ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - หมอกควันปกคลุมในพื้นที่ จ.สงขลาหนาแน่นขึ้น และมากที่สุดในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง จากผลพวงของไฟไหม้ป่าบนเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย และไฟไหม้ป่าในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช และพัทลุง แต่คุณภาพอากาศยังอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง และไม่กระทบต่อการบิน
สภาพอากาศทั่วทั้งพื้นที่ จ.สงขลา ยังคงถูกหมอกควันปกคลุม และเริ่มหนาแน่นอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นผลมาจากไฟไหม้ป่าบนเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ที่มีจุดไฟไหม้ หรือจุด HOTSPOT เพิ่มขึ้นเป็น 239 จุด จากเมื่อวานนี้ (11.ส.ค.) ที่พบแค่ 88 จุด นอกจากนี้ หมอกควันอีกบางส่วนเป็นผลมาจากไฟไหม้ป่าพรุควนเคร็งใน จ.นครศรีธรรมราช และป่าพรุในพื้นที่ จ.พัทลุง ทำให้มีกลุ่มควันหนาแน่น และการเผาหญ้าในพื้นที่ จ.สงขลาเอง
โดยนายวันไชย ศักดิ์อุดมชัย ผู้อำนวยการศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ระบุว่า สภาพหมอกควันที่ปกคลุมในพื้นที่ จ.สงขลา และอีกหลายจังหวัดของภาคใต้ตอนล่าง ซึ่งหนาแน่นกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากขณะนี้ อากาศนิ่งไม่มีลม และแห้งแล้ง จึงทำให้กลุ่มควันขังตัวอยู่ในพื้นที่ ซึ่งต้องรอให้ลมพัดลงสู่ทะเล หรือฝนตกลงมา และควรเลี่ยงการเผาในที่โล่งเพื่อไม่ให้ปริมาณฝุ่นละอองเพิ่มขึ้น
ทางด้านข้อมูลจากสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 16 สงขลา รายงานว่า ปริมาณหมอกควันที่ปกคลุมในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง จ.สงขลา หนาแน่นที่สุด โดยมีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 10 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เฉลี่ย 24 ชั่วโมง อยู่ที่ 100 แต่ยังต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 120 ลูกบาตรก์เมตร ขณะที่คุณภาพอากาศโดยรวมในภาคใต้ตอนล่างทั้งสงขลา ยะลา นราธิวาส และสตูล ยังอยู่ในระดับปานกลาง ซึ่งไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพ แต่อาจมีผลต่อผู้มีสุขภาพอ่อนแอ เด็ก และคนชรา ผู้เป็นโรคหอบหืด โรคหัวใจ ควรเลี่ยงทำกิจกรรมในที่โล่ง และงดรองรับน้ำฝนไว้ใช้ชั่วคราว
อย่างไรก็ตาม ปริมาณหมอกควันที่ปกคลุมในพื้นที่ จ.สงขลา ขณะนี้ ยังไม่ส่งผลกระทบต่อการบิน โดยที่ท่าอากาศยานหาดใหญ่ยังคงสามารถขึ้นลงได้ตามปกติทุกเที่ยวบิน