นราธิวาส - ชาวบ้านขับเรือยนต์พบศพลอยอยู่กลางแม่น้ำตากใบ หลังเจ้าหน้าที่เอาศพขึ้นฝั่งตรวจสอบพบผู้ตายเป็น อส.ประจำอำเภอตากใบ สภาพศพถูกยิง และมีรอยกรีดบนใบหน้า และหน้าท้อง ถูกจับมัดมือมัดเท้า และมีก้อนหินขนาดใหญ่ถ่วงไว้ จนท.คาดเรื่องผลประโยชน์ หรือขัดแย้งเรื่องส่วนตัว
เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (15 ต.ค.) พ.ต.อ.เสน่ห์ จรรยาสถิต ผกก.สภ.ตากใบ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุพบศพถ่วงกลางแม่น้ำตากใบ ช่วงบริเวณบ้านฮูมอรานัส ม.6 ต.เจ๊ะเห จึงพร้อมด้วย พ.ท.วุทธยา จันทมาศ ผบ.ฉก.นราธิวาส 36 และนายไตรทิพย์ สกุลประดิษฐ์ ปลัดอาวุโส อ.ตากใบ รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารฝ่าย ปกครองจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พบศพดังกล่าวลอยอยู่เหนือผิวน้ำบริเวณกลางแม่น้ำตากใบ โดยมีก้อนหินขนาดใหญ่ใช้เชือกผูกถ่วงติดไว้ที่ช่วงบริเวณขา และแขนทั้ง 2 ข้าง เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานไปยัง พ.ต.ท.วัชชะนนท์ นนท์ทา สว.ตำรวจน้ำตากใบ เพื่อขอสนับสนุนนำเรือไปลากศพผู้เสียชีวิตขึ้นฝั่ง และจากการตรวจสอบศพดังกล่าวทราบชื่อคือ นายอัฟรอปา อาแซ อายุ 28 ปี ซึ่งเป็น อส.ประจำที่ว่าการอำเภอตากใบ
โดยสภาพศพถูกมัดมือ และข้อเท้าด้วยเชือกไนลอน โดยเฉพาะที่บริเวณหน้าท้องถูกคนร้ายใช้ของมีคมผ่าตั้งแต่หน้าอกจดหน้าท้อง และมีร่องรอยถูกกระสุนปืนพกสั้นของคนร้ายยิงที่บริเวณศีรษะ จำนวน 3 นัด แผ่นหลัง จำนวน 4 นัด แถมคนร้ายยังใช้มีดฟันที่บริเวณใบหน้าจนเป็นแผลฉกรรจ์ เจ้าหน้าที่จึงได้นำศพส่งโรงพยาบาลตากใบ เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนที่จะมอบให้ญาติรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนา
จากการสอบสวนทราบว่า เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา หลังจาก อส.อัฟรอปา ออกจากเวรซึ่งรักษาการณ์อยู่ที่บริเวณป้อมยามทางเข้าที่ว่าการ อ.ตากใบ ได้ขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ ออกจากที่ว่าการอำเภอเพื่อเดินทางกลับบ้านพัก หลังจากวันนั้นผู้ตายได้หายไป ทางเครือญาติ และผู้บังคับบัญชาได้ติดต่อสอบถามไปยังเครือญาติ และคนที่รู้จักและสนิทสนมกับผู้ตาย แต่ไม่มีผู้ใดทราบว่าหายไปไหนพร้อมกับรถจักรยานยนต์ จนกระทั่งได้มีชาวบ้านขับเรือยนต์ผ่านมา เห็นศพผู้ตายลอยอยู่ผิวน้ำจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบดังกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.เสน่ห์ จรรยาสถิต ผกก.สภ.ตากใบ กล่าวว่า ดูลักษณะศพคล้ายถูกกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวนหลายคนได้ลวงผู้ตายไปฆ่า ด้วยการใช้อาวุธปืนยิง และใช้มีดฟันจนเสียชีวิต หลังจากนั้น กลุ่มคนร้ายได้ช่วยกันนำมีดมาผ่าหน้าท้องของผู้ตายเพื่อป้องกันการขึ้นอืด แล้วใช้เชือกไนลอนมัดมือและเท้า ก่อนที่จะนำหินขนาดใหญ่มาผูกถ่วงไว้ที่บริเวณข้อเท้า และมือของผู้ตาย แล้วเคลื่อนย้ายศพด้วยเรือไปโยนทิ้งกลางแม่น้ำเพื่ออำพรางคดี ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่เร่งสืบสวนสอบสวนและสอบถามเครือญาติของผู้ตายว่า ผู้ตายเคยมีเรื่องบาดหมางกับผู้ใดบ้างในพื้นที่ เพราะดูพฤติกรรมของกลุ่มคนร้ายมีลักษณะโกธรแค้นผู้ตายเป็นอย่างมาก จึงได้มีการทารุณกรรมศพ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่สันนิษฐานมุ่งประเด็นขัดแย้งผลประโยชน์ และเรื่องส่วนตัว และน่าจะไม่เกี่ยวข้องกับปัญหาความมั่นคง
