ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ด่านศุลกากรท่าอากาศยานภูเก็ต จับหญิงสาวชาวโมซัมบิกลอบขนยาไอซ์เข้าภูเก็ต 6 กิโลกรัม มูลค่า 21 ล้านบาท คาดส่งให้ลูกค้าย่านหาดป่าตอง เผยเพิ่งเดินทางเข้าภูเก็ตครั้งแรก

เมื่อเวลา 22.00 น. วันนี้ (13 ต.ค.) ที่ห้องปะชุมด่านศุลกากรท่าอากาศยานภูเก็ต นางมนทิรา เชิดชู นายด่านศุลกากรท่าอากาศยานภูเก็ต พร้อมด้วย นางสุภาภรณ์ สร้อยทอง นักวิชาการศุลกากรชำนาญการพิเศษ นายชัยณรงค์ พุทธรัสสุ นักวิชาการชำนาญการ หัวหน้าชุดจับกุม พ.ต.ท.ธีรวัฒน์ เลี่ยมสุวรรณ รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สภ.ท่าฉัตรไชย พ.ต.ต.ฐาปกรณ์ หนุมาศ สารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.ท่าฉัตรไชย อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรท่าอากาศยานภูเก็ต ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม MRS.HORTENCIA FERREIRA NOVELA สัญชาติโมซัมบิก อายุ 37 ปี พร้อมด้วยของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน หรือยาไอซ์ น้ำหนัก 6 กิโลกรัม

สำหรับการจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจาก นางเบญจา หลุยเจริญ อธิบดีกรมศุลกากร มีนโยบายด้านการควบคุมทางศุลกากร และปกป้องสังคมอย่างเคร่งครัด จึงสั่งการให้ด่านศุลกากรท่าอากาศยานภูเก็ตดำเนินการวางแผนจับกุมการลักลอบขนยาเสพติดข้ามชาติ ซึ่งมีแนวโน้มลักลอบขนยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทยเพิ่มขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ประจำด่านจึงได้เพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสัมภาระของผู้โดยสารอย่างเข้มงวดขึ้น เพื่อสกัดกั้นป้องกัน และปรามปรามการลักลอบขนยาเสพติดเข้ามาทางด่านท่าอากาศยานภูเก็ต โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศเป้าหมายที่สำคัญ

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบกระเป๋าสัมภาระของผู้โดยสารอย่างเข้มงวด ทำให้วันนี้ (13 ต.ค.) เวลาประมาณ 16.30 น. มีการตรวจพบกระเป๋าเดินทางของ MRS.HORTENCIA FERREIRA NOVELA สัญชาติโมซัมบิกมีความผิดปกติ ซึ่งจากการเอกซเรย์พบว่า ภายในกระเป๋าเดินทางมีกระเป๋าอีกหนึ่งใบ และลักษณะสีทึบ ซึ่งเป็นที่ผิดสังเกต ทางเจ้าหน้าที่จึงได้นำกระเป๋าเดินทางดังกล่าวมาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เมื่อเปิดกระเป๋าเดินทางพบว่า บริเวณด้านบนสุดของกระเป๋ามีกระเป๋าใส่คอมพิวเตอร์สีม่วงอ่อนวางอยู่ 1 ใบ แต่ภายในไม่มีคอมพิวเตอร์บรรจุอยู่ และเมื่อยกดูพบว่ามีน้ำหนักมากผิดปกติ

จึงได้ตรวจสอบกระเป๋าดังกล่าวอย่างละเอียด พบว่า ภายในกระเป๋ามีการทำช่องพิเศษเพื่อซุกซ่อนสิ่งของทั้ง 2 ด้าน เมื่อแกะออกดูพบว่าภายในมีสารชนิดหนึ่งเป็นเกล็ดสีขาวบรรจุอยู่ในถุงพลาสติก 2 ถุง เมื่อนำมาตรวจสอบพบว่าสิ่งของดังกล่าวเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน หรือยาไอซ์ น้ำหนักถุงละ 3 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่จึงนำตัว MRS.HORTENCIA FERREIRA NOVELA สัญชาติโมซัมบิก มาสอบสวนขยายผล พร้อมแจ้งข้อกล่าวหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 27 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พุทธศักราช 2469 ประกอบกับ พ.ร.บ.ศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ.2482 มาตรา 16 และมาตรา 17 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรท่าฉัตรไชย อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ดำเนินคดี

