ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - อาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.อ.หาดใหญ่ คิดค้นชุดเครือข่าย Wi-Fi เคลื่อนที่แก้ปัญหาระบบสื่อสารในสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ ให้ผู้ประสบภัยสามารถติดต่อกับโลกภายนอกได้ รอทางจังหวัดสงขลาอนุมัติงบ 2 แสนบาท เพื่อจัดทำจริง
วันนี้ (13 ก.ย.) ที่ห้องประชุมมงคลสุข คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ รศ.ดร.สินชัย กมลภิวงศ์ อาจารย์ภาควิชาคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ แถลงข่าว “โครงการพัฒนาชุดเครือข่ายสื่อสาร Wi-Fi เคลื่อนที่สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมใน อ.หาดใหญ่ และ อ.เมืองสงขลา” เพื่อแก้ปัญหาการสื่อสารในสถานการณ์น้ำท่วมให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัยสามารถใช้สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตติดต่อกับบุคคลภายนอกได้ จึงเสนอแนวคิดในการจัดทำชุดสื่อสาร Wi-Fi ที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย สามารถใช้ได้ทันทีโดยไม่ต้องใช้ผู้ชำนาญการ และสามารถทำงานได้แม้ไม่มีระบบไฟฟ้า
รศ.ดร.สินชัย กมลภิวงศ์ อาจารย์ภาควิชาคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.อ.หาดใหญ่ กล่าวว่า จากเหตุน้ำท่วมใหญ่ 2 ครั้งในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ เมื่อปี 2543 และปี 2553 ที่ผ่านมา ทำให้ระบบสาธารณูปโภค รวมถึงระบบสื่อสารหลักทุกระบบในพื้นที่น้ำท่วม และใกล้เคียงไม่สามารถให้บริการได้ ส่งผลให้ความช่วยเหลือ หรือการประสานงานติดขัด และเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวจึงได้จัดทำชุดสื่อสาร Wi-Fi ที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย ซึ่งมีข้อจำกัดเพียงข้อเดียวคือ ต้องเป็น Line of sight หรือเส้นทางที่ปราศจากสิ่งกีดขวาง เพื่อให้คลื่นวิทยุเดินทางจากต้นทางไปยังปลายทางที่ผู้ใช้ต้องการ
โดยข้อดีของการใช้ Wi-Fi คือ สามารถใช้ได้กับสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์พกพาได้ ทำให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัยสามารถใช้อุปกรณ์ดังกล่าวในการติดต่อสื่อสารเพื่อรายงานสถานการณ์ และขอความช่วยเหลือจากบุคคลได้ โดยเฉพาะการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ไลน์ สไกป์ เป็นต้น
รศ.ดร.สินชัย กล่าวต่อว่า โมเดลดังกล่าวประกอบด้วย 3 ชุดหลัก คือ
1.Relay gateway เป็นชุดสื่อสารหลัก ติดตั้งในที่สูง เช่น บนเขาคอหงส์ เพื่อรับและกระจายสัญญาณจากชุดสื่อสารที่ติดตั้งในตัวเมืองหาดใหญ่ แล้วเชื่อมโยงมายังสถานีสั่งการ
2.ชุดสื่อสาร Wi-Fi แบบเคลื่อนย้ายได้ เป็นชุดสำหรับติดตั้งในพื้นที่ประสบภัย ต้องติดตั้งบนอาคารสูงเพื่อให้เชื่อมสัญญาณโดยไม่มีสิ่งกีดขวาง (Line of sight ) มายัง Relay Station ได้
3.ชุดสื่อสารสำหรับสถานีประสานงานกลาง เป็นชุดสำหรับเคลื่อนย้ายเพื่อติดตั้งในพื้นที่ประสบภัย ต้องติดตั้งในอาคารสูงเพื่อให้เชื่อมสัญญาณโดยไม่มีสิ่งกีดขวาง (Line of sight ) มายัง Relay Station เช่นกัน
โดย Relay gateway ซึ่งเป็นระบบหลักจะติดตั้งในที่สูง เพื่อรับ และกระจายสัญญาณกับระบบเคลื่อนย้ายที่ติดตั้งในเขตน้ำท่วม รัศมีทำการอยู่ระยะประมาณ 10 กิโลเมตร ชุดสื่อสารเคลื่อนย้ายได้จะรับส่งข้อมูลกับ Relay gateway ซึ่งจะส่งต่อไปยังศูนย์ประสานงานกลาง และเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต โดยระบบทั้งหมดจะใช้พลังงานจากแผงโซลาร์ เซลล์ ซึ่งเชื่อมต่อกับแบตเตอรี่กักเก็บพลังงาน
ทั้งนี้ ได้มีการเสนอเรื่องดังกล่าวไปยังจังหวัดสงขลาแล้ว โดยจะใช้งบประมาณในการจัดทำ ประมาณ 200,000 บาท ซึ่งจะประกอบไปด้วย ชุดสื่อสาร Wi-Fi แบบเคลื่อนย้ายได้ จำนวน 4 ชุด Relay gateway ซึ่งเป็นระบบหลัก ติดตั้งบนเขาคอหงส์ 1 ชุด และชุดสื่อสารสำหรับสถานีประสานงานกลางอีก 1 ชุด โดยหลังจากทางจังหวัดสงขลาอนุมัติงบประมาณ จะสามารถจัดทำชุดสื่อสารดังกล่าวแล้วเสร็จในเวลา 1 เดือน และพร้อมใช้งานทันที
