ศูนย์ข่าวภูเก็ต - กรมราชทัณฑ์เตรียมผุดเรือนจำอินเตอร์ งบ 1,000 ล้าน รองรับผู้ต้องขังได้ 3,000 คน แทนเรือนจำจังหวัดภูเก็ต เดิม ที่มีอายุกว่า 100 ปี มีสภาพชำรุดทรุดโทรม และแออัด ยันจะเป็นเรือนจำที่ทันสมัย สวยงาม เหมาะกับเมืองท่องเที่ยวของภูเก็ต
วันนี้ (2 ส.ค.) ที่โรงแรมมิชชั่นฮิลล์ ภูเก็ต ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นายประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อมคณะ ร่วมประชุมกับนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายระพินทร์ นิชานนท์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดภูเก็ต นายธำรงค์ ทองตัน ธนารักษ์พื้นที่ภูเก็ต นายวรวุฒิ ทรงยศ นายกเทศมนตรีตำบลศรีสุนทร นายกิตติศักดิ์ โสตรักษา กำนันตำบลศรีสุนทร และผู้เกี่ยวข้อง เพื่อหารือเกี่ยวกับการก่อสร้างเรือนจำแห่งใหม่ของจังหวัดภูเก็ต ที่สร้างบนที่ดินราชพัสดุ หมู่ที่ 4 บ้านบางโจ-ศรสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เพื่อทดแทนเรือนจำจังหวัดภูเก็ต ที่มีอายุกว่า 100 ปี และมีสภาพทรุดโทรม
นายประชา กล่าวว่า การเดินทางมาครั้งนี้ เพื่อทำความเข้าใจกับเจ้าของพื้นที่ และเพื่อแจ้งให้ทราบ และรับฟังความคิดเห็นของคนในพื้นที่ กรณีกรมราชทัณฑ์จะสร้างเรือนจำแห่งใหม่ในพื้นที่บ้านบางโจ เพื่อทดแทนเรือจำเก่าที่ขณะนี้มีสภาพทรุดโทรม และแออัด เนื่องจากก่อสร้างมานานแล้ว ซึ่งการเข้าไปก่อสร้างเรือนจำในพื้นที่ดังกล่าว อาจจะทำให้ชาวบ้านเกิดข้อกังขา และไม่ยอมรับได้ การเดินทางลงมาครั้งนี้ จึงเป็นการเดินทางลงมาเพื่อทำความเข้าใจในเบื้องต้น ว่าเรือนจำที่จะมีการก่อสร้างใหม่นั้น จะเป็นเรือนจำแบบอินเตอร์ที่รองรับความเป็นเมืองนานาชาติ ของจังหวัดภูเก็ต และเป็นเรือนจำที่ไม่เหมือนเรือนจำตัวไป จะมีการสร้างให้มีความสวยงาม และสารมารถอยู่คู่กับชุมชนได้
พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า เรือนจำจังหวัดภูเก็ตแห่งใหม่ จะสร้างขึ้นเป็นเรือนจำอินเตอร์ หรือเรือนจำสากลแห่งแรกของประเทศ เพราะว่าจังหวัดภูเก็ตมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามามาก ส่วนหนึ่งเราก็ต้องยอมรับว่า สังคมโลกเป็นภาคของสิทธิมนุษยชน เพราะฉะนั้น เขารับไม่ได้ที่ผู้ต้องขังจะอยู่กันในสภาพที่แออัด ต้องนอนรวมกันในห้องเล็กๆ 7-8 คน จึงมีวิธีคิดเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาตรงนี้ โดยกำหนดให้เรือนจังหวัดภูเก็ตแห่งใหม่ ออกมาในรูปแบบของความเป็นสากล เป็นเรือนจำที่ภาคสังคมสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการที่จะร่วมกันพัฒนาจังหวัดภูเก็ต
“โดยเรือนจำจังหวัดภูเก็ตแห่งใหม่ จะสร้างขึ้นในที่ดินราชพัสดุ แปลงหมายเลขทะเบียนที่ ภก.304 ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง เนื้อที่ประมาณ 108 ไร่ ใช้งบประมาณในการก่อสร้างกว่า 1,000 ล้านบาท รองรับผู้ต้องหาได้ประมาณ 3,000 คน ขณะที่เรือนจำจังหวัดภูเก็ตแห่งเดิม จะปรับเป็นพื้นที่ของศูนย์ราชการหลัก ซึ่งเรือนจำจังหวัดภูเก็ตเดิม มีเนื้อที่ 47 ไร่เศษ ตั้งอยู่ ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต มีผู้ต้องขังจำนวนมาก ทั้งชายหญิง กว่า 1,600 คน อยู่กันในสภาพที่แออัด และญาติที่มาเยี่ยมผู้ต้องขังก็ไม่ได้รับความสะดวก ในเรื่องสถานที่จอดรถ และระยะเวลาในการเยี่ยมผู้ต้องขัง ประกอบกับเรือนจำดังกล่าว ซึ่งมีอายุ 115 ปี มีสภาพชำรุดทรุดโทรม และตั้งอยู่ในย่านชุมชน” พ.ต.อ.สุชาติกล่าวในที่สุด
