xs
xsm
sm
md
lg

ฝนตกหนักที่พังงาทำสะพานทรุด-แตกร้าว ชาวบ้านหวั่นเกิดอันตราย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พังงา - จังหวัดพังงาฝนตกหนักตลอดคืน กระแสน้ำซัดสะพานบางเหมียงทรุด และแตกร้าว ชาวบ้าน 60 ครัวเรือน และนักท่องเที่ยวหวั่นเกิดอันตราย ร้องหน่วยงานเกี่ยวข้องช่วยเหลือด่วน
สภาพสะพานที่จังหวัดพังงาแตกร้าว
เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (26 ก.ย.) ที่บ้านบางเหมียง หมู่ 8 ต.นบปริง อ.เมือง จ.พังงา ได้เกิดเหตุสะพานบางเหมียงทรุดตัวลง ราวสะพานแตกร้าวทั้งแถบ ชาวบ้านหวาดผวากลัวสะพานทรุดพังลงในลำคลอง โดยมี นายเสริมพงษ์ สฤษดิสุข รองประธานสภา อบจ.พังงา นายรัตนะ จันทร์คำ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 8 และชาวบ้านจำนวนกว่า 10 คน ได้เข้าตรวจสอบก่อนแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทราบ เพื่อดำเนินการซ่อมแซมต่อไป

สำหรับสะพานดังกล่าว เป็นสะพานคอนกรีตข้ามลำคลองหรา เชื่อมต่อกันระหว่างบ้านโรงกลวงกับบ้านบางเหมียง มีความยาว 60 เมตร กว้างประมาณ 5 เมตร และมีท่อประปาหมู่บ้านวางพาดตลอดบนแนวสะพาน โดยช่วงระยะ 12 เมตรแรกจากหัวสะพานด้านโรงกลวง พบว่า มีรอยแตกร้าวที่ราวกั้นสะพานทั้ง 2 ข้าง มีเศษปูนซีเมนต์ตกหล่นอยู่ที่พื้นจำนวนมาก ส่วนพื้นสะพานมีร่องรอยการทรุดตัวลง ซึ่ง มีลักษณะที่อาจเกิดอันตรายกับผู้ที่สัญจรไปมาได้

นายเสริมพงษ์ สฤษดิสุข รองประธานสภา อบจ.พังงา เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์มีฝนตกลงมาอย่างหนักติดต่อกันตลอดทั้งคืน ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำในลำคลองที่ไหลมาจากเทือกเขาหราสูงมีระดับเพิ่มสูงขึ้น และกระแสน้ำเชี่ยวกรากรุนแรงเข้าปะทะกับเสาตอม่อสะพานจนเกิดการทรุดตัวลง ทำให้โครงสร้างสะพานได้รับผลกระทบเกิดรอยแตกร้าวขึ้น ซึ่งภายหลังจากชาวบ้านแจ้งให้ทราบ จึงเดินทางเข้าตรวจสอบพร้อมประสานฝ่ายช่างของ อบจ.พังงาเข้ามาดู

ในส่วนการแก้ไขปัญหา แบ่งเป็น 2 ระยะ เบื้องต้นจะทำสะพานเหล็กสำหรับใช้งานชั่วคราว พาดคร่อมสะพานเดิมที่ทรุดตัว เพื่อให้ประชาชนสามารถสัญจรไป-มาได้อย่างปลอดภัย ขณะเดียวกัน ทำการเบี่ยงทางน้ำเพื่อลดความรุนแรงของกระแสน้ำที่ไหลเข้าปะทะกับตอม่อสะพาน สำหรับการแก้ปัญหาระยะยาว โดยการสร้างสะพานขึ้นมาใหม่ ซึ่งจะสามารถดำเนินการได้คงต้องผ่านฤดูฝนไปแล้ว สำหรับเฉพาะหน้านี้จะได้ประสานกับผู้ใหญ่บ้าน นำป้ายตักเตือนอันตรายมาติดตั้งบริเวณสะพานดังกล่าว และขอให้ชาวบ้านที่มีรถยนต์ นำรถยนต์ไปจอดไว้ที่ภายนอกหมู่บ้านก่อน

นายรัตนะ จันทร์คำ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 กล่าวว่า สะพานบางเหมียงประชาชนได้ใช้สัญจรร่วมกัน ซึ่งนอกจากชาวบ้านในพื้นที่กว่า 60 ครัวเรือนที่ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรสวนยางพารา สวนปาล์มน้ำมัน นำผลิตผลส่งขาย นักเรียน นักศึกษาไปเรียนหนังสือ ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติเข้ามานั่งช้างท่องป่ากันหลายร้อยคนต่อวัน






กำลังโหลดความคิดเห็น