ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ผู้ต้องหาฆ่านักศึกษาสาวมหาวิทยาลัยหาดใหญ่ยอมเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่แล้ว หลังหนีไปกบดานอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย แต่ยังให้การภาคเสธ สารภาพคบหาดูใจกันอยู่ พยายามลวนลามขมขื่นแต่ผู้ตายร้องจึงใช้มือปิดปากไม่คิดว่าจะเสียชีวิต
ความคืบหน้าคดี น.ส.ประภัสสร ทิพมณี หรือป้อม อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ถูกฆ่า และทิ้งศพไว้ใต้สะพานข้ามคลองระบายน้ำ ร.1 (รอหนึ่ง) ถนนลพบุรีราเมศวร์ หมู่ 7 ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา เมื่อคืนวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 2 ก.ค. นายอนุสรณ์ จันโส๊ะ หรือไฟซอล อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38/15 ม.2 ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับในคดีนี้ได้ยอมเข้ามอบตัวต่อตำรวจแล้ว โดยมี พล.ต.ต.ทนงศักดิ์ ภัทรภาณุ ผบก.กก.สส.ภาค 9 พ.ต.อ.อัมพล บัวรับพร รอง ผบก.กก.สส.ภาค พ.ต.อ.พิทักษ์ พุทธวิโร ผกก.สภ.บางกล่ำ และพ.ต.ท.สุรพล ดูดิง รอง ผกก.สส. รับมอบตัว และร่วมกันสอบสวน
หลังจากที่หลบหนีการจับกุมนานกว่า 4 วัน โดยหลังก่อเหตุ ได้หลบหนีไปกบดานอยู่ในประเทศมาเลเซีย โดยเดินทางออกทางด่านพรมแดนวังประจัน จ.สตูล และตำรวจได้พยายามติดตามไล่ล่ากดดัน และประสานญาติให้เจรจาจนยอมเข้ามอบตัวแต่โดยดี เบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา แต่นายอนุสรณ์ยังให้การภาคเสธ
และจากการสอบสวน นายอนุสรณ์ ให้การว่า ไม่ได้ตั้งใจที่จะฆ่า น.ส.ประภัสร เพราะกำลังคบหาดูใจกับผู้ตายหลังจากที่รู้จักกันผ่านกลุ่มเพื่อน และติดต่อกันทางเฟซบุ๊ก โดยในวันเกิดเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์ไปรับผู้ตายซึ่งเดินทางมาจากบ้านที่ จ.สตูล นัดเจอกันที่หน้าหอนาฬิกาหาดใหญ่
โดยผู้ตายอยู่ระหว่างการถือศีลอดชดเชย ตนจึงพาไปทานอาหารเพื่อละศีลอดในช่วงค่ำ และพานั่งรถเล่นในเมืองหาดใหญ่ ก่อนที่จะพาไปส่งที่บ้านญาติในพื้นที่หมู่ 7 ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ ช่วงค่ำ แต่เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ได้จอดรถพูดคุยกับผู้ตาย และเกิดอารมณ์ชั่ววูบพยายามลวนลามข่มขืน แต่ผู้ตายขัดขืน และร้องส่งเสียงดังลั่นจนมีชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงได้ยิน และพากันออกมาช่วย ตนจึงเอามือปิดปากเพื่อไม่ให้ส่งเสียงร้องจนแน่นิ่งไปไม่คิดว่าจะเสียชีวิต และกลัวว่าชาวบ้านจะมาเห็น จึงได้ทิ้งรถจักรยานยนต์ และรองเท้าไว้ในที่เกิด และรีบหลบหนีไป และมาทราบข่าวอีกทีในวันรุ่งขึ้นว่า น.ส.ประภัสสร เสียชีวิตแล้วจึงตกใจ และหลบหนีไปกบดานที่ประเทศมาเลเซีย
อย่างไรก็ตาม หลังการเข้ามอบตัว เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว นายอนุสรณ์ ไปตรวจดีเอ็นเอที่สำนักงานวิทยาการ จ.สงขลา เพื่อนำมาประกอบสำนวนการสอบสวนคดีกับหลักฐานในที่เกิดเหตุ เพื่อให้แน่นหนามากที่สุด ก่อนที่จะควบคุมตัวไปฝากขังที่ศาล จ.สงขลา
สำหรับ นายอนุสรณ์ ผู้ต้องหารายนี้ เดิมทีมีภรรยาอยู่แล้ว และมีลูกสองคน ซึ่งลูกคนเล็กเพิ่งคลอดได้ราว 1 เดือน แต่ไม่ได้อยู่กับภรรยาตลอด โดยมาประกอบอาชีพกรีดยางอยู่ที่บ้านของตนเองในพื้นที่ ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ ส่วนภรรยา และลูกอาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.เกาะแต้ว อ.เมืองสงขลา และจะไปมาหาสู่นานๆ ครั้ง นอกจากนี้ ในช่วงว่างก็จะออกดาวะฮ์ หรือเผยแพร่ศาสนาอิสลามด้วย
และหลังมอบตัว เจ้าหน้าที่ได้ยกเลิกการควบคุมตัว นายอนุสรณ์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณจุดเกิดเหตุ เนื่องจากมีญาติผู้ตาย และชาวบ้านในละแวกเกิดเหตุซึ่งทราบว่าเข้ามอบตัวมารอดูการทำแผนนับร้อยคน เจ้าหน้าที่เกรงว่าจะควบคุมสถานการณ์ไม่อยู่ และอาจถูกรุมประชาทัณฑ์จึงได้ควบคุมตัวไปส่งฟ้องที่ศาล จ.สงขลาทันที