ยะลา - ประธานคณะกรรมการดำเนินโครงการ สานใจไทยสู่ใจใต้ เปิด “อาคารศูนย์การเรียนรู้ ห้องสมุดสานใจไทยสู่ใจใต้” ที่ปอเนาะอิสลามศาสน์ ดารุสลาม ต.ตาเซะ อ.เมือง จ.ยะลา
วันนี้ (5 ก.ค.) ที่สถาบันศึกษาปอเนาะอิสลามศาสน์ ดารุสลามเลขที่ 57 หมู่ที่ 3 ต.ตาเซะ อ.เมือง จ.ยะลา พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี และประธานคณะกรรมการดำเนินการโครงการสานใจไทยสู่ใจใต้ ได้เป็นประธานเปิดอาคารศูนย์เรียนรู้ห้องสมุดสานใจไทยสู่ใจใต้ โดยมี นายสายัณห์ อินทรภักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ข้าราชการทหาร ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่นผู้นำศาสนา และนักเรียนในสถาบันร่วมให้การต้อนรับ
โอกาสนี้ นายฮามะ พูลา ผู้รับใบอนุญาตสถาบันศึกษาปอเนาะอิสลามศาสน์ ดารุสลาม ได้กล่าวบรรยายสรุปความเป็นมาของสถาบัน
สำหรับสถาบันศึกษาปอเนาะอิสลามศาสน์ดารุสสาลาม เป็นสถาบันศึกษาปอเนาะต้นแบบ ภายใต้โครงการ สานใจไทย สู่ใจใต้ โดย มูลนิธิรัฐบุรุษ มูลนิธิรักเมืองไทย มูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรรมการการอาชีวศึกษา และหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนให้การสนับสนุน โดยมอบหมายให้วิทยาลัยเทคนิคยะลา ดำเนินการก่อสร้างอาคาร ที่ดำรงความเป็นเอกลักษณ์ ตลอดจนบรรยากาศความเป็นต้นแบบที่มีความดั้งเดิมให้มากที่สุด ประกอบด้วย อาคารศูนย์เรียนรู้และห้องสมุด 1 หลัง อาคารโรงฝึกวิชาชีพ 1 หลัง อาคารบ้านพักครู 1 หลัง อาคารปอเนาะ 5 หลัง และงานปรับปรุงอื่นๆ
สถาบันแห่งนี้ เป็นสถาบันการศึกษาแบบเปิด ที่จัดการเรียนการสอนให้แก่ผู้ที่มีความสนใจที่จะเรียน ตั้งแต่อายุน้อยที่สุดประมาณ 2 ขวบ ถึงผู้อายุมากที่สุด ถึง 60-70 ปี โดยดำเนินการเรียนการสอนฟรี โดยไม่เก็บค่าเทอม และค่าบำรุงใดๆ
ผู้ที่สนใจสามารถเข้ามาสร้างอาคารปอเนาะเพื่อเป็นที่พักขณะเรียน โดยทางสถาบันปอเนาะจะให้การสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ และเมื่ออกจากสถาบัน จะสามารถให้ลูกหลานญาติพี่น้องรุ่นหลังที่จะเข้ามาศึกษา เป็นอาคารสาธารณกุศลต่อไป
โดยหลักคิดของสถาบันปอเนาะ คือ จัดการศึกษาให้ทุกคนเกิดความเข้าใจหลักศาสนาอย่างถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์ ตั้งแต่ตื่นนอนจนเข้านอน รูปธรรมของหลักศาสนาจะได้รับการถ่ายทอด หล่อหลอมครบทุกกระบวนการต่อการดำรงชีวิตในสังคม โดยใช้การเรียน 6 ชม.ต่อวัน 36 ชม.ต่อสัปดาห์ สถาบันปอเนาะแห่งนี้ เปิดทำการเรียนการสอนครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ.2534 และได้จดทะเบียนเป็นสถาบันศึกษาปอเนาะ เมื่อวันที่ 6 พ.ค.47 ปัจจุบัน มีผู้ช่วยโต๊ะครู จำนวน 20 คน มีนักเรียนชาย จำนวน 218 คน นักเรียนหญิง จำนวน 150 คน และมีคนชรา จำนวน 12 คน และเด็กอนุบาล จำนวน 80 คน
วันนี้ (5 ก.ค.) ที่สถาบันศึกษาปอเนาะอิสลามศาสน์ ดารุสลามเลขที่ 57 หมู่ที่ 3 ต.ตาเซะ อ.เมือง จ.ยะลา พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี และประธานคณะกรรมการดำเนินการโครงการสานใจไทยสู่ใจใต้ ได้เป็นประธานเปิดอาคารศูนย์เรียนรู้ห้องสมุดสานใจไทยสู่ใจใต้ โดยมี นายสายัณห์ อินทรภักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ข้าราชการทหาร ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่นผู้นำศาสนา และนักเรียนในสถาบันร่วมให้การต้อนรับ
โอกาสนี้ นายฮามะ พูลา ผู้รับใบอนุญาตสถาบันศึกษาปอเนาะอิสลามศาสน์ ดารุสลาม ได้กล่าวบรรยายสรุปความเป็นมาของสถาบัน
สำหรับสถาบันศึกษาปอเนาะอิสลามศาสน์ดารุสสาลาม เป็นสถาบันศึกษาปอเนาะต้นแบบ ภายใต้โครงการ สานใจไทย สู่ใจใต้ โดย มูลนิธิรัฐบุรุษ มูลนิธิรักเมืองไทย มูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรรมการการอาชีวศึกษา และหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนให้การสนับสนุน โดยมอบหมายให้วิทยาลัยเทคนิคยะลา ดำเนินการก่อสร้างอาคาร ที่ดำรงความเป็นเอกลักษณ์ ตลอดจนบรรยากาศความเป็นต้นแบบที่มีความดั้งเดิมให้มากที่สุด ประกอบด้วย อาคารศูนย์เรียนรู้และห้องสมุด 1 หลัง อาคารโรงฝึกวิชาชีพ 1 หลัง อาคารบ้านพักครู 1 หลัง อาคารปอเนาะ 5 หลัง และงานปรับปรุงอื่นๆ
สถาบันแห่งนี้ เป็นสถาบันการศึกษาแบบเปิด ที่จัดการเรียนการสอนให้แก่ผู้ที่มีความสนใจที่จะเรียน ตั้งแต่อายุน้อยที่สุดประมาณ 2 ขวบ ถึงผู้อายุมากที่สุด ถึง 60-70 ปี โดยดำเนินการเรียนการสอนฟรี โดยไม่เก็บค่าเทอม และค่าบำรุงใดๆ
ผู้ที่สนใจสามารถเข้ามาสร้างอาคารปอเนาะเพื่อเป็นที่พักขณะเรียน โดยทางสถาบันปอเนาะจะให้การสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ และเมื่ออกจากสถาบัน จะสามารถให้ลูกหลานญาติพี่น้องรุ่นหลังที่จะเข้ามาศึกษา เป็นอาคารสาธารณกุศลต่อไป
โดยหลักคิดของสถาบันปอเนาะ คือ จัดการศึกษาให้ทุกคนเกิดความเข้าใจหลักศาสนาอย่างถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์ ตั้งแต่ตื่นนอนจนเข้านอน รูปธรรมของหลักศาสนาจะได้รับการถ่ายทอด หล่อหลอมครบทุกกระบวนการต่อการดำรงชีวิตในสังคม โดยใช้การเรียน 6 ชม.ต่อวัน 36 ชม.ต่อสัปดาห์ สถาบันปอเนาะแห่งนี้ เปิดทำการเรียนการสอนครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