นอาหารที่คนทั่วไปรับประทาน และช่วงที่มรสุมน้ำทะเลเปลี่ยนแปลง สัตว์ทะเลอาจจะไปกินแพลงก์ตอน หรือแมงกะพรุนที่มีพิษเข้าไป เมื่อคนนำมารับประทานอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ และหากพบสัตว์แปลกปลอมก็ให้รายงานอำเภอได้รับทราบด้วย