ระนอง - ผวจ.ระนอง ต้อนรับคณะสื่อมวลชนจากจังหวัดยะลา ทัศนศึกษาดูงาน เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำข่าว พร้อมประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวของระนอง ให้คนยะลาได้รับรู้
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (11 ก.ค. ) นายสัมพันธ์ มูซอดี ประชาสัมพันธ์จังหวัดยะลา ได้นำคณะสื่อมวลชนจากจังหวัดยะลา จำนวนกว่า 40 คน เข้าพบ นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผวจ.ระนอง ในโอกาสเดินทางทัศนศึกษาที่จังหวัดระนอง โดยประชาสัมพันธ์จังหวัดยะลา กล่าวว่าในการนำคณะสื่อมวลชนจังหวัดยะลา มาทัศนศึกษาดูงานที่จังหวัดระนองในครั้งนี้ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกับสื่อมวลชนในจังหวัดระนอง และเพื่อเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์จังหวัดระนองให้ประชาชนชาวยะลา และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้รับทราบถึงแหล่งท่องเที่ยว และประวัติศาสตร์ของเมืองระนองอีกด้วย
ขณะที่ นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผวจ.ระนอง ได้กล่าวว่า ระนองเป็นจังหวัดเล็กๆ มีประชากรน้อยที่สุดในประเทศไทย คือ 180,000 คน เท่านั้น แต่ระนองมีสิ่งที่ดีที่สุดคือ น้ำแร่ ซึ่งน้ำแร่ของเมืองระนองไม่มีกำมะถัน มีแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อการกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตของร่างกาย มีรายได้หลักจากการเกษตร สวนยางพารา ประมง และอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องกับประมง
แต่การทำประมงในปัจจุบัน ต้องเจอกับอุปสรรค เงื่อนไข หลักเกณฑ์ต่างๆ มากมาย ในอนาคตจังหวัดระนอง คงจะเน้นในเรื่องการหารายได้จากการท่องเที่ยว ปัจจุบัน จังหวัดระนอง มีเกาะพยาม ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เริ่มเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว มีความสวยงาม และการมาเที่ยวระนอง ค่าใช้จ่ายยังไม่แพงมากนัก
นายพีระศักดิ์ กล่าวต่อว่า ทางด้านประวัติศาสตร์ จังหวัดระนองมีอดีตเจ้าเมืองระนอง คอ ซู้เจียง เป็นชาวจีนฮกเกี้ยน ได้รับราชการสนองพระเดชพระคุณ ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว คอซู้เจียงได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นหลวงรัตนเศรษฐี ตำแหน่งอากรในเมืองระนอง ต่อมาอีกหลายรัชสมัย คอซู้เจียงก็ได้เลื่อนยศจนกระทั่งมีตำแหน่งเป็นผู้ว่าราชการเมืองระนอง ครั้นถึงสมัยรัชกาลที่ 6 ก็ได้รับพระราชทานนามสกุล ณ ระนอง นับแต่นั้น ตำแหน่งสุดท้ายของคอซู้เจียงคือ พระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี ตำแหน่งจางวางกำกับเมืองระนองเมื่ออายุ 86 ปี
ปัจจุบัน เมืองระนองยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่น่าสนใจ หนึ่งในนั้นคือ จวนเจ้าเมือง และสุสานเจ้าเมืองระนอง ที่สร้างในปี 2426 เป็นที่ดินที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่ตระกูล ณ ระนอง
ผวจ.ระนอง ยังกล่าวอีกว่า จังหวัดยะลาเป็นเมืองน่าอยู่ หากเหตุการณ์ต่างๆ สงบ และรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่สื่อมวลชนจังหวัดยะลาเลือกเดินทางมาทัศนศึกษาที่จังหวัดระนอง หลังจากเข้าพบ ผวจ.ระนองแล้ว คณะสื่อมวลชนจังหวัดยะลาได้เดินทางไปยังเกาะสอง ประเทศพม่า
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (11 ก.ค. ) นายสัมพันธ์ มูซอดี ประชาสัมพันธ์จังหวัดยะลา ได้นำคณะสื่อมวลชนจากจังหวัดยะลา จำนวนกว่า 40 คน เข้าพบ นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผวจ.ระนอง ในโอกาสเดินทางทัศนศึกษาที่จังหวัดระนอง โดยประชาสัมพันธ์จังหวัดยะลา กล่าวว่าในการนำคณะสื่อมวลชนจังหวัดยะลา มาทัศนศึกษาดูงานที่จังหวัดระนองในครั้งนี้ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกับสื่อมวลชนในจังหวัดระนอง และเพื่อเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์จังหวัดระนองให้ประชาชนชาวยะลา และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้รับทราบถึงแหล่งท่องเที่ยว และประวัติศาสตร์ของเมืองระนองอีกด้วย
ขณะที่ นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผวจ.ระนอง ได้กล่าวว่า ระนองเป็นจังหวัดเล็กๆ มีประชากรน้อยที่สุดในประเทศไทย คือ 180,000 คน เท่านั้น แต่ระนองมีสิ่งที่ดีที่สุดคือ น้ำแร่ ซึ่งน้ำแร่ของเมืองระนองไม่มีกำมะถัน มีแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อการกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตของร่างกาย มีรายได้หลักจากการเกษตร สวนยางพารา ประมง และอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องกับประมง
แต่การทำประมงในปัจจุบัน ต้องเจอกับอุปสรรค เงื่อนไข หลักเกณฑ์ต่างๆ มากมาย ในอนาคตจังหวัดระนอง คงจะเน้นในเรื่องการหารายได้จากการท่องเที่ยว ปัจจุบัน จังหวัดระนอง มีเกาะพยาม ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เริ่มเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว มีความสวยงาม และการมาเที่ยวระนอง ค่าใช้จ่ายยังไม่แพงมากนัก
นายพีระศักดิ์ กล่าวต่อว่า ทางด้านประวัติศาสตร์ จังหวัดระนองมีอดีตเจ้าเมืองระนอง คอ ซู้เจียง เป็นชาวจีนฮกเกี้ยน ได้รับราชการสนองพระเดชพระคุณ ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว คอซู้เจียงได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นหลวงรัตนเศรษฐี ตำแหน่งอากรในเมืองระนอง ต่อมาอีกหลายรัชสมัย คอซู้เจียงก็ได้เลื่อนยศจนกระทั่งมีตำแหน่งเป็นผู้ว่าราชการเมืองระนอง ครั้นถึงสมัยรัชกาลที่ 6 ก็ได้รับพระราชทานนามสกุล ณ ระนอง นับแต่นั้น ตำแหน่งสุดท้ายของคอซู้เจียงคือ พระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี ตำแหน่งจางวางกำกับเมืองระนองเมื่ออายุ 86 ปี
ปัจจุบัน เมืองระนองยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่น่าสนใจ หนึ่งในนั้นคือ จวนเจ้าเมือง และสุสานเจ้าเมืองระนอง ที่สร้างในปี 2426 เป็นที่ดินที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่ตระกูล ณ ระนอง
ผวจ.ระนอง ยังกล่าวอีกว่า จังหวัดยะลาเป็นเมืองน่าอยู่ หากเหตุการณ์ต่างๆ สงบ และรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่สื่อมวลชนจังหวัดยะลาเลือกเดินทางมาทัศนศึกษาที่จังหวัดระนอง หลังจากเข้าพบ ผวจ.ระนองแล้ว คณะสื่อมวลชนจังหวัดยะลาได้เดินทางไปยังเกาะสอง ประเทศพม่า
