ปัตตานี - นายกเล็กเมืองปัตตานีระดมหัวหน้าหน่วยกำลังทั้งตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครอง ร่วมหารือกับผู้ประกอบการร้านค้าในพื้นที่ เผยที่ประชุมมีมติไม่เอามาตรการ “เซฟตี้โชน” แต่ขอให้เข้มจุดตรวจเข้าเมือง ย้ำที่ผ่านมา จนท.ประจำหย่อนยานมาตรการคุมเข้มรถบุคคลเป้าหมาย
ตามที่รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้เพิ่มความเข้มในการดูแลพื้นที่เศรษฐกิจของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และพื้นที่บางส่วนของจังหวัดสงขลา โดยให้จัดเป็นเขตรักษาความปลอดภัย หรือ เซฟตี้โซนนั้น ในวันนี้ (16 ส.ค.) นายพิทักษ์ ก่อเกียรติพิทักษ์ นายกเทศมนตรีเมืองปัตตานี ได้เชิญหัวหน้าหน่วยกำลังทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครองในเขตพื้นที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมหารือร่วมกับผู้ประกอบการร้านค้าและประชาชนในเขตเทศบาลเกี่ยวกับการหามาตรการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่เขตเศรษฐกิจ ได้แก่ ถนนเจริญประดิษฐ์ ถนนมะกรูด ถนนพิพิธ ถนนอุดมวิถี ถนนปรีดา และถนนฤดี ที่มีประชาชนมาใช้บริการเป็นจำนวนมากและหลายครั้งตกเป็นเป้าของการก่อเหตุ
นายพิทักษ์กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีมติเป็นเอกฉันท์ไม่ให้จัดเขตพื้นที่เศรษฐกิจเป็นเขตเซฟตี้โซน แต่ให้ จนท. ร่วมกันเพิ่มการเฝ้าระวังป้องกันการเข้าออกเมืองให้ดีที่สุด เช่น การตรวจค้นรถบุคคลเป้าหมายที่เข้าออกตัวเมือง เพราะที่ผ่านมาไม่ได้มีการดูแลที่ดีพอ ซึ่งหากมีการจัดตั้งพื้นที่เซฟตี้โซนขึ้นมาจะยิ่งทำให้การเข้าออกยากลำบากและยังส่งผลให้เกิดปัญหาตามมามากมาย อย่างจังหวัดใกล้เคียงที่ส่งผลทำให้ผู้ประกอบการร้านค้าปิดกิจการลงจำนวนมาก ทั้งนี้ก็เพื่อจะให้ประชาชนได้ประกอบธุรกิจการค้าและดำเนินชีวิตประจำวันได้ตามปกติอีกด้วย