นางมนทิรา กล่าวต่อไปว่า จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาเดินทางมาจากประเทศโมซัมบิกโดยสายการบินเคนยาแอร์เวย์ และมาต่อเครื่องที่เมืองไนโรบี ประเทศเคนยา และมาต่อเครื่องที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ หลังจากนั้น มาต่อเครื่องอีกครั้งที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ด้วยเที่ยวบินที่ QR 624 เพื่อเดินทางต่อมายังท่าอากาศยานภูเก็ต และถึงท่าอากาศยานภูเก็ตเวลาประมาณ 16.30 วันนี้ (13 ต.ค.) และจากการตรวจสอบหนังสือเดินทางพบว่า ผู้ต้องหาเพิ่งเดินทางมายังจังหวัดภูเก็ตครั้งแรก มีกำหนดเดินทางกลับในวันที่ 22 ต.ค.นี้ และจากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหาพบว่า มีข้อความส่งเข้ามาให้ผู้ต้องหาไปเปิดโรงแรมพักในพื้นที่ป่าตอง ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่ายาไอซ์ดังกล่าวน่าจะนำไปส่งให้แก่ผู้ร่วมขบวนการที่จะมารับในพื้นที่ป่าตอง ซึ่งขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังอยู่ระหว่างการสืบสวน

นางมนทิรา กล่าวต่อไปว่า สำหรับยาไอซ์ที่ตรวจยึดได้ในครั้งนี้ เป็นประเภทพร้อมเสพ ซึ่งถ้านำไปขายจะมีมูลค่าสูงถึง 21 ล้านบาท และการจับกุมยาไอซ์ในครั้งนี้ถือเป็นการจับกุมรายใหญ่ที่สุด ซึ่งก่อนหน้านี้ เคยจับกุมผู้ต้องหาคนไทยลอบขนยาไอซ์เข้ามาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2554 ครั้งนั้นมีน้ำหนักประมาณ 3 กิโลกรัม


