นราธิวาส - เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ย้ายพื้นที่จัดจำหน่ายอาหารช่วงเดือนรอมฎอน ไปตั้งที่สวนสาธารณะน้ำพุ ถนนเอเชีย 18 เพื่อให้การบริหารจัดการพื้นที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะการรักษาความปลอดภัยที่จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นางสุชาดา พันธ์นรา นายกเทศมนตรีเมืองสุไหงโก-ลก เปิดเผยว่า การถือศีลอดในเดือนรอมฎอนที่จะมาถึงในเดือนสิงหาคมนี้ เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ได้เตรียมจัดสถานที่บริเวณสวนสาธารณะน้ำพุ ถนนเอเชีย 18 ทางไปศูนย์ราชการชายแดน อ.สุไหงโก-ลก เป็นโซนจำหน่ายอาหารในเดือนรอมฎอน แทนสถานที่เดิมซึ่งตั้งอยู่ ณ ตลาดสดหน้าสถานีรถไฟ เพื่อให้มีการบริหารจัดการมีประสิทธิภาพมากขึ้น
โดยจะทำให้ผู้ประกอบการ และผู้บริโภคได้รับความสะดวกสบายในการใช้บริการ เนื่องจากมีเนื้อที่กว้างมากขึ้น ไม่กีดขวางทางจราจร การจอดรถสะดวก อีกทั้งสามารถรักษาความปลอดภัยได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น
ทั้งนี้ เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จะดำเนินการจัดเต็นท์ ระบบไฟฟ้า และซุ้มประตูเข้า-ออก เพื่อให้เกิดความสวยงามของสถานที่ ให้พี่น้องชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ และจากอำเภอข้างเคียง ตลอดจนพี่น้องชาวมาเลเซียออกมาเลือกซื้ออาหารจากผู้ประกอบการจำนวนกว่า 150 ร้านค้า เพื่อนำไปละศีลอดในช่วงค่ำได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
ด้าน นายพินัย ศรีวิไล ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ในส่วนของผู้ประกอบการที่นำอาหารคาวหวานมาจำหน่ายในช่วงการถือศีลอดเดือนรอมฎอน ณ สถานที่ที่เทศบาลกำหนดนั้น เจ้าหน้าที่จะเข้าไปสุ่มตรวจตามร้านค้าเพื่อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด คือ อาหารปรุงสุกใหม่ สะอาด ถูกสุขอนามัย ราคาต้องมีความเหมาะสม และเป็นธรรมต่อผู้บริโภคด้วย
นางสุชาดา พันธ์นรา นายกเทศมนตรีเมืองสุไหงโก-ลก เปิดเผยว่า การถือศีลอดในเดือนรอมฎอนที่จะมาถึงในเดือนสิงหาคมนี้ เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ได้เตรียมจัดสถานที่บริเวณสวนสาธารณะน้ำพุ ถนนเอเชีย 18 ทางไปศูนย์ราชการชายแดน อ.สุไหงโก-ลก เป็นโซนจำหน่ายอาหารในเดือนรอมฎอน แทนสถานที่เดิมซึ่งตั้งอยู่ ณ ตลาดสดหน้าสถานีรถไฟ เพื่อให้มีการบริหารจัดการมีประสิทธิภาพมากขึ้น
โดยจะทำให้ผู้ประกอบการ และผู้บริโภคได้รับความสะดวกสบายในการใช้บริการ เนื่องจากมีเนื้อที่กว้างมากขึ้น ไม่กีดขวางทางจราจร การจอดรถสะดวก อีกทั้งสามารถรักษาความปลอดภัยได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น
ทั้งนี้ เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จะดำเนินการจัดเต็นท์ ระบบไฟฟ้า และซุ้มประตูเข้า-ออก เพื่อให้เกิดความสวยงามของสถานที่ ให้พี่น้องชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ และจากอำเภอข้างเคียง ตลอดจนพี่น้องชาวมาเลเซียออกมาเลือกซื้ออาหารจากผู้ประกอบการจำนวนกว่า 150 ร้านค้า เพื่อนำไปละศีลอดในช่วงค่ำได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
ด้าน นายพินัย ศรีวิไล ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ในส่วนของผู้ประกอบการที่นำอาหารคาวหวานมาจำหน่ายในช่วงการถือศีลอดเดือนรอมฎอน ณ สถานที่ที่เทศบาลกำหนดนั้น เจ้าหน้าที่จะเข้าไปสุ่มตรวจตามร้านค้าเพื่อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด คือ อาหารปรุงสุกใหม่ สะอาด ถูกสุขอนามัย ราคาต้องมีความเหมาะสม และเป็นธรรมต่อผู้บริโภคด้วย