สุราษฎร์ธานี - ผบช.ภาค 8 แถลงรวบเมียโจรชิงทรัพย์ร้านทองใจกลางเมืองภูเก็ต พร้อมของกลางทองคำรูปพรรณ 78 บาท ปฏิเสธไม่รู้เห็นการปล้นครั้งนี้ เผยเมื่อเดือนที่แล้วสองโจรผัวเมียเคยก่อเหตุจี้ชิงทองร้านยงชวนมาแล้ว แต่ไม่สำเร็จ จึงชวนเพื่อนชาวพม่าลงมือรอบสอง
เมื่อเวลา 14.10 น. วันนี้ (19 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต พร้อมชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 นำนางมูซา อายุ 27 ปี สัญชาติพม่า ภรรยานายโกศล หรือวาน ชาวพม่า คนร้ายก่อเหตุร่วมกับนายเมฆ ชาวพม่า ใช้อาวุธปืนอัดลมบุกจี้ชิงทรัพย์ร้านทองยงชวน หมู่บ้านการเคหะ ตำบลรัษฎา อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต และยิงใส่เจ้าของร้านจำนวน 3 นัด คนร้ายได้ทองคำรูปพรรณไปประมาณ 150 บาท มูลค่าประมาณ 4 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถยึดคืนของกลางได้จากนางมูซา จำนวน 78 บาท ลงจากเครื่องบินมาทำการสอบสวนที่ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 8 หลังจากจับกุมตัวได้เมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะเตรียมขึ้นรถหลบหนีที่สถานีขนส่งหมอชิต
ต่อมา พล.ต.ท.สันติ เพ็ญสูตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พล.ต.ต.วีระศักดิ์ มีนะวาณิชย์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 8 พ.ต.อ.สมยศ แก้วบังเกิด ผกก.สส.1 พ.ต.อ.สุริศักดิ์ วิชัยดิษฐ์ ผกก.สส.2 ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมนางมูซา พร้อมของกลาง ทองคำรูปพรรณน้ำหนักประมาณ 78 บาท ที่บรรจุอยู่ในขวดยาสระผมยี่ห้อหนึ่ง โดยระบุว่า เจ้าหน้าที่จับกุมได้ที่สถานีขนส่งหมอชิต ขณะที่กำลังจะขึ้นรถโดยสารไป อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อกลับประเทศพม่า
ในเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับการชิงทอง และไม่ทราบว่าขวดยาสระผมมีทองคำบรรจุอยู่ ในขณะที่ทางตำรวจไม่ปักใจเชื่อ ในเบื้องต้น ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาชิงทรัพย์ และรับของโจรไว้ก่อน ส่วนนายโกศล สามี ทางตำรวจขออนุมัติศาลจังหวัดภูเก็ตที่ 490/2555
พล.ต.ท.สันติ เพ็ญสูตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 กล่าวว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุ นายโกศล พร้อมนางมูซาได้มาก่อเหตุจี้ทองที่ร้านดังกล่าวมาครั้งหนึ่งแล้วเมื่อประมาณเดือนที่ผ่านมา แต่ไม่ได้ทองคำไป และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่เข้าก่อเหตุ