นราธิวาส - ศูนย์ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด อำเภอสุไหงโก-ลก จัดโครงการ “มัสยิดส่องทางชีวิตใหม่” เพื่อพัฒนาศักยภาพการบำบัดรักษาในชุมชน โดยใช้มัสยิดเป็นศูนย์สงเคราะห์ และฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด
ศูนย์ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด อำเภอสุไหงโก-ลก ปฏิบัติการเชิงรุกในการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล ในการป้องกันและแก้ปัญหายาเสพติดในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก โดยตั้ง “1 อำเภอ 1 ศูนย์ฟื้นฟู” เพื่อให้กลุ่มผู้เสพ และกลุ่มเสี่ยงสามารถเข้าถึงบริการ ได้รับการบำบัดฟื้นฟูในศูนย์ใกล้บ้าน ใกล้ใจ
โอกาสนี้ได้ ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขอำเภอสุไหงโก-ลก และโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก จัดโครงการพัฒนาศักยภาพการบำบัดรักษาในชุมชน โดยใช้มัสยิดเป็นศูนย์สงเคราะห์ และฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด “มัสยิดส่องทางชีวิตใหม่” (ปูซัดเกอฮีดูปันบารู) ณ มัสยิดกือดาบารู ถ.ทรายทอง 5 อ.สุไหงโก-ลก เพื่อเป็นอีกแนวทางหนึ่งในการสร้างแรงจูงใจให้กลุ่มผู้เสพ และกลุ่มเสี่ยงเข้าสู่กระบวนการบำบัดฟื้นฟูให้มากขึ้น โดยเน้นรูปแบบการบำบัดฟื้นฟูที่สอดคล้องกับหลักศาสนา และวิถีชุมชนของชาวไทยมุสลิม
ซึ่งเป็นการพัฒนาให้มัสยิดสามารถเป็นศูนย์บำบัดฟื้นฟูกลุ่มผู้เสพยาเสพติด และสารเสพติดในชุมชน ตามนโยบายของรัฐบาล ที่ให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ เพื่อให้เกิดความยั่งยืนต่อไป โดยมีผู้เข้ารับการบำบัดจำนวน 30 คน
สำหรับมัสยิดกือดาบารู ได้รับการจัดตั้งให้เป็นมัสยิดศูนย์ส่องทางชีวิตใหม่ (ปูซัดเกอฮีดูปันบารู) สำหรับการบำบัดฟื้นฟูกลุ่มเสพ และกลุ่มเสี่ยง โดยมีทีมบำบัดฯ ประกอบด้วย ผู้นำศาสนาประจำมัสยิด ผู้นำชุมชน ฝ่ายปกครอง ฝ่ายการศึกษา พัฒนาชุมชน และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข
นายเมธา สุบิน ปลัดอาวุโสอำเภอสุไหงโก-ลก กล่าวว่า ศูนย์ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด อำเภอสุไหงโก-ลก มีความคาดหวังกับทุกโครงการที่ได้ดำเนินการเกี่ยวกับการแก้ไข และป้องกันปัญหายาเสพติดในพื้นที่ โดยเฉพาะโครงการที่ได้นำหลักศาสนาเข้ามาบรรจุอยู่ในหลักสูตรการบำบัดผู้ติดยาเสพติด เนื่องจากในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ สิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชน คือ ศาสนา และผู้นำศาสนา ซึ่งโครงการที่จัดขึ้นมุ่งเน้นการนำหลักศาสนามาใช้ขัดเกลาจิตใจของกลุ่มผู้เสพ และกลุ่มเสี่ยง จึงเชื่อมั่นว่า จะสามารถแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในกลุ่มผู้เสพ และกลุ่มเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และหลังการเข้าสู่กระบวนการบำบัดแล้ว ก็จะต่อเนื่องด้วยการติดตามประเมินผลกลุ่มเป้าหมายว่ามีการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีกหรือไม่ โดยจะมีการประกบเป็นตัวต่อตัว
ขณะที่ พ.ต.ท.ดำรงค์ พูนเทพ สารวัตรป้องกันและปราบปราม สถานีตำรวจภูธรสุไหงโก-ลก กล่าวว่า พื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก มีปัจจัยหลายด้านที่ส่งผลให้ปัญหายาเสพติดยังไม่หมดไปจากพื้นที่ โดยมีทั้งปัญหาความหนาแน่นของประชาชนในชุมชนต่างๆ วิถีชีวิตของประชาชนในเมืองเศรษฐกิจท่องเที่ยวชายแดน ที่มีสถานบันเทิง และแหล่งมั่วสุมอยู่เป็นจำนวนมาก สภาพชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวที่ขาดความรักความเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน แต่อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่เกิดขึ้นก็ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลด้วยว่า จะมีความเข้มแข็งในการเอาชนะยาเสพติดได้หรือไม่
