กระบี่ - กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดสัมมนาโครงการสร้างองค์ความรู้ด้านระบบเตือนภัยพิบัติของพื้นที่เสี่ยงภัย และสร้างเครือข่ายศูนย์เตือนภัยพิบัติภาคประชาชนเพื่อป้องกันและบรรเทาภัย
วันนี้ (25 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่หอประชุมอาคาร 1 วิทยาลัยสารพัดช่างกระบี่ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.กระบี่ น.อ.อ.สุทธิ โภคะสุวรรณา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นประธานเปิดการสัมมนาโครงการสร้างองค์ความรู้ด้านระบบเตือนภัยพิบัติของพื้นที่เสี่ยงภัย และสร้างเครือข่ายศูนย์เตือนภัยพิบัติภาคประชาชนเพื่อป้องกันและบรรเทาภัย โดยมีนายสมเกียรติ ศิริวัฒนโชค ผู้ตรวจราชการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร นายนายอุเทน ตัณตรีบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาสาสมัคร อปพร. มูลนิธิฯ ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ เข้าร่วม จำนวน 100 คน
น.อ.อ.สุทธิ โภคะสุวรรณา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กล่าวว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยต้องประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติทั่วทุกภาคของประเทศ ทั้งภัยพิบัติสึนามิ ซึ่งเกิดขึ้นในภาคใต้ฝั่งอันดามัน ปี 47 และมหาอุทกภัยที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อเป็นการป้องกันภัยล่วงหน้าทางกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ซึ่งมีนโยบายให้ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติเป็นหน่วยงานหลักในการบริหารและทำงานแบบบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆเกี่ยวกับการแจ้งเตือนภัย เพื่อรับมือกับภัยพิบัติได้ทันต่อเหตุการณ์
จึงได้จัดการสัมมนาโครงการสร้างองค์ความรู้ด้านระบบเตือนภัยพิบัติของพื้นที่เสี่ยงภัย และสร้างเครือข่ายศูนย์เตือนภัยพิบัติภาคประชาชนเพื่อป้องกันและบรรเทาภัย เพื่อทำงานร่วมกับภาครัฐอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมีทั้งการฝึกซ้อมด้านการสื่อสารโทรคมนาคม และด้านระบบเตือนภัยในพื้นที่เสี่ยงภัย การซักซ้อมการรับข่าวสาร การแจ้งเตือนภัย การให้ความช่วยเหลือและการประสานงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างมีระบบเต็มไปด้วยประสิทธิภาพ
โดยเครือข่ายศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ คอยเฝ้าระวังภัย และให้ข้อมูลเกี่ยวกับภัยธรรมชาติในพื้นที่ให้แก่ทางศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ใช้วิเคราะห์ข้อมูล เพื่อแจ้งเตือนภัยไปยังพื้นที่เสี่ยงแต่ละแห่ง ให้พร้อมรับมือภัยพิบัติทางธรรมชาติ ลดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยในจังหวัดกระบี่มีพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วม ดินโคลนถล่ม รวม 5 อำเภอ 10 ตำบล 48 หมู่บ้าน ส่วนพื้นที่เสี่ยงภัยคลื่นยักษ์สึนามิพัดถล่ม มีอำเภอเกาะลันตา อำเภอเมือง และอำเภออ่าวลึก ซึ่งในแต่ละพื้นที่มีหอเตือนภัยตั้งอยู่ครบทุกพื้นที่
วันนี้ (25 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่หอประชุมอาคาร 1 วิทยาลัยสารพัดช่างกระบี่ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.กระบี่ น.อ.อ.สุทธิ โภคะสุวรรณา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นประธานเปิดการสัมมนาโครงการสร้างองค์ความรู้ด้านระบบเตือนภัยพิบัติของพื้นที่เสี่ยงภัย และสร้างเครือข่ายศูนย์เตือนภัยพิบัติภาคประชาชนเพื่อป้องกันและบรรเทาภัย โดยมีนายสมเกียรติ ศิริวัฒนโชค ผู้ตรวจราชการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร นายนายอุเทน ตัณตรีบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาสาสมัคร อปพร. มูลนิธิฯ ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ เข้าร่วม จำนวน 100 คน
น.อ.อ.สุทธิ โภคะสุวรรณา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กล่าวว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยต้องประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติทั่วทุกภาคของประเทศ ทั้งภัยพิบัติสึนามิ ซึ่งเกิดขึ้นในภาคใต้ฝั่งอันดามัน ปี 47 และมหาอุทกภัยที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อเป็นการป้องกันภัยล่วงหน้าทางกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ซึ่งมีนโยบายให้ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติเป็นหน่วยงานหลักในการบริหารและทำงานแบบบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆเกี่ยวกับการแจ้งเตือนภัย เพื่อรับมือกับภัยพิบัติได้ทันต่อเหตุการณ์
จึงได้จัดการสัมมนาโครงการสร้างองค์ความรู้ด้านระบบเตือนภัยพิบัติของพื้นที่เสี่ยงภัย และสร้างเครือข่ายศูนย์เตือนภัยพิบัติภาคประชาชนเพื่อป้องกันและบรรเทาภัย เพื่อทำงานร่วมกับภาครัฐอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมีทั้งการฝึกซ้อมด้านการสื่อสารโทรคมนาคม และด้านระบบเตือนภัยในพื้นที่เสี่ยงภัย การซักซ้อมการรับข่าวสาร การแจ้งเตือนภัย การให้ความช่วยเหลือและการประสานงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างมีระบบเต็มไปด้วยประสิทธิภาพ
โดยเครือข่ายศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ คอยเฝ้าระวังภัย และให้ข้อมูลเกี่ยวกับภัยธรรมชาติในพื้นที่ให้แก่ทางศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ใช้วิเคราะห์ข้อมูล เพื่อแจ้งเตือนภัยไปยังพื้นที่เสี่ยงแต่ละแห่ง ให้พร้อมรับมือภัยพิบัติทางธรรมชาติ ลดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยในจังหวัดกระบี่มีพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วม ดินโคลนถล่ม รวม 5 อำเภอ 10 ตำบล 48 หมู่บ้าน ส่วนพื้นที่เสี่ยงภัยคลื่นยักษ์สึนามิพัดถล่ม มีอำเภอเกาะลันตา อำเภอเมือง และอำเภออ่าวลึก ซึ่งในแต่ละพื้นที่มีหอเตือนภัยตั้งอยู่ครบทุกพื้นที่
