ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - พบนักเรียนชั้นอนุบาลในโรงเรียนพื้นที่ชายแดนไทยมาเลเซียเป็นโรคมือเท้าปากอีก2 รายจนต้องปิดเรียนชั่วคราวพร้อมกับเร่งทำความสะอาดเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ ขณะที่ในภาพรวมของจ.สงขลาพบผู้ป่วยแล้ว350 รายมากที่สุดในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง
สถานการณ์โรคมือเท้าปากในพื้นที่จ.สงขลา ยังคงพบผู้ป่วยซึ่งอยู่ในกลุ่มของเด็กนักเรียนอนุบาลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดพบเด็กเรียนชั้นอนุบาลของโรงเรียนกฤษณาวิทยา ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.สะเดา อ.สะเดา ชายแดนไทยมาเลเซียป่วยด้วยโรคมือเท้าปากอีก2 ราย เป็นนักเรียนหญิงชั้นอนุบาล 2 อายุ 4 ขวบ 1 ราย และนักเรียนชายชั้นอนุบาล3 อายุ5 ขวบ1 ราย หลังจากที่มีอาการป่วยมา3 วันหลังจากที่ทางโรงเรียนจัดกิจกรรมกีฬาสีและถูกส่งตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลปาดังเบซาร์ และทางสาธารณสุขอำเภอสะเดาได้ยืนยันผลตรวจพบว่าเป็นโรคมือเท้าปาก ส่วนอีก 1 รายซึ่งสงสัยว่าจะติดเชื้อพบว่าเป็นแค่โรคซางธรรมดา
โดยโรงเรียนได้ปิดการเรียนการสอนในส่วนของชั้นเตรียมอนุบาลและชั้นอนุบาลทันทีรวม16 ห้องเรียน จำนวนนักเรียนกว่า 500 คน รวมทั้งห้องสมุดอีก1 ห้อง พร้อมกับเร่งทำความสะอาดห้องเรียนอุปกรณ์การเรียนและเครื่องใช้ต่างๆเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคมือเท้าปากและคาดว่าจะเปิดเรียนอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 30 ก.ค.นี้
ขณะที่ข้อมูลจากสำนักงานป้องกันและควบคุมโรคที่12 พบว่า จ.สงขลา เป็นพื้นที่ที่พบผู้ป่วยโรคมือเท้าปากมากที่สุดในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง จำนวน350 ราย รองลงมาคือพัทลุง 300 ราย, ตรัง257 ราย, ยะลา 109 ราย, นราธิวาส 104 ราย, ปัตตานี 80 ราย และสตูล 69 ราย
