นครศรีธรรมราช - ตรึงกำลัง รปภ.เรือนจำทุ่งสงเข้มงวดขึ้นหลังเกิดเหตุการณ์ลอบยิง ผบ.เรือนจำ และผู้คุมได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ตร.เผยคดีคืบหน้าไปมาก เตรียมระดมชุดปราบมือปืนล่ามือสังหาร ซึ่งดูจากลักษณะมากก่อเหตุน่าจะเป็นมือใหม่
ผู้สื่อข่าวประจำ จ.นครศรีธรรมราช รายงานความคืบหน้ากรณีคนร้ายบุกยิง ผบ.เรือนจำทุ่งสง พร้อมเจ้าหน้าที่เรือนจำ บาดเจ็บรวม 3 คน ว่า วันนี้ (8 พ.ย.) ที่เรือนจำอำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ช่วงเช้าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยมีการตรวจตราผู้ที่ผ่านเข้าออกอย่างละเอียด เจ้าหน้าที่หลายคนพกพาอาวุธปืนเข้ามาทำงานในเรือนจำเพื่อป้องกันตัว ส่วนญาติของนักโทษนั้นต้องถูกตรวจค้นอย่างเข้มงวดเช่นเดียวกันเพื่อป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
พล.ต.ต.รณพงศ์ ทรายแก้ว ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช เปิดเผยความคืบหน้าของคดีว่า ในการสืบสวนสอบสวนได้สังการให้ พ.ต.อ.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ รองผู้บังคับการ เป็นหัวหน้าชุดในการคลี่คลายคดี ซึ่งผลจากการตรวจกลุ่มกระสุนนั้นทำให้มั่นใจว่า เป้าหมายของคนร้ายไม่ใช่ตัวของ ผบ.เรือนจำ อย่างแน่นอน แต่เหตุที่คนร้ายประสงค์ต่อชีวิต ผบ.เรือนจำ ด้วยเนื่องจากนั่งหันหน้าเข้าหามือปืน และเห็นเหตุการณ์
“ผบ.เรือนจำ เคยมาพบเมื่อ 10 วันที่แล้วก่อนเกิดเหตุเกี่ยวกับข้อมูลในการปราบปรามยาเสพติด และขบวนการค้ายาเสพติดในเรือนจำ เพื่อต้องการจัดการให้เรือนจำเป็นสีขาวให้ได้ และการข่าวได้ระบุล่วงหน้าจากนักโทษรายหนึ่งที่เคยแหกหักตรวนหลบหนีการควบคุม บอกว่า นายภักดี สุระภักดี กำลังถูกปองร้ายว่าจ้างมือปืนมาสังหาร และมันเกิดขึ้นจริง เรากำลังเร่งขยายผล เนื่องจากนายภักดีเป็นผู้คุมที่อยู่ในกลุ่มของนักปราบปรามยาเสพติด และขัดขวางขบวนการค้ายาเสพติดในเรือนจำเช่นเดียวกัน และที่สำคัญ ขณะนี้เราได้ตรวจยึดรถต้องสงสัยมาแล้ว 1 คัน แต่ได้ตรวจสอบแล้วพบว่า มีพยานยืนยันที่ชัดเจน และมีเจ้าของแสดงตัวชัดจึงได้ปล่อยรถคืนเจ้าของไปแล้ว”
พล.ต.ต.รณพงศ์ ยังกล่าวต่อว่า ขณะนี้ผู้บังคับบัญชาให้ความสนใจคดีนี้มาก และได้ประสานกับชุดปราบปรามมือปืนรับจ้าง ตำรวจภูธรภาค 8 ลงพื้นที่เพื่อไล่ล่ามือปืน ซึ่งประเด็นหลักๆ นั้นยืนยันว่า มีทั้งเรื่องส่วนตัว และเรื่องการทำงาน โดยข้อมูลล่าสุดนั้นพบว่า 1 ในจำนวนผู้บาดเจ็บได้รายงานถึงพฤติกรรมของผู้คุมอย่างน้อย 4 ราย และทั้ง 4 รายนั้นได้ถูกย้ายออกนอกพื้นที่ ทั้งนี้ 1 ในจำนวน 4 รายพบประวัติว่าไม่ธรรมดา อาจเป็นไปได้ว่ามีความเชื่อมโยง แต่เมื่อมาดูลักษณะของการก่อเหตุนั้นไม่ใช่มือปืนระดับรับจ้าง น่าจะเป็นมือปืนมือใหม่มากกว่า หรือมือสมัครเล่น
