ตรัง - สลด! ด.ช.วัย 3 ขวบนั่งกอดศพพ่อบุญธรรม หลังถูกมือมีดโหดบุกเข้าไปฟันถึงบ้านดับสยอง ขณะที่พยานระบุเห็นเพื่อนผู้ตายมาหาก่อนมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (23 ต.ค.) ร.ต.อ.ปัณฑิวัฒน์ เพชรหล่อ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองตรัง รับแจ้งเหตุพบศพผู้เสียชีวิตภายในโรงทำอิฐบล็อกเก่า เลขที่ 30/7 ซ.2 น้ำผุด ต.ทับเที่ยง เขตเทศบาลนครตรัง หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.ภูมิ บาลทิพย์ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.เมธี จันทร์งาม รอง ผกก.สส. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
โดยที่เกิดเหตุบริเวณหน้าห้องน้ำ พบศพผู้เสียชีวิตนอนหงายจมกองเลือด ทราบชื่อคือ นายวิสุทธิ์ เซ่งย่อง อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 หมู่ที่ 10 ต.นาท่ามเหนือ อ.เมืองตรัง โดยมีบาดแผลถูกฟันด้วยของมีคมเข้าที่บริเวณท้ายทอย และกกหูซ้าย รวม 2 แผล นอกจากนั้น ที่บริเวณหน้าผากยังมีรอยถูกกระแทก และใกล้ๆ กันยังพบกองเลือดหยดเป็นทางจำนวนมาก
จากการสอบสวนทราบว่า นายวิสุทธิ์ ผู้ตาย ไม่มีภรรยา แต่ได้เก็บเด็กชายคนหนึ่งมาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม ซึ่ง 2 พ่อลูกได้เช่าห้องเล็กๆ อยู่อาศัยภายในโรงทำอิฐบล็อกเก่าของแม่อดีต ส.ท.นครตรัง โดยยึดอาชีพรับจ้างทั่วไป ก่อนเกิดเหตุยังมีเพื่อนบ้านพบเห็นผู้ตายเดินไปมาอยู่ภายในโรงทำอิฐบล็อก แต่เมื่อถึงตอนเช้าก็พบว่าถูกฆ่าตายแล้ว โดยมีลูกบุญธรรมวัย 3 ขวบ นั่งเฝ้ากอดศพผู้ตาย และพยายามปลุกผู้เป็นพ่อให้ลุกขึ้น โดยไม่ทราบว่าผู้เป็นพ่อได้เสียชีวิตแล้ว จนเป็นที่น่าเวทนาแก่ผู้พบเห็น
ทั้งนี้ จากการสอบปากคำลูกบุญธรรมวัย 3 ขวบของ นายวิสุทธิ์ เล่าว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาได้มี นายหมี ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง มาหาพ่อ แล้วทั้งคู่ก็มีปากเสียงทะเลาะกัน จากนั้น นายหมีก็ได้ใช้มีดพร้าทุบตีพ่อจนล้มแล้ววิ่งออกจากบ้านไป เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า นายหมีน่าจะเป็นเพื่อนของผู้ตายที่เคยมาหากันเป็นประจำ โดยก่อนเกิดเหตุ ทั้งนายหมีและผู้ตายคงมีการพูดคุยกันเพื่อตกลงปัญหาบางอย่าง แต่เมื่อไม่สามารถเคลียร์กันได้ นายหมีจึงบันดาลโทสะแล้วใช้ของมีคมฟันไปที่ท้ายทอยของผู้ตาย จนล้มคว่ำหน้าผากกระแทกฟุบลงกับพื้น แล้วฟันซ้ำที่กกหูซ้ายอีกครั้ง จากนั้นได้ลากศพไปที่หน้าห้องน้ำ แต่ระหว่างนั้นได้มีเสียงคนขับรถจักรยานยนต์ผ่านไปมา ทำให้คนร้ายกลัวว่าจะมีคนมาเห็นจึงรีบขับรถจักรยานยนต์หนีไป ซึ่งโชคดีที่นายหมีไม่ได้ทำอันตรายหนูน้อยวัย 3 ขวบด้วย จนกระทั่งมีผู้มาพบศพนายวิสุทธิ์ตอนเช้าดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้นำตัวลูกบุญธรรมวัย 3 ขวบของผู้ตายไปสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง ซึ่งเชื่อว่าเด็กน่าจะเป็นกุญแจดอกสำคัญในการนำไปสู่การจับกุมคนร้ายได้ในที่สุด
