ระนอง - สนง.เกษตรและสหกรณ์จังหวัดระนอง จัดโครงการ “รวมพลคนอินทรีย์”เวทีสำหรับชาวบ้านเกษตรกรและเยาวชน ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ในการจัดการทรัพยากรในท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงการพัฒนาการเกษตรไปสู้เกษตรอินทรีย์ ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นแนวทางหนึ่งที่สามารถปรับใช้ได้ทุกพื้นที่และทุกชุมชน

ที่โรงยิมเนเซียม สนามกีฬาจังหวัดระนอง สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดระนองจัดงาน“รวมพลคนอินทรีย์” เพื่อให้ความรู้การทำการเกษตรอย่างปลอดภัย โดยใช้วิธีเกษตรอินทรีย์ และย้อนรอยแนวความคิด นายมนู มีชัย ปราชญ์ชาวบ้านจังหวัดระนอง กับบทบาทด้านเกษตรอินทรีย์ ซึ่งในงานได้จัดนิทรรศการเกี่ยวกับวิชาการเกษตรในหลายๆด้าน แนะนำเทคโนโลยีทางการเกษตร จำหน่ายสินค้าเกษตรราคาถูก โดยได้รับความสนใจจาก ประชาชน เกษตรกร และเยาวชน เป็นอย่างดี
เกษตรอินทรีย์ เป็นระบบการผลิตที่ให้ความสำคัญกับการรักษาความสมดุลของธรรมชาติ และการจัดการระบบนิเวศน์ที่คล้ายคลึงกับธรรมชาติ โดยเฉพาะการฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของดิน การรักษาแหล่งน้ำให้สะอาด และการฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพของพื้นที่ทำการเกษตร รวมถึงการนำเอาภูมิปัญญาชาวบ้านมาใช้ประโยชน์ เกษตรอินทรีย์จึงเป็นแนวทางหนึ่งของการปฏิบัติตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนในการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกร ตลอดจนสร้างความปลอดภัยต่อผู้ผลิตและผู้บริโภค
นายปรีชา พันธ์สน เกษตรและสหกรณ์จังหวัดระนอง กล่าวว่า ในการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ เพื่อให้เกิดการขยายผลด้านการผลิต และสอดคล้องกับความต้องการของตลาดผู้บริโภค โดยบูรณาการ การทำงานระหว่างหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงอื่นๆ ทั้งส่วนกลาง ส่วนท้องถิ่น ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ และภาคเอกชน เพื่อให้การพัฒนาเกษตรอินทรีย์เป็นไปในทิศทางเดียวกัน จะส่งผลดีในการลงทุนและการตลาด ของสินค้าเกษตรอินทรีย์ โดยเฉพาะการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 การจัดงานในครั้งนี้เพื่อเป็นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้สำหรับทุกภาคส่วนของจังหวัดระนองในการทำการเกษตรที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ อีกทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ดังนั้น การส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ผลิตและผู้บริโภค ตลอดจนภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในจังหวัดระนองได้มีความรู้ความเข้าใจถึงความสำคัญของการทำการเกษตรแบบอินทรีย์ จึงเป็นแนวทางหนึ่งที่จะนำไปสู่การปฏิบัติเพื่อการพัฒนาแบบองค์รวม ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมของท้องถิ่น การพึ่งพาตนเองในด้านการผลิต และการบริโภคที่เหมาะสมกับทรัพยากร รวมถึงการสร้างเอกลักษณ์ ภูมิปัญญาในท้องถิ่น และวัฒนธรรมที่มีในชุมชน ได้เป็นอย่างดี





ที่โรงยิมเนเซียม สนามกีฬาจังหวัดระนอง สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดระนองจัดงาน“รวมพลคนอินทรีย์” เพื่อให้ความรู้การทำการเกษตรอย่างปลอดภัย โดยใช้วิธีเกษตรอินทรีย์ และย้อนรอยแนวความคิด นายมนู มีชัย ปราชญ์ชาวบ้านจังหวัดระนอง กับบทบาทด้านเกษตรอินทรีย์ ซึ่งในงานได้จัดนิทรรศการเกี่ยวกับวิชาการเกษตรในหลายๆด้าน แนะนำเทคโนโลยีทางการเกษตร จำหน่ายสินค้าเกษตรราคาถูก โดยได้รับความสนใจจาก ประชาชน เกษตรกร และเยาวชน เป็นอย่างดี
เกษตรอินทรีย์ เป็นระบบการผลิตที่ให้ความสำคัญกับการรักษาความสมดุลของธรรมชาติ และการจัดการระบบนิเวศน์ที่คล้ายคลึงกับธรรมชาติ โดยเฉพาะการฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของดิน การรักษาแหล่งน้ำให้สะอาด และการฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพของพื้นที่ทำการเกษตร รวมถึงการนำเอาภูมิปัญญาชาวบ้านมาใช้ประโยชน์ เกษตรอินทรีย์จึงเป็นแนวทางหนึ่งของการปฏิบัติตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนในการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกร ตลอดจนสร้างความปลอดภัยต่อผู้ผลิตและผู้บริโภค
นายปรีชา พันธ์สน เกษตรและสหกรณ์จังหวัดระนอง กล่าวว่า ในการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ เพื่อให้เกิดการขยายผลด้านการผลิต และสอดคล้องกับความต้องการของตลาดผู้บริโภค โดยบูรณาการ การทำงานระหว่างหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงอื่นๆ ทั้งส่วนกลาง ส่วนท้องถิ่น ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ และภาคเอกชน เพื่อให้การพัฒนาเกษตรอินทรีย์เป็นไปในทิศทางเดียวกัน จะส่งผลดีในการลงทุนและการตลาด ของสินค้าเกษตรอินทรีย์ โดยเฉพาะการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 การจัดงานในครั้งนี้เพื่อเป็นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้สำหรับทุกภาคส่วนของจังหวัดระนองในการทำการเกษตรที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ อีกทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ดังนั้น การส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ผลิตและผู้บริโภค ตลอดจนภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในจังหวัดระนองได้มีความรู้ความเข้าใจถึงความสำคัญของการทำการเกษตรแบบอินทรีย์ จึงเป็นแนวทางหนึ่งที่จะนำไปสู่การปฏิบัติเพื่อการพัฒนาแบบองค์รวม ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมของท้องถิ่น การพึ่งพาตนเองในด้านการผลิต และการบริโภคที่เหมาะสมกับทรัพยากร รวมถึงการสร้างเอกลักษณ์ ภูมิปัญญาในท้องถิ่น และวัฒนธรรมที่มีในชุมชน ได้เป็นอย่างดี