ระนอง - เทศบาลเมืองระนอง จัดโครงการ “เพื่อนช่วยเพื่อนต้านยาเสพติดและโรคเอดส์ประจำปี 2555” เพื่อให้เด็กและเยาวชนมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับยาเสพติด และโรคเอดส์ พร้อมทั้งปลูกฝังพฤติกรรมการแสดงออกที่เหมาะสมโดยไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และสามารถนำความรู้ที่ได้รับจากโครงการไปช่วยเหลือเพื่อนๆ ที่เสี่ยงต่อปัญหาดังกล่าว เพื่อลดปัญหาเยาวชนติดยาเสพติด และเป็นโรคเอดส์ลดลง
ที่โรงเรียนเทศบาลบ้านเขานิเวศน์ จังหวัดระนอง ได้มีพิธีเปิดโครงการเพื่อนช่วยเพื่อนต้านยาเสพติดและโรคเอดส์ โดยมี นายสมบุญ ติกวัฒนานนท์ นายกเทศมนตรีเมืองระนอง เป็นประธาน พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ และเยาวชน เข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก โดยมีวิทยากรรับเชิญจากสำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมืองระนองมาบรรยายให้ความรู้
จากสถานการณ์ในภาพรวมพบว่า การแพร่ระบาดยาเสพติดนั้น เด็กและเยาวชนส่วนใหญ่อยู่ในฐานะของผู้เสพ หรือผู้ใช้ ไม่ว่าเด็กเหล่านั้นจะเป็นเด็กที่อยู่ในสถานศึกษา หรือเด็กที่ไม่ได้อยู่ในสถานศึกษาก็ตาม กลุ่มคนที่ทำการค้าและลักลอบขนส่ง ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ค้าอาชีพที่มีการกระจายตัวอยู่ในชุมชน หรือสถานที่ต่างๆ ที่ใกล้กับที่พักอาศัย หรือแม้แต่ในสถานศึกษาของกลุ่มเด็กและเยาวชนเหล่านั้น ซึ่งสามารถเข้าถึงกลุ่มเด็กและเยาวชนได้ง่าย และเยาวชนก็สามารถติดต่อสัมพันธ์กับกลุ่มผู้ค้าเหล่านี้ได้ง่ายเช่นกัน ทำให้เด็กและเยาวชนสามารถหาซื้อยาเสพติดเพื่อการเสพ หรือใช้ได้สะดวกยิ่งขึ้น จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่สำคัญที่ต้องการแก้ไขโดยด่วน
นายสมบุญ ติกวัฒนานนท์ นายกเทศมนตรีเมืองระนอง กล่าวว่า ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาที่ทำให้ประเทศชาติของเราต้องสูญเสียพลเมืองเด็ก และเยาวชนไปจำนวนมาก ยาเสพติดทำลายทั้งสุขภาพ อนาคต ตลอดจนการสูญเสียชีวิต จากข้อเท็จจริงปัญหายาเสพติดที่เกิดขึ้นนั้นจะประกอบไปด้วย 3 องค์ประกอบ คือ คน ตัวยา และสิ่งแวดล้อม ประกอบกับเด็กและเยาวชนก็เป็นวัยที่มีการอยากรู้ อยากลอง การหาเงินเพื่อไปเที่ยวเตร่ตามสถานเริงรมย์ รวมทั้งใช้จ่ายในสิ่งฟุ่มเฟือยเพื่อสนองความต้องการของตนเอง จึงเป็นโอกาสให้เกิดการแพร่ระบาดในกลุ่มเด็กและเยาวชนได้อย่างรวดเร็ว การปกป้องเด็กและเยาวชนให้ห่างไกลจากยาเสพติดจึงเป็นหน้าที่ของทุกคนในชาติที่จะต้องร่วมมือร่วมใจป้องกันเด็กและเยาวชนไม่ให้ตกเป็นทาสของวงจรอุบาทว์ โครงการ “เพื่อนช่วยเพื่อนต้านยาเสพติดและโรคเอดส์” เพื่อให้เด็กและเยาวชนมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับยาเสพติด และโรคเอดส์มากยิ่งขึ้น
