นราธิวาส - ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานนราธิวาส เผยช่วงเทศกาลวันฮารีรายออีดิ้ลอัฎฮามีนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ลดลงเนื่องจากข่าวสถานการณ์ความไม่สงบ แต่แนวโน้มการท่องเที่ยวโดยรวมในพื้นที่ 3 จชต.ยังอยู่ในภาวะทรงตัว ส่วนกรณีกระแสข่าวข่มขู่ให้ปิดร้านวันศุกร์ เชื่อว่าภายใน 1 เดือนนี้สถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
วันนี้ (29 ต.ค.) นายอาหมาน หมัดอาดัม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนราธิวาส เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลวันฮารีรายออีดิ้ลอัฎฮาการท่องเที่ยวในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ลดลงเหลือเพียง 80 เปอร์เซ็นต์ จากช่วงของเทศกาลวันฮารีรายออีดิ้ลฟิตริในปีเดียวกัน ที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่มากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งปัจจัยหลักที่สะท้อนมาจากผู้ประกอบการในพื้นที่ คือ การนำเสนอข่าวเกี่ยวกับวันครบรอบกรณีเหตุตากใบ และการปิดร้านวันศุกร์ จึงส่งผลให้นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียไม่กล้าเดินทางเข้ามาในพื้นที่
อย่างไรก็ตาม กลุ่มนักท่องเที่ยวหลักคือ ประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และนักท่องเที่ยวบางส่วนจากรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ก็ยังคงมีการเดินทางเข้ามาตามปกติ ทำให้มีเงินสะพัดพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ตลอดเทศกาลประมาณ 10 ล้านบาท โดยพบว่าพื้นที่ที่มีการเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวมากที่สุดคือ อ. เบตง จ.ยะลา และ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
นอกจากนี้ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนราธิวาสได้กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวโน้มในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาพบว่า ยังอยู่ในระดับทรงตัว โดยเม็ดเงินที่หมุนเวียนในพื้นที่เมื่อปีงบประมาณ 2554 รวมกว่า 4,000 ล้านบาท และในปีงบประมาณ 2555 มีจำนวนทั้งสิ้นกว่า 3,500 ล้านบาท และแม้จะพบว่า มีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาน้อยลงแต่พฤติกรรมการใช้จ่ายกลับเพิ่มขึ้น โดยนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียที่เข้ามาในพื้นที่จะมีการใช้จ่ายเงินโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 2,700-3,000 บาทต่อคน และส่วนใหญ่มาเป็นครอบครัว หรือคณะทัวร์ ทำให้ภาคธุรกิจการท่องเที่ยวยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
ส่วนกรณีกระแสข่าวข่มขู่ให้ปิดร้านวันศุกร์ เชื่อว่าภายใน 1 เดือนนี้ สถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เนื่องจากพบว่า ผลจากการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ประกอบการ รวมถึงแผนการกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายซื้อสินค้าในพื้นที่จากภาครัฐ ทำให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มีความมั่นใจ และเริ่มเปิดร้านในวันศุกร์กันมากขึ้นแล้ว
