ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - การค้าภายในจังหวัดนราธิวาส เชิญชวนประชาชนออกมาซื้อสินค้าในโครงการ “ธงฟ้า ราคาประหยัด สุดสัปดาห์” โดยศุกร์นี้มีข้าวสารราคาถูกจำหน่ายด้วย ขณะ ผบ.ฉก.นราธิวาส 36 ยืนยันความพร้อมของมาตรการการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อให้ผู้ประกอบการ และประชาชนกลับมาดำเนินชีวิตในทุกวันศุกร์ได้ตามปกติ
วันนี้ (18 ต.ค.) นางดุสิดา โภคากร การค้าภายในจังหวัดนราธิวาส เชิญชวนประชาชนออกมาจับจ่ายซื้อสินค้าในโครงการ “ธงฟ้า ราคาประหยัดสุดสัปดาห์” ณ สวนกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เทศบาลเมืองนราธิวาส ที่มีการจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 2 หลังได้รับการตอบรับดีเกินคาดจากเมื่อวันศุกร์ที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา จนส่งผลให้บรรยากาศในวันศุกร์กลับมาคึกคักอีกครั้ง ทั้งนี้ ในวันศุกร์ที่ 19 ต.ค.55 จะมีการจัดโครงการ “ธงฟ้า ราคาประหยัดสุดสัปดาห์” ตามแผนการกระตุ้นให้ผู้ประกอบการ และประชาชนในพื้นที่มั่นใจ และตื่นตัวในการเปิดร้าน รวมถึงทำงานในวันศุกร์กันตามปกติ
โดยภายในงานมีการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีความจำเป็นในครัวเรือน เช่น น้ำตาล น้ำมันพืช ไข่ไก่ราคาถูก อีกทั้งในวันศุกร์ที่ 19 ต.ค.นี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ส่งข้าวสารคุณภาพดี จำนวน 3.4 ตัน เพื่อนำมาวางจำหน่ายในราคาประหยัด ถุงละ 75 บาท ภายในงานดังกล่าวด้วย
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของข้าวสาร เพื่อให้มีความทั่วถึงมากขึ้นจึงจำกัดให้ซื้อได้คนละไม่เกิน 2 ถุง ส่วนในพื้นที่อำเภออื่นๆ ก็จะมีการจัดกิจกรรม “ธงฟ้า ราคาประหยัด” ด้วยเช่นเดียวกัน แต่จะจัดในวันปกติ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดปฏิทินงาน และการกำหนดสถานที่
การค้าภายในจังหวัดนราธิวาส กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับโครงการ “ธงฟ้าราคาประหยัด สุดสัปดาห์” เป็นอีกหนึ่งโครงการที่กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับจังหวัดนราธิวาส มุ่งหวังว่าจะสามารถบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนในภาวะที่ค่าครองชีพ และราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะชาวนราธิวาสที่ได้รับผลกระทบจากกระแสข่าวลือให้ปิดกิจการวันศุกร์ อีกทั้งอาจต้องซื้อสินค้าที่แพงกว่าจังหวัดอื่นๆ อันเนื่องมาจากผู้ประกอบการต้องบวกค่าขนส่งซึ่งเป็นไปตามกลไกตลาด
ขณะที่ พ.ท.วุทธยา จันทมาศ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 36 ยืนยันความพร้อมในมาตรการการรักษาความปลอดภัยพื้นที่รับผิดชอบในพื้นที่ อ.ตากใบ และ อ.สุไหงโก-ลก โดยเฉพาะในวันศุกร์ที่กลุ่มผู้ไม่หวังดีปล่อยข่าวลือข่มขู่ไม่ให้เปิดกิจการในวันดังกล่าว เพื่อให้ผู้ประกอบการ และประชาชนมั่นใจว่าจะได้รับการดูแลชีวิต และทรัพย์สินให้มีความปลอดภัยสูงสุด พร้อมทั้งกลับมาเปิดร้าน และทำงานตามปกติหลังจากได้ร่วมประชุมสรุปแผนการรักษาความปลอดภัยในระดับจังหวัด ซึ่งนายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ให้ความสำคัญในเรื่องนี้เป็นพิเศษ โดยเฉพาะการจัดกำลังพล บุคลากร เครื่องมือในการรักษาความปลอดภัย