วันนี้ (2 ส.ค.) ที่โรงแรมมิชชั่นฮิลล์ ภูเก็ต ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นายประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อมคณะ ร่วมประชุมกับนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายระพินทร์ นิชานนท์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดภูเก็ต นายธำรงค์ ทองตัน ธนารักษ์พื้นที่ภูเก็ต นายวรวุฒิ ทรงยศ นายกเทศมนตรีตำบลศรีสุนทร นายกิตติศักดิ์ โสตรักษา กำนันตำบลศรีสุนทร และผู้เกี่ยวข้อง เพื่อหารือเกี่ยวกับการก่อสร้างเรือนจำแห่งใหม่ของจังหวัดภูเก็ต ที่สร้างบนที่ดินราชพัสดุ หมู่ที่ 4 บ้านบางโจ-ศรสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เพื่อทดแทนเรือนจำจังหวัดภูเก็ต ที่มีอายุกว่า 100 ปี และมีสภาพทรุดโทรม
นายประชา กล่าวว่า การเดินทางมาครั้งนี้ เพื่อทำความเข้าใจกับเจ้าของพื้นที่ และเพื่อแจ้งให้ทราบ และรับฟังความคิดเห็นของคนในพื้นที่ กรณีกรมราชทัณฑ์จะสร้างเรือนจำแห่งใหม่ในพื้นที่บ้านบางโจ เพื่อทดแทนเรือจำเก่าที่ขณะนี้มีสภาพทรุดโทรม และแออัด เนื่องจากก่อสร้างมานานแล้ว ซึ่งการเข้าไปก่อสร้างเรือนจำในพื้นที่ดังกล่าว อาจจะทำให้ชาวบ้านเกิดข้อกังขา และไม่ยอมรับได้ การเดินทางลงมาครั้งนี้ จึงเป็นการเดินทางลงมาเพื่อทำความเข้าใจในเบื้องต้น ว่าเรือนจำที่จะมีการก่อสร้างใหม่นั้น จะเป็นเรือนจำแบบอินเตอร์ที่รองรับความเป็นเมืองนานาชาติ ของจังหวัดภูเก็ต และเป็นเรือนจำที่ไม่เหมือนเรือนจำตัวไป จะมีการสร้างให้มีความสวยงาม และสารมารถอยู่คู่กับชุมชนได้
พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า เรือนจำจังหวัดภูเก็ตแห่งใหม่ จะสร้างขึ้นเป็นเรือนจำอินเตอร์ หรือเรือนจำสากลแห่งแรกของประเทศ เพราะว่าจังหวัดภูเก็ตมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามามาก ส่วนหนึ่งเราก็ต้องยอมรับว่า สังคมโลกเป็นภาคของสิทธิมนุษยชน เพราะฉะนั้น เขารับไม่ได้ที่ผู้ต้องขังจะอยู่กันในสภาพที่แออัด ต้องนอนรวมกันในห้องเล็กๆ 7-8 คน จึงมีวิธีคิดเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาตรงนี้ โดยกำหนดให้เรือนจังหวัดภูเก็ตแห่งใหม่ ออกมาในรูปแบบของความเป็นสากล เป็นเรือนจำที่ภาคสังคมสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการที่จะร่วมกันพัฒนาจังหวัดภูเก็ต
“โดยเรือนจำจังหวัดภูเก็ตแห่งใหม่ จะสร้างขึ้นในที่ดินราชพัสดุ แปลงหมายเลขทะเบียนที่ ภก.304 ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง เนื้อที่ประมาณ 108 ไร่ ใช้งบประมาณในการก่อสร้างกว่า 1,000 ล้านบาท รองรับผู้ต้องหาได้ประมาณ 3,000 คน ขณะที่เรือนจำจังหวัดภูเก็ตแห่งเดิม จะปรับเป็นพื้นที่ของศูนย์ราชการหลัก ซึ่งเรือนจำจังหวัดภูเก็ตเดิม มีเนื้อที่ 47 ไร่เศษ ตั้งอยู่ ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต มีผู้ต้องขังจำนวนมาก ทั้งชายหญิง กว่า 1,600 คน อยู่กันในสภาพที่แออัด และญาติที่มาเยี่ยมผู้ต้องขังก็ไม่ได้รับความสะดวก ในเรื่องสถานที่จอดรถ และระยะเวลาในการเยี่ยมผู้ต้องขัง ประกอบกับเรือนจำดังกล่าว ซึ่งมีอายุ 115 ปี มีสภาพชำรุดทรุดโทรม และตั้งอยู่ในย่านชุมชน” พ.ต.อ.สุชาติกล่าวในที่สุด