xs
xsm
sm
md
lg

ร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์เมืองตรังโอดเข้าพรรษานี้ยอดขายตกเหตุยางราคาต่ำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตรัง - ร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์เมืองตรังโอดยอดขายเทียนพรรษา ผ้าอาบน้ำฝน และเครื่องสังฆภัณฑ์ ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษาปีนี้ตกวูบ เหตุจากราคายางพาราตกต่ำ และเศรษฐกิจฝืดเคือง

นายสมบัติ อยู่ลาภไพศาล อายุ 49 ปี เจ้าของร้านจิบฮั้ว ร้านจำหน่ายเครื่องสังฆภัณฑ์ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 1/4 ถนนพระรามหก เขตเทศบาลนครตรัง เปิดเผยว่า บรรยากาศการจำหน่ายเทียนพรรษา ผ้าอาบน้ำฝน และเครื่องสังฆภัณฑ์ต่างๆ ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา ประจำปี 2555 ค่อนข้างจะเงียบเหงา และซบเซา โดยมีปัจจัยมาจากภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ และยางพารามีราคาตกต่ำ จึงทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดน้อยลง และผลจากการที่มีร้านจำหน่ายเครื่องสังฆภัณฑ์เปิดมากขึ้นหลายแห่ง ก็ส่งผลกระทบให้ยอดขายลดลงตามไปด้วย

ด้วยปัจจัยจากภาวะเศรษฐกิจดังกล่าว จึงทำให้ลูกค้าปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อเทียนพรรษา จากเดิมที่เคยซื้อปริมาณมาก หรือซื้อต้นขนาดใหญ่ที่มีลวดลายสวยงาม ก็เปลี่ยนมาซื้อต้นขนาดกลาง และเล็กแทน เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย เนื่องจากเทียนบางยี่ห้อมีการปรับราคาเพิ่มขึ้นกว่า 10% โดยเทียนต้นใหญ่ที่แกะลาย ราคาอยู่ที่ต้นละ 2,800 บาทขึ้นไป ไม่แกะลายราคา 2,000 บาท คู่ขนาดกลาง 300-400 บาท และขนาดเล็กคู่ละ 100 บาท ซึ่งทำให้ทางร้านไม่กล้าที่จะสั่งเทียนมาวางจำหน่ายมากๆ เพราะหากขายไม่หมด และเหลือค้างสต๊อกก็จะทำให้ขาดทุนได้

 
ด้าน นายรณชัย อนุกูลพันธ์ อายุ 57 ปี เจ้าของร้านบุญนำเครื่องพระ ร้านจำหน่ายเครื่องสังฆภัณฑ์ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 37/9 ถนนรัษฎา เขตเทศบาลนครตรัง ก็เปิดเผยว่า ยอดขายเทียนพรรษา ผ้าอาบน้ำฝน และเครื่องสังฆภัณฑ์ต่างๆ ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษาปีนี้ ลดลดกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลพวงมาจากภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ และยางพารามีราคาตกต่ำ จึงทำให้ลูกค้าต้องเปลี่ยนมาซื้อเทียนพรรษาขนาดกลาง และเล็กแทน ซึ่งทางร้านก็พยายามขายในราคาเดิม เพราะต้องการช่วยเหลือในยามที่เศรษฐกิจไม่ดี แม้จะได้กำไรเล็กน้อยก็ตาม มิเช่นนั้นลูกค้าก็จะลดน้อยลง และหันไปซื้อร้านอื่นที่แข่งกันเปิดเป็นจำนวนมาก

ขณะที่ น.ส.ภัคชิสา ศรีสุข อายุ 36 ปี ชาวเขตเทศบาลนครตรัง เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลเข้าพรรษาปีนี้ สิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ที่ใช้ในการทำบุญมีการปรับเพิ่มขึ้นกว่า 10% แต่ก็จำเป็นจะต้องซื้อ โดยเฉพาะเทียนพรรษา ซึ่งถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ชาวพุทธจะต้องซื้อถวายวัด โดยต้องเปลี่ยนมาซื้อแบบรวมกันทั้งครอบครัว เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย และเน้นการสวดมนต์ไหว้พระแทน ส่วนชุดสังฆทานนั้นจะเลือกซื้อเฉพาะอย่างแล้วนำมาจัดเอง เพราะของบางอย่างที่นำไปถวายแล้วพระไม่ได้รับประโยชน์ อย่างไรก็ตาม การที่ผู้บริโภคซื้อของในปริมาณที่น้อยลง ไม่ได้หมายความว่า เข้าวัดทำบุญน้อยลง แต่เพราะต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายในช่วงที่เศรษฐกิจย่ำแย่
กำลังโหลดความคิดเห็น