รวมถึงการขอรับการสนับสนุนกล้อง CCTV และอุปกรณ์กู้ภัยเพิ่มเติมเพื่อให้มีความพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจจะเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งได้ขยายผลโดยการประชุมจัดแผนการรักษาความปลอดภัยในระดับอำเภอตามแผนพิทักษ์โก-ลก 55 ร่วมกับนายจำนัล เหมือนดำ นายอำเภอสุไหงโก-ลก พ.ต.อ.ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสุไหงโก-ลก รวมถึงเครือข่ายภาคประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้มาตรการการรักษาความปลอดภัยมีความเข้มงวด และต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ สำหรับพื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลก จะเน้นการดูแลเป็นพิเศษในพื้นที่เซฟตี้โซน โดยการวางกำลังตามจุดต่างๆ และมีการตรวจสอบการเข้า-ออกพื้นที่อย่างเข้มงวด ส่วนเขตเมืองชั้นใน และเขตพื้นที่ตำบลรอบนอกกำลังพลของทหารจะสนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครอง รวมถึงเครือข่ายภาคประชาชนที่เข้ามาร่วมเป็นตาสับปะรดในการติดตาม เฝ้าระวังสถานการณ์ในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ขณะที่กองร้อยป้องกันชายแดนที่ 2 ซึ่งทำงานร่วมกับตำรวจตระเวนชายแดนก็เป็นอีกหนึ่งชุดปฏิบัติการตามแผนพิทักษ์โก-ลก 55 ที่จะติดตามความเคลื่อนไหว และตรวจสอบบุคคลที่เดินทางเข้า-ออกระหว่างประเทศ เพื่อรักษาความปลอดภัยให้แก่พื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลกอีกทางหนึ่งด้วย
ดังนั้น จึงขอให้ผู้ประกอบการ และประชาชนในพื้นที่เชื่อมั่นว่า เจ้าหน้าที่รัฐทุกฝ่ายจะดำเนินการในทุกด้านอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อให้ทุกคนกลับมาดำเนินชีวิตอย่างปกติสุขในทุกวัน ซึ่งรวมถึงวันศุกร์ของทุกสัปดาห์ด้วย
วันนี้ (18 ต.ค.) นางดุสิดา โภคากร การค้าภายในจังหวัดนราธิวาส เชิญชวนประชาชนออกมาจับจ่ายซื้อสินค้าในโครงการ “ธงฟ้า ราคาประหยัดสุดสัปดาห์” ณ สวนกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เทศบาลเมืองนราธิวาส ที่มีการจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 2 หลังได้รับการตอบรับดีเกินคาดจากเมื่อวันศุกร์ที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา จนส่งผลให้บรรยากาศในวันศุกร์กลับมาคึกคักอีกครั้ง ทั้งนี้ ในวันศุกร์ที่ 19 ต.ค.55 จะมีการจัดโครงการ “ธงฟ้า ราคาประหยัดสุดสัปดาห์” ตามแผนการกระตุ้นให้ผู้ประกอบการ และประชาชนในพื้นที่มั่นใจ และตื่นตัวในการเปิดร้าน รวมถึงทำงานในวันศุกร์กันตามปกติ
โดยภายในงานมีการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีความจำเป็นในครัวเรือน เช่น น้ำตาล น้ำมันพืช ไข่ไก่ราคาถูก อีกทั้งในวันศุกร์ที่ 19 ต.ค.นี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ส่งข้าวสารคุณภาพดี จำนวน 3.4 ตัน เพื่อนำมาวางจำหน่ายในราคาประหยัด ถุงละ 75 บาท ภายในงานดังกล่าวด้วย
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของข้าวสาร เพื่อให้มีความทั่วถึงมากขึ้นจึงจำกัดให้ซื้อได้คนละไม่เกิน 2 ถุง ส่วนในพื้นที่อำเภออื่นๆ ก็จะมีการจัดกิจกรรม “ธงฟ้า ราคาประหยัด” ด้วยเช่นเดียวกัน แต่จะจัดในวันปกติ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดปฏิทินงาน และการกำหนดสถานที่
