นราธิวาส - เกิดเหตุคนร้ายลอบเผารถแบ็กโฮบริษัท นราพารา จำกัด ที่เข้าไปทำการแผ้วถางต้นยางพาราในพื้นที่ ต.สุวารี อ.รือเสาะ ได้รับความเสียหายทั้งคัน
เมื่อเวลา 07.00 น. วันนี้ (30 ก.ย.) ร.ต.ท.วันชัย รักบุญเมือง ร้อยเวร สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายเผารถแบ็กโฮที่จอดอยู่ข้างบ้านนางซีตี อายา อายุ 54 ปี เลขที่ 26 บ้านปอเนาะ ม.6 ต.สุวารี จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.กระจ่าง รักษ์ณรงค์ หน.กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส พ.ต.ต.วินิต แก้วมณี สว.สืบสวน สภ.รือเสาะ ร.ต.ต.แชน วรงคไพสิฐ หน.ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.จ.นราธิวาส และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร จำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พบรถแบ็กโฮยี่ห้อโคมัสสุจอดอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ข้างบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งอยู่ในสภาพห้องโดยสารและห้องเครื่องถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายจนใช้การไม่ได้ โดยเฉพาะที่บริเวณเบาะคนขับเจ้าหน้าที่พบเศษผ้าที่ชุบน้ำมันเชื้อเพลิงถูกเพลิงไหม้วางอยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนนายมะ มามุ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44 ม.6 ต.สุวารี อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นเจ้าของรถ และเป็นผู้จัดการบริษัท นราพารา จำกัด ทราบว่าหลังจากตนได้รับซื้อไม้ยางพาราจากชาวบ้านละแวกจุดเกิดเหตุก็ได้นำคนงาน และรถแบ็กโฮมาทำการแผ้วถางต้นยางพาราได้ 10 วันแล้ว และหลังจากเลิกงานก็ได้นำรถแบ็กโฮมาจอดที่จุดเกิดเหตุ จนกระทั่งในช่วงเวลา 04.30 น.ของวันนี้ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ารถแบ็กโฮของตนถูกคนร้ายลอบวางเพลิงได้รับความเสียหายทั้งคัน จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่มาทำการตรวจสอบดังกล่าว
โดยปกติตนไม่เคยมีศัตรูคู่แข่งในธุรกิจดังกล่าว และรับซื้อไม้ยางพารามานานแล้ว ส่วนสาเหตุน่าเชื่อว่าเป็นฝีมือการกระทำของผู้ไม่หวังดีที่แฝงตัวเคลื่อนไหวในพื้นที่ที่ไม่ต้องการให้คนต่างถิ่นเข้ามาในหมู่บ้านเพื่อง่ายต่อการเคลื่อนไหวในการก่อเหตุร้าย แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป โดยในเบื้องต้นตั้งไว้ 2 ประเด็น คือ ความขัดแย้งทางธุรกิจ แต่ไม่ตัดทิ้งประเด็นความมั่นคง เนื่องจากหมู่บ้านดังกล่าวเป็นที่เคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