ผู้สื่อข่าวประจำ จ.นครศรีธรรมราช รายงานความคืบหน้ากรณีคนร้ายบุกยิง ผบ.เรือนจำทุ่งสง พร้อมเจ้าหน้าที่เรือนจำ บาดเจ็บรวม 3 คน ว่า วันนี้ (8 พ.ย.) ที่เรือนจำอำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ช่วงเช้าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยมีการตรวจตราผู้ที่ผ่านเข้าออกอย่างละเอียด เจ้าหน้าที่หลายคนพกพาอาวุธปืนเข้ามาทำงานในเรือนจำเพื่อป้องกันตัว ส่วนญาติของนักโทษนั้นต้องถูกตรวจค้นอย่างเข้มงวดเช่นเดียวกันเพื่อป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
พล.ต.ต.รณพงศ์ ทรายแก้ว ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช เปิดเผยความคืบหน้าของคดีว่า ในการสืบสวนสอบสวนได้สังการให้ พ.ต.อ.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ รองผู้บังคับการ เป็นหัวหน้าชุดในการคลี่คลายคดี ซึ่งผลจากการตรวจกลุ่มกระสุนนั้นทำให้มั่นใจว่า เป้าหมายของคนร้ายไม่ใช่ตัวของ ผบ.เรือนจำ อย่างแน่นอน แต่เหตุที่คนร้ายประสงค์ต่อชีวิต ผบ.เรือนจำ ด้วยเนื่องจากนั่งหันหน้าเข้าหามือปืน และเห็นเหตุการณ์
“ผบ.เรือนจำ เคยมาพบเมื่อ 10 วันที่แล้วก่อนเกิดเหตุเกี่ยวกับข้อมูลในการปราบปรามยาเสพติด และขบวนการค้ายาเสพติดในเรือนจำ เพื่อต้องการจัดการให้เรือนจำเป็นสีขาวให้ได้ และการข่าวได้ระบุล่วงหน้าจากนักโทษรายหนึ่งที่เคยแหกหักตรวนหลบหนีการควบคุม บอกว่า นายภักดี สุระภักดี กำลังถูกปองร้ายว่าจ้างมือปืนมาสังหาร และมันเกิดขึ้นจริง เรากำลังเร่งขยายผล เนื่องจากนายภักดีเป็นผู้คุมที่อยู่ในกลุ่มของนักปราบปรามยาเสพติด และขัดขวางขบวนการค้ายาเสพติดในเรือนจำเช่นเดียวกัน และที่สำคัญ ขณะนี้เราได้ตรวจยึดรถต้องสงสัยมาแล้ว 1 คัน แต่ได้ตรวจสอบแล้วพบว่า มีพยานยืนยันที่ชัดเจน และมีเจ้าของแสดงตัวชัดจึงได้ปล่อยรถคืนเจ้าของไปแล้ว”
พล.ต.ต.รณพงศ์ ยังกล่าวต่อว่า ขณะนี้ผู้บังคับบัญชาให้ความสนใจคดีนี้มาก และได้ประสานกับชุดปราบปรามมือปืนรับจ้าง ตำรวจภูธรภาค 8 ลงพื้นที่เพื่อไล่ล่ามือปืน ซึ่งประเด็นหลักๆ นั้นยืนยันว่า มีทั้งเรื่องส่วนตัว และเรื่องการทำงาน โดยข้อมูลล่าสุดนั้นพบว่า 1 ในจำนวนผู้บาดเจ็บได้รายงานถึงพฤติกรรมของผู้คุมอย่างน้อย 4 ราย และทั้ง 4 รายนั้นได้ถูกย้ายออกนอกพื้นที่ ทั้งนี้ 1 ในจำนวน 4 รายพบประวัติว่าไม่ธรรมดา อาจเป็นไปได้ว่ามีความเชื่อมโยง แต่เมื่อมาดูลักษณะของการก่อเหตุนั้นไม่ใช่มือปืนระดับรับจ้าง น่าจะเป็นมือปืนมือใหม่มากกว่า หรือมือสมัครเล่น