เมื่อเวลา 22.00 น. วันนี้ (13 ต.ค.) ที่ห้องปะชุมด่านศุลกากรท่าอากาศยานภูเก็ต นางมนทิรา เชิดชู นายด่านศุลกากรท่าอากาศยานภูเก็ต พร้อมด้วย นางสุภาภรณ์ สร้อยทอง นักวิชาการศุลกากรชำนาญการพิเศษ นายชัยณรงค์ พุทธรัสสุ นักวิชาการชำนาญการ หัวหน้าชุดจับกุม พ.ต.ท.ธีรวัฒน์ เลี่ยมสุวรรณ รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สภ.ท่าฉัตรไชย พ.ต.ต.ฐาปกรณ์ หนุมาศ สารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.ท่าฉัตรไชย อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรท่าอากาศยานภูเก็ต ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม MRS.HORTENCIA FERREIRA NOVELA สัญชาติโมซัมบิก อายุ 37 ปี พร้อมด้วยของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน หรือยาไอซ์ น้ำหนัก 6 กิโลกรัม
สำหรับการจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจาก นางเบญจา หลุยเจริญ อธิบดีกรมศุลกากร มีนโยบายด้านการควบคุมทางศุลกากร และปกป้องสังคมอย่างเคร่งครัด จึงสั่งการให้ด่านศุลกากรท่าอากาศยานภูเก็ตดำเนินการวางแผนจับกุมการลักลอบขนยาเสพติดข้ามชาติ ซึ่งมีแนวโน้มลักลอบขนยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทยเพิ่มขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ประจำด่านจึงได้เพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสัมภาระของผู้โดยสารอย่างเข้มงวดขึ้น เพื่อสกัดกั้นป้องกัน และปรามปรามการลักลอบขนยาเสพติดเข้ามาทางด่านท่าอากาศยานภูเก็ต โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศเป้าหมายที่สำคัญ
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบกระเป๋าสัมภาระของผู้โดยสารอย่างเข้มงวด ทำให้วันนี้ (13 ต.ค.) เวลาประมาณ 16.30 น. มีการตรวจพบกระเป๋าเดินทางของ MRS.HORTENCIA FERREIRA NOVELA สัญชาติโมซัมบิกมีความผิดปกติ ซึ่งจากการเอกซเรย์พบว่า ภายในกระเป๋าเดินทางมีกระเป๋าอีกหนึ่งใบ และลักษณะสีทึบ ซึ่งเป็นที่ผิดสังเกต ทางเจ้าหน้าที่จึงได้นำกระเป๋าเดินทางดังกล่าวมาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เมื่อเปิดกระเป๋าเดินทางพบว่า บริเวณด้านบนสุดของกระเป๋ามีกระเป๋าใส่คอมพิวเตอร์สีม่วงอ่อนวางอยู่ 1 ใบ แต่ภายในไม่มีคอมพิวเตอร์บรรจุอยู่ และเมื่อยกดูพบว่ามีน้ำหนักมากผิดปกติ
จึงได้ตรวจสอบกระเป๋าดังกล่าวอย่างละเอียด พบว่า ภายในกระเป๋ามีการทำช่องพิเศษเพื่อซุกซ่อนสิ่งของทั้ง 2 ด้าน เมื่อแกะออกดูพบว่าภายในมีสารชนิดหนึ่งเป็นเกล็ดสีขาวบรรจุอยู่ในถุงพลาสติก 2 ถุง เมื่อนำมาตรวจสอบพบว่าสิ่งของดังกล่าวเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน หรือยาไอซ์ น้ำหนักถุงละ 3 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่จึงนำตัว MRS.HORTENCIA FERREIRA NOVELA สัญชาติโมซัมบิก มาสอบสวนขยายผล พร้อมแจ้งข้อกล่าวหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 27 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พุทธศักราช 2469 ประกอบกับ พ.ร.บ.ศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ.2482 มาตรา 16 และมาตรา 17 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรท่าฉัตรไชย อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ดำเนินคดี
นางมนทิรา กล่าวต่อไปว่า จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาเดินทางมาจากประเทศโมซัมบิกโดยสายการบินเคนยาแอร์เวย์ และมาต่อเครื่องที่เมืองไนโรบี ประเทศเคนยา และมาต่อเครื่องที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ หลังจากนั้น มาต่อเครื่องอีกครั้งที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ด้วยเที่ยวบินที่ QR 624 เพื่อเดินทางต่อมายังท่าอากาศยานภูเก็ต และถึงท่าอากาศยานภูเก็ตเวลาประมาณ 16.30 วันนี้ (13 ต.ค.) และจากการตรวจสอบหนังสือเดินทางพบว่า ผู้ต้องหาเพิ่งเดินทางมายังจังหวัดภูเก็ตครั้งแรก มีกำหนดเดินทางกลับในวันที่ 22 ต.ค.นี้ และจากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหาพบว่า มีข้อความส่งเข้ามาให้ผู้ต้องหาไปเปิดโรงแรมพักในพื้นที่ป่าตอง ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่ายาไอซ์ดังกล่าวน่าจะนำไปส่งให้แก่ผู้ร่วมขบวนการที่จะมารับในพื้นที่ป่าตอง ซึ่งขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังอยู่ระหว่างการสืบสวน
นางมนทิรา กล่าวต่อไปว่า สำหรับยาไอซ์ที่ตรวจยึดได้ในครั้งนี้ เป็นประเภทพร้อมเสพ ซึ่งถ้านำไปขายจะมีมูลค่าสูงถึง 21 ล้านบาท และการจับกุมยาไอซ์ในครั้งนี้ถือเป็นการจับกุมรายใหญ่ที่สุด ซึ่งก่อนหน้านี้ เคยจับกุมผู้ต้องหาคนไทยลอบขนยาไอซ์เข้ามาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2554 ครั้งนั้นมีน้ำหนักประมาณ 3 กิโลกรัม