นราธิวาส - ผู้การตำรวจคาดคนร้ายที่ซุ่มยิงขบวนรถไฟในพื้นที่เจาะไอร้องเป็นการตอบโต้หลังแกนนำถูกยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่เพิ่มกำลังดูแลความปลอดภัยตามเส้นทางรถไฟเข้มงวดขึ้น
วันนี้ (29 ส.ค.) พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส กล่าวถึงเหตุคนร้ายซุ่มยิงใส่ขบวนรถไฟ 447 สุราษฎร์ธานี-สุไหงโก-ลก ในพื้นที่ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อวานนี้ (28 ส.ค.) ว่า เป็นการก่อเหตุเพื่อตอบโต้เจ้าหน้าที่ หลังจากที่นายอัมรี ดือรามะ 1 ในแกนนำก่อความไม่สงบถูกยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งการก่อเหตุครั้งนี้น่าจะเป็นกลุ่มก่อความไม่สงบที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ของ อ.ระแงะ และ อ.เจาะไอร้อง โดยเจ้าหน้าที่จะขยายผลจากปลอกกระสุนปืนทั้งเอ็ม 16 และอาก้าที่ยึดได้จากที่เกิดเหตุ
ส่วนการวางมาตรการในการดูแลความปลอดภัยในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้บังคับการตำรวจภูธรนราธิวาสกล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มในการดูแลความปลอดภัยตามสถานีรถไฟที่อยู่ในย่านชุมชน ทั้งสถานีรถไฟตันหยงมัส สุไหงปาดี เจาะไอร้อง และสุไหงโก-ลก โดยย้ำให้เจ้าหน้าที่เน้นลาดตระเวน และเฝ้าระวังประจำจุด ส่วนการดูแลเส้นทางรถไฟซึ่งเป็นพื้นที่ป่ารกทึบนั้นเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทหาร และเจ้าหน้าที่ทหารพรานเป็นผู้รับผิดชอบ โดยในแต่ละจุดมีการเพิ่มความเข้มในการดูแลความปลอดภัยเช่นกัน
วันนี้ (29 ส.ค.) พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส กล่าวถึงเหตุคนร้ายซุ่มยิงใส่ขบวนรถไฟ 447 สุราษฎร์ธานี-สุไหงโก-ลก ในพื้นที่ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อวานนี้ (28 ส.ค.) ว่า เป็นการก่อเหตุเพื่อตอบโต้เจ้าหน้าที่ หลังจากที่นายอัมรี ดือรามะ 1 ในแกนนำก่อความไม่สงบถูกยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งการก่อเหตุครั้งนี้น่าจะเป็นกลุ่มก่อความไม่สงบที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ของ อ.ระแงะ และ อ.เจาะไอร้อง โดยเจ้าหน้าที่จะขยายผลจากปลอกกระสุนปืนทั้งเอ็ม 16 และอาก้าที่ยึดได้จากที่เกิดเหตุ
ส่วนการวางมาตรการในการดูแลความปลอดภัยในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้บังคับการตำรวจภูธรนราธิวาสกล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มในการดูแลความปลอดภัยตามสถานีรถไฟที่อยู่ในย่านชุมชน ทั้งสถานีรถไฟตันหยงมัส สุไหงปาดี เจาะไอร้อง และสุไหงโก-ลก โดยย้ำให้เจ้าหน้าที่เน้นลาดตระเวน และเฝ้าระวังประจำจุด ส่วนการดูแลเส้นทางรถไฟซึ่งเป็นพื้นที่ป่ารกทึบนั้นเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทหาร และเจ้าหน้าที่ทหารพรานเป็นผู้รับผิดชอบ โดยในแต่ละจุดมีการเพิ่มความเข้มในการดูแลความปลอดภัยเช่นกัน
