ระนอง - ประกันสังคมจังหวัดระนอง เชิญชวนชาวจังหวัดระนอง สมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40
น.ส.บุศรา ศุภศรี ประกันสังคมจังหวัดระนอง กล่าวเชิญชวนให้ประชาชนในจังหวัดระนอง ที่ประกอบอาชีพอิสระ หรือเป็นแรงงานนอกระบบ รวมถึงผู้ที่ไม่ได้เป็นลูกจ้างบริษัท และองค์กรเอกชนที่มีสิทธิที่จะสมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ให้เข้าร่วมสมัครเป็นผู้ประกันตน ตามมาตรา 40 เพื่อให้ได้รับความคุ้มครอง และได้สิทธิประโยชน์ขั้นพื้นฐาน เช่น เงินทดแทนการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วย หรือทุพพลภาพ เงินค่าทำศพกรณีเสียชีวิต และเงินบำเหน็จชราภาพ ตามเงื่อนไขของสำนักงานประกันสังคม
สำหรับคุณสมบัติในการสมัครเป็นผู้ประกันตน จะต้องเป็นผู้ที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์ และไม่เกิน 60 ปีบริบูรณ์ และไม่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 คือ ไม่เป็นลูกจ้างในสถานประกอบการ หรือผู้ประกันตนโดยสมัครใจตามมาตรา 39 ซึ่งผู้สนใจสามารถสมัครโดยลงรายมือชื่อในใบสมัครด้วยตนเอง พร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และจ่ายเงินสมทบงวดแรกได้ที่สำนักงานประกันสังคมทั่วประเทศ
โดยสามารถเลือกช่องทางจ่ายเงินสมทบได้ 2 ทางเลือก คือ ชุดสิทธิประโยชน์ที่ 1 คือ จ่ายเงินสมทบเดือนละ 100 บาท โดยในช่วง นี้รัฐบาลสนับสนุนให้ 30 บาท จะได้สิทธิประโยชน์ คือ เงินทดแทนการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วย หรือทุพพลภาพ เงินค่าทำศพกรณีการเสียชีวิต ส่วนชุดสิทธิประโยชน์ 2 คือ จ่ายเงินสมทบเดือนละ150 บาท รัฐบาลสนับสนุนให้ 50 บาท ในกรณีนี้ จะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่ม คือ เงินบำเหน็จชราภาพ เมืออายุ 60 ปี และประสงค์จะออกจากการเป็นผู้ประกันตน ทั้งนี้ ผู้ประกันตนสามารถนำเงินสมทบเข้ากองทุนได้หลายช่องทาง เช่น ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. รวมทั้งเคาน์เตอร์เซอร์วิสทุกแห่ง
สำหรับจังหวัดระนอง ขณะนี้ มีผู้ประกอบอาชีพอิสระ และแรงงานนอกระบบสมัครเข้าเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 แล้ว จำนวน 5480 คน ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำสวน และอาชีพอิสระ โดยขณะนี้ สำนักงานประกันสังคมได้เปิดกว้างสำหรับผู้ที่ประกอบธุรกิจทั่วไปเข้าสมัครเพื่อรับความคุ้มครองอีกด้วย
น.ส.บุศรา ศุภศรี ประกันสังคมจังหวัดระนอง กล่าวเชิญชวนให้ประชาชนในจังหวัดระนอง ที่ประกอบอาชีพอิสระ หรือเป็นแรงงานนอกระบบ รวมถึงผู้ที่ไม่ได้เป็นลูกจ้างบริษัท และองค์กรเอกชนที่มีสิทธิที่จะสมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ให้เข้าร่วมสมัครเป็นผู้ประกันตน ตามมาตรา 40 เพื่อให้ได้รับความคุ้มครอง และได้สิทธิประโยชน์ขั้นพื้นฐาน เช่น เงินทดแทนการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วย หรือทุพพลภาพ เงินค่าทำศพกรณีเสียชีวิต และเงินบำเหน็จชราภาพ ตามเงื่อนไขของสำนักงานประกันสังคม
สำหรับคุณสมบัติในการสมัครเป็นผู้ประกันตน จะต้องเป็นผู้ที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์ และไม่เกิน 60 ปีบริบูรณ์ และไม่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 คือ ไม่เป็นลูกจ้างในสถานประกอบการ หรือผู้ประกันตนโดยสมัครใจตามมาตรา 39 ซึ่งผู้สนใจสามารถสมัครโดยลงรายมือชื่อในใบสมัครด้วยตนเอง พร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และจ่ายเงินสมทบงวดแรกได้ที่สำนักงานประกันสังคมทั่วประเทศ
โดยสามารถเลือกช่องทางจ่ายเงินสมทบได้ 2 ทางเลือก คือ ชุดสิทธิประโยชน์ที่ 1 คือ จ่ายเงินสมทบเดือนละ 100 บาท โดยในช่วง นี้รัฐบาลสนับสนุนให้ 30 บาท จะได้สิทธิประโยชน์ คือ เงินทดแทนการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วย หรือทุพพลภาพ เงินค่าทำศพกรณีการเสียชีวิต ส่วนชุดสิทธิประโยชน์ 2 คือ จ่ายเงินสมทบเดือนละ150 บาท รัฐบาลสนับสนุนให้ 50 บาท ในกรณีนี้ จะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่ม คือ เงินบำเหน็จชราภาพ เมืออายุ 60 ปี และประสงค์จะออกจากการเป็นผู้ประกันตน ทั้งนี้ ผู้ประกันตนสามารถนำเงินสมทบเข้ากองทุนได้หลายช่องทาง เช่น ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. รวมทั้งเคาน์เตอร์เซอร์วิสทุกแห่ง
สำหรับจังหวัดระนอง ขณะนี้ มีผู้ประกอบอาชีพอิสระ และแรงงานนอกระบบสมัครเข้าเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 แล้ว จำนวน 5480 คน ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำสวน และอาชีพอิสระ โดยขณะนี้ สำนักงานประกันสังคมได้เปิดกว้างสำหรับผู้ที่ประกอบธุรกิจทั่วไปเข้าสมัครเพื่อรับความคุ้มครองอีกด้วย