วันนี้ (13 ก.ย.) ที่ห้องประชุมมงคลสุข คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ รศ.ดร.สินชัย กมลภิวงศ์ อาจารย์ภาควิชาคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ แถลงข่าว “โครงการพัฒนาชุดเครือข่ายสื่อสาร Wi-Fi เคลื่อนที่สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมใน อ.หาดใหญ่ และ อ.เมืองสงขลา” เพื่อแก้ปัญหาการสื่อสารในสถานการณ์น้ำท่วมให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัยสามารถใช้สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตติดต่อกับบุคคลภายนอกได้ จึงเสนอแนวคิดในการจัดทำชุดสื่อสาร Wi-Fi ที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย สามารถใช้ได้ทันทีโดยไม่ต้องใช้ผู้ชำนาญการ และสามารถทำงานได้แม้ไม่มีระบบไฟฟ้า
รศ.ดร.สินชัย กมลภิวงศ์ อาจารย์ภาควิชาคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.อ.หาดใหญ่ กล่าวว่า จากเหตุน้ำท่วมใหญ่ 2 ครั้งในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ เมื่อปี 2543 และปี 2553 ที่ผ่านมา ทำให้ระบบสาธารณูปโภค รวมถึงระบบสื่อสารหลักทุกระบบในพื้นที่น้ำท่วม และใกล้เคียงไม่สามารถให้บริการได้ ส่งผลให้ความช่วยเหลือ หรือการประสานงานติดขัด และเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวจึงได้จัดทำชุดสื่อสาร Wi-Fi ที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย ซึ่งมีข้อจำกัดเพียงข้อเดียวคือ ต้องเป็น Line of sight หรือเส้นทางที่ปราศจากสิ่งกีดขวาง เพื่อให้คลื่นวิทยุเดินทางจากต้นทางไปยังปลายทางที่ผู้ใช้ต้องการ
โดยข้อดีของการใช้ Wi-Fi คือ สามารถใช้ได้กับสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์พกพาได้ ทำให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัยสามารถใช้อุปกรณ์ดังกล่าวในการติดต่อสื่อสารเพื่อรายงานสถานการณ์ และขอความช่วยเหลือจากบุคคลได้ โดยเฉพาะการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ไลน์ สไกป์ เป็นต้น
รศ.ดร.สินชัย กล่าวต่อว่า โมเดลดังกล่าวประกอบด้วย 3 ชุดหลัก คือ
1.Relay gateway เป็นชุดสื่อสารหลัก ติดตั้งในที่สูง เช่น บนเขาคอหงส์ เพื่อรับและกระจายสัญญาณจากชุดสื่อสารที่ติดตั้งในตัวเมืองหาดใหญ่ แล้วเชื่อมโยงมายังสถานีสั่งการ
2.ชุดสื่อสาร Wi-Fi แบบเคลื่อนย้ายได้ เป็นชุดสำหรับติดตั้งในพื้นที่ประสบภัย ต้องติดตั้งบนอาคารสูงเพื่อให้เชื่อมสัญญาณโดยไม่มีสิ่งกีดขวาง (Line of sight ) มายัง Relay Station ได้
3.ชุดสื่อสารสำหรับสถานีประสานงานกลาง เป็นชุดสำหรับเคลื่อนย้ายเพื่อติดตั้งในพื้นที่ประสบภัย ต้องติดตั้งในอาคารสูงเพื่อให้เชื่อมสัญญาณโดยไม่มีสิ่งกีดขวาง (Line of sight ) มายัง Relay Station เช่นกัน
โดย Relay gateway ซึ่งเป็นระบบหลักจะติดตั้งในที่สูง เพื่อรับ และกระจายสัญญาณกับระบบเคลื่อนย้ายที่ติดตั้งในเขตน้ำท่วม รัศมีทำการอยู่ระยะประมาณ 10 กิโลเมตร ชุดสื่อสารเคลื่อนย้ายได้จะรับส่งข้อมูลกับ Relay gateway ซึ่งจะส่งต่อไปยังศูนย์ประสานงานกลาง และเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต โดยระบบทั้งหมดจะใช้พลังงานจากแผงโซลาร์ เซลล์ ซึ่งเชื่อมต่อกับแบตเตอรี่กักเก็บพลังงาน
ทั้งนี้ ได้มีการเสนอเรื่องดังกล่าวไปยังจังหวัดสงขลาแล้ว โดยจะใช้งบประมาณในการจัดทำ ประมาณ 200,000 บาท ซึ่งจะประกอบไปด้วย ชุดสื่อสาร Wi-Fi แบบเคลื่อนย้ายได้ จำนวน 4 ชุด Relay gateway ซึ่งเป็นระบบหลัก ติดตั้งบนเขาคอหงส์ 1 ชุด และชุดสื่อสารสำหรับสถานีประสานงานกลางอีก 1 ชุด โดยหลังจากทางจังหวัดสงขลาอนุมัติงบประมาณ จะสามารถจัดทำชุดสื่อสารดังกล่าวแล้วเสร็จในเวลา 1 เดือน และพร้อมใช้งานทันที