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (23 ต.ค.) ร.ต.อ.ปัณฑิวัฒน์ เพชรหล่อ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองตรัง รับแจ้งเหตุพบศพผู้เสียชีวิตภายในโรงทำอิฐบล็อกเก่า เลขที่ 30/7 ซ.2 น้ำผุด ต.ทับเที่ยง เขตเทศบาลนครตรัง หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.ภูมิ บาลทิพย์ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.เมธี จันทร์งาม รอง ผกก.สส. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
โดยที่เกิดเหตุบริเวณหน้าห้องน้ำ พบศพผู้เสียชีวิตนอนหงายจมกองเลือด ทราบชื่อคือ นายวิสุทธิ์ เซ่งย่อง อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 หมู่ที่ 10 ต.นาท่ามเหนือ อ.เมืองตรัง โดยมีบาดแผลถูกฟันด้วยของมีคมเข้าที่บริเวณท้ายทอย และกกหูซ้าย รวม 2 แผล นอกจากนั้น ที่บริเวณหน้าผากยังมีรอยถูกกระแทก และใกล้ๆ กันยังพบกองเลือดหยดเป็นทางจำนวนมาก
จากการสอบสวนทราบว่า นายวิสุทธิ์ ผู้ตาย ไม่มีภรรยา แต่ได้เก็บเด็กชายคนหนึ่งมาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม ซึ่ง 2 พ่อลูกได้เช่าห้องเล็กๆ อยู่อาศัยภายในโรงทำอิฐบล็อกเก่าของแม่อดีต ส.ท.นครตรัง โดยยึดอาชีพรับจ้างทั่วไป ก่อนเกิดเหตุยังมีเพื่อนบ้านพบเห็นผู้ตายเดินไปมาอยู่ภายในโรงทำอิฐบล็อก แต่เมื่อถึงตอนเช้าก็พบว่าถูกฆ่าตายแล้ว โดยมีลูกบุญธรรมวัย 3 ขวบ นั่งเฝ้ากอดศพผู้ตาย และพยายามปลุกผู้เป็นพ่อให้ลุกขึ้น โดยไม่ทราบว่าผู้เป็นพ่อได้เสียชีวิตแล้ว จนเป็นที่น่าเวทนาแก่ผู้พบเห็น
ทั้งนี้ จากการสอบปากคำลูกบุญธรรมวัย 3 ขวบของ นายวิสุทธิ์ เล่าว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาได้มี นายหมี ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง มาหาพ่อ แล้วทั้งคู่ก็มีปากเสียงทะเลาะกัน จากนั้น นายหมีก็ได้ใช้มีดพร้าทุบตีพ่อจนล้มแล้ววิ่งออกจากบ้านไป เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า นายหมีน่าจะเป็นเพื่อนของผู้ตายที่เคยมาหากันเป็นประจำ โดยก่อนเกิดเหตุ ทั้งนายหมีและผู้ตายคงมีการพูดคุยกันเพื่อตกลงปัญหาบางอย่าง แต่เมื่อไม่สามารถเคลียร์กันได้ นายหมีจึงบันดาลโทสะแล้วใช้ของมีคมฟันไปที่ท้ายทอยของผู้ตาย จนล้มคว่ำหน้าผากกระแทกฟุบลงกับพื้น แล้วฟันซ้ำที่กกหูซ้ายอีกครั้ง จากนั้นได้ลากศพไปที่หน้าห้องน้ำ แต่ระหว่างนั้นได้มีเสียงคนขับรถจักรยานยนต์ผ่านไปมา ทำให้คนร้ายกลัวว่าจะมีคนมาเห็นจึงรีบขับรถจักรยานยนต์หนีไป ซึ่งโชคดีที่นายหมีไม่ได้ทำอันตรายหนูน้อยวัย 3 ขวบด้วย จนกระทั่งมีผู้มาพบศพนายวิสุทธิ์ตอนเช้าดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้นำตัวลูกบุญธรรมวัย 3 ขวบของผู้ตายไปสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง ซึ่งเชื่อว่าเด็กน่าจะเป็นกุญแจดอกสำคัญในการนำไปสู่การจับกุมคนร้ายได้ในที่สุด
