ตามติด “น้องปริม-ฝ้าย” นำทีมเวทีขาอ่อนเที่ยวสงขลาปลอดภัยไร้กังวล

รายงาน...ศูนย์ข่าวหาดใหญ่

หลังบรรดา 18 สาวงามจากเวทีนางสาวไทยเดินทางมาถึง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ในเวลา 10.45 น.ของวันที่ 27 ก.ค. เพื่อร่วมทำกิจกรรมเป็นเวลา 3 วัน โดยมีกำหนดเดินทางกลับวันที่ 29 กรกฎาคมนี้ แต่เพียงได้ไม่กี่ชั่วโมงของการสัมผัสบรรยากาศใจกลางเมืองหาดใหญ่ ก็รับรู้ได้ถึงบรรยากาศความเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจการค้าของภาคใต้ตอนล่าง และสวรรค์ของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่นิยมมาพักผ่อนทุกห้วงวันหยุด โดยไม่หลงเหลือความน่าสพรึงกลัวของเหตุความไม่สงบใจกลางเมืองราว 4 เดือนก่อนเลย ซึ่งเสน่ห์ของ จ.สงขลา และศักยภาพของคนที่นี่ซึ่งมีเลือดนักสู้และการปรับตัวอย่างเต็มเปี่ยมนี่เอง ที่น่าจะทำให้ได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในเจ้าภาพที่เปิดบ้านให้เหล่าสาวงามได้เยี่ยมชมอย่างใกล้ชิด

น้องปริม-กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา ผู้เข้าประกวดนางสาวไทยรอบ 18 คนสุดท้าย หมายเลข 3 เปิดเผยความรู้สึกกับ “ASTVผู้จัดการออนไลน์” เป็นอันดับแรกเลยว่า เมื่อมาถึงเมืองหาดใหญ่นั้นทุกคนที่นี่มีความน่ารัก อัธยาศัยดี นับเป็นอีกเมืองท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่มีเสน่ห์

ทั้งนี้ จากการสัมผัสบรรยากาศในครั้งนี้ แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากการปรากฏเป็นข่าว เพราะหากเป็นคนภายนอกอาจจะหวั่นเกรงเรื่องความไม่ปลอดภัย แต่น้องปริมนั้นเกิดในครอบครัวที่มีเลือดสีเขียวเข้มข้น โดยมีคุณพ่อเป็นทหารที่มีระเบียบวินัย ส่วนคุณแม่เป็นอาจารย์พิเศษโรงเรียนเสนาธิการทหาร จึงเข้าใจสถานการณ์ดีว่าไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุเช่นนั้นขึ้น ทว่าที่นี่มีการฟื้นตัวที่เร็วมาก ไม่ได้มีความน่ากลัว หรือรู้สึกอันตรายเลย และยังได้มีโอกาสรับประทานอาหารที่โรงแรมลี การ์เดนส์เสียด้วยซ้ำ

ด้านน้องฝ้าย จ่าอากาศหญิง ณรัชวีร์ กลั่นไพรี ผู้เข้าประกวดหมายเลข 11 เล่าให้เราฟังขณะที่กำลังชมสินค้านานาชนิดในตลาดสันติสุข ว่า โดยส่วนตัวรับราชการทหารจึงมีโอกาสมาขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อปฎิบัติงานที่ จ.สงขลา จึงรู้จักและเห็นในแง่มุมที่คนอื่นอาจจะไม่เห็น แต่โดยส่วนตัวแล้วมีความรู้สึกว่าที่นี่มีศักยภาพในการเป็นเมืองท่องเที่ยว และอยากไปในทุกๆ ที่หากมีโอกาส

“ประสบการณ์การเดินทางครั้งนี้ ฝ้ายอยากมาเป็นกำลังใจให้กับผู้ประกอบการในเมืองหาดใหญ่ทุกคน ให้ธุรกิจมีความมีความคึกคัก ยอดขายสะพัด และร่วมเชียร์ผู้เข้าประกวดนางสาวไทยทุกคนด้วยค่ะ”

และการเก็บตัวในครั้งนี้ นอกจากเหล่าสาวงามมีโอกาสร่วมเผยแพร่สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ ทั้งสวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ ซึ่งสามารถขึ้นกระเช้าลอยฟ้าแห่งแรกของประเทศไทยเพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนยอดเขาคอหงส์แล้ว ยังมีหาดใหญ่ไอซ์โดมที่แสดงปฎิมากรรมน้ำแข็งจาก์ฝีมือนักแกะสลักจากประเทศจีน ซึ่งเก็บรักษาไว้ในห้องที่มีอุณหภูมิติดลบ 30 องศา, เยี่ยมชมวัดพระโค๊ะ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของหลวงปู่ทวด เกจิอาจารย์ของคนใต้, เยี่ยมพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสงขลา, ร่วมเก็บภาพที่ระลึกกับนางเงือก สัญลักษณ์เมืองสงขลา, สถาบันทักษิณคดี ชมพิพิธภัณฑ์คติชนวิทยาแล้ว ยังได้สัมผัสแหล่งช้อปปิ้งใจกลางเมืองหาดใหญ่ และงานมหกรรมแสดงสินค้าโอทอป 5 จังหวัดภาคใต้แล้ว และทำกิจกรรมปลูกต้นสนอ่อนเพื่อดูแลรักษาชายหาดอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม หลังจากเสร็จภารกิจใน จ.สงขลาผู้เข้าประกวดจะเดินทางทำกิจกรรมอีกครั้งที่ จ.น่าน ทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์ รวมทั้งสัมผัสกิจกรรมโครงการปิดทองหลังพระ ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ส่วนรอบตัดสินจะจัดขึ้นในวันที่ 9 ส.ค.นี้ ที่อาคารแจ้งวัฒนะฮอลล์ เซ็นทรัลพลาซ่า แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