การค้าภายในจังหวัดนราธิวาส กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับโครงการ “ธงฟ้าราคาประหยัด สุดสัปดาห์” เป็นอีกหนึ่งโครงการที่กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับจังหวัดนราธิวาส มุ่งหวังว่าจะสามารถบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนในภาวะที่ค่าครองชีพ และราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะชาวนราธิวาสที่ได้รับผลกระทบจากกระแสข่าวลือให้ปิดกิจการวันศุกร์ อีกทั้งอาจต้องซื้อสินค้าที่แพงกว่าจังหวัดอื่นๆ อันเนื่องมาจากผู้ประกอบการต้องบวกค่าขนส่งซึ่งเป็นไปตามกลไกตลาด
ขณะที่ พ.ท.วุทธยา จันทมาศ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 36 ยืนยันความพร้อมในมาตรการการรักษาความปลอดภัยพื้นที่รับผิดชอบในพื้นที่ อ.ตากใบ และ อ.สุไหงโก-ลก โดยเฉพาะในวันศุกร์ที่กลุ่มผู้ไม่หวังดีปล่อยข่าวลือข่มขู่ไม่ให้เปิดกิจการในวันดังกล่าว เพื่อให้ผู้ประกอบการ และประชาชนมั่นใจว่าจะได้รับการดูแลชีวิต และทรัพย์สินให้มีความปลอดภัยสูงสุด พร้อมทั้งกลับมาเปิดร้าน และทำงานตามปกติหลังจากได้ร่วมประชุมสรุปแผนการรักษาความปลอดภัยในระดับจังหวัด ซึ่งนายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ให้ความสำคัญในเรื่องนี้เป็นพิเศษ โดยเฉพาะการจัดกำลังพล บุคลากร เครื่องมือในการรักษาความปลอดภัย
รวมถึงการขอรับการสนับสนุนกล้อง CCTV และอุปกรณ์กู้ภัยเพิ่มเติมเพื่อให้มีความพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจจะเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งได้ขยายผลโดยการประชุมจัดแผนการรักษาความปลอดภัยในระดับอำเภอตามแผนพิทักษ์โก-ลก 55 ร่วมกับนายจำนัล เหมือนดำ นายอำเภอสุไหงโก-ลก พ.ต.อ.ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสุไหงโก-ลก รวมถึงเครือข่ายภาคประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้มาตรการการรักษาความปลอดภัยมีความเข้มงวด และต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ สำหรับพื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลก จะเน้นการดูแลเป็นพิเศษในพื้นที่เซฟตี้โซน โดยการวางกำลังตามจุดต่างๆ และมีการตรวจสอบการเข้า-ออกพื้นที่อย่างเข้มงวด ส่วนเขตเมืองชั้นใน และเขตพื้นที่ตำบลรอบนอกกำลังพลของทหารจะสนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครอง รวมถึงเครือข่ายภาคประชาชนที่เข้ามาร่วมเป็นตาสับปะรดในการติดตาม เฝ้าระวังสถานการณ์ในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ขณะที่กองร้อยป้องกันชายแดนที่ 2 ซึ่งทำงานร่วมกับตำรวจตระเวนชายแดนก็เป็นอีกหนึ่งชุดปฏิบัติการตามแผนพิทักษ์โก-ลก 55 ที่จะติดตามความเคลื่อนไหว และตรวจสอบบุคคลที่เดินทางเข้า-ออกระหว่างประเทศ เพื่อรักษาความปลอดภัยให้แก่พื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลกอีกทางหนึ่งด้วย
ดังนั้น จึงขอให้ผู้ประกอบการ และประชาชนในพื้นที่เชื่อมั่นว่า เจ้าหน้าที่รัฐทุกฝ่ายจะดำเนินการในทุกด้านอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อให้ทุกคนกลับมาดำเนินชีวิตอย่างปกติสุขในทุกวัน ซึ่งรวมถึงวันศุกร์ของทุกสัปดาห์ด้วย