ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ภูเก็ตติด 1 ใน 34 จังหวัด มีปัญหาการแพร่ระบาดของยาไอซ์ เผยแพร่เข้าสู่กลุ่มวัยรุ่นมากขึ้น ด้วยความเชื่อที่ว่า เสพเสพแล้วทำให้หุ่นดี และสวย เตรียมหามาตรการป้องกันเข้าสู่กลุ่มเป้าหมาย
นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาไอซ์ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ว่า ในปัจจุบัน สถานการณ์การแพร่ระบาดของยาไอซ์ มีแนวโน้มเพิ่มสูงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากผู้ค้ายาเสพติดมุ่งขยายฐานการเสพไปยังเยาวชนในสถานศึกษา และชุมชนทั่วไป ด้วยกลยุทธ์ด้านราคา เพื่อให้เยาวชนได้เข้าถึงได้มากขึ้น และกลยุทธ์ด้านการสื่อสารที่สร้างความเชื่อและค่านิยมที่ผิดเกี่ยวกับยาไอซ์
จากสถิติการจับกุมคดียาไอซ์ของสำนักงาน ป.ป.ส.ในภาพรวมของทั้งประเทศ ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา มีการจับกุมผู้ต้องหาคดีไอซ์เพิ่มขึ้นเกือบ 10 เท่าตัว ประกอบกับสถิติการจับกุมคดียาไอซ์ของจังหวัดภูเก็ตในช่วงปีงบประมาณ 2555 มีการจับกุมผู้ต้องหาคดียาไอซ์ จำนวน 1,082 คดี ผู้ต้องหา 1,205 คน เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมา มีจำนวนคดีเพิ่มขึ้นร้อยละ 54 และส่วนใหญ่ผู้ต้องหาเพิ่มขึ้นร้อยละ 46
จากปัญหาดังกล่าวข้างต้น ประกอบกับสำนักงานอัยการ ร่วมกับศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ (สอร.ศพส.) ได้กำหนดมาตรการควบคุม และแก้ไขปัญหายาไอซ์ในพื้นที่ 34 จังหวัด 157 อำเภอที่มีปัญหาในระดับปานกลาง และรุนแรง เพื่อยับยั้งและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาด โดยจังหวัดภูเก็ต เป็น 1 ใน 34 จังหวัด และเป็น 3 ใน 57 อำเภอ ที่มีปัญหาการแพร่ระบาดของยาไอซ์
นายจำเริญ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ดี ในโอกาสนี้ตนได้เน้นปฏิบัติการในกลุ่มเยาวชน เนื่องจากยาไอซ์ วันนี้ได้แพร่กระจายไปในกลุ่มเยาวชนมากขึ้น ด้วยมีค่านิยมที่ผิดๆ เสพเพราะคิดว่าเสพแล้วจะทำให้หุ่นดี สวย หล่อ โดยให้โฟกัสไปที่กลุ่มเด็ก เยาวชน ที่เรียนต่ำกว่าเกรด 2 ขาดเรียนเป็นประจำ กลุ่มเด็กเยาวชนที่เป็นกลุ่มแก๊ง ไม่เรียนหนังสือ ไม่มีอาชีพ และรวมถึงให้ตรวจเข้มหอพัก อพาร์ตเมนต์ แมนชัน ด้วย ซึ่งที่ผ่านมา ยังควบคุมดูแลไม่ดีพอ ทั้งนี้ เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติงานในการควบคุม และแก้ไขปัญหาในระดับพื้นที่ต่อไป