ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - พบลูกปลาโลมาอิรวดีเพศเมียแรกเกิดตายอีก 1 ตัว เป็นตัวที่ 10 ในปีนี้ นักวิชาการห่วงสาเหตุการตายมาจากเลือดชิด ซึ่งเป็นการผสมพันธุ์กันเองระหว่างสายเลือดเดียวกันทำให้ลูกที่ออกมาพิการอ่อนแอ และไม่มีภูมิต้านทาน เตรียมตัดผิวหนังไปตรวจดีเอ็นเอ
เมื่อเวลา 08.00 น.วันนี้ (10 ส.ค.) นายอุทัย ยอดจันทร์ ประธานชมรมอนุรักษ์โลมาอิรวดีบ้านแหลมหาดใน ต.เกาะใหญ่ อ.กระแสสินธิ์ จ.สงขลา กล่าวว่า พบลูกโลมาอิรวดีในทะเลสาบสงขลา เพศเมียแรกคลอด ความยาวประมาณ 90 เซนติเมตร น้ำหนัก 6.6 กิโลกรัม ตายเพิ่มอีก 1 ตัว และเป็นโลมาอิรวดีในทะเลสาบสงขลาตัวที่ 10 ที่ตายในรอบปีนี้ โดยพบลอยตายมาแล้ว 2-3 วัน ในบริเวณเขตที่โลมาอิรวดีอาศัยอยู่ ห่างฝั่งบ้านแหลมหาด ต.เกาะใหญ่ ประมาณ 6 กิโลเมตร โดยมีแม่โลมายังว่ายน้ำเฝ้าวนเวียนอยู่ใกล้ซากโลมา
โดยทางศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง ได้ส่งนักวิชาการไปรับซากลูกโลมาอิรวดีมาทำการตรวจสอบหาสาเหตุการตาย และไม่พบว่าตามร่างกายมีร่องรอยของการติดเครื่องมือทำการประมง หรืออดนมจากการพลัดหลงจากตัวแม่
นายสันติ นิลรัตน์ นักวิชาการประมงชำนาญการ ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง กล่าวว่า ในช่วงหลัง โลมาอิรวดีที่ตายจากเครื่องมือการทำประมงลดลง ซึ่งเป็นความสำเร็จในการร่วมกันอนุรักษ์ แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงขณะนี้ คือ สาเหตุอาจจะมาจากเลือดชิดซึ่งเป็นการผสมพันธุ์กันเองระหว่างโลมาที่มีสายเลือดเดียวกัน เนื่องจากโลมาอิรวดีในทะเลสาบสงขลาเหลือน้อย และเป็นกลุ่มเดียวกัน ทำให้ลูกที่ออกมาพิการอ่อนแอ และมีภูมิคุ้มกันน้อย โดยจะทำการตัดผิวหนังลูกโลมาส่งไปตรวจ DNA ที่มหาวิทยาลัยบูรพา จ.ชลบุรี เพื่อหาสาเหตุการตายของลูกโลมาว่ามีเลือดชิดหรือไม่ เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขอนุรักษ์ต่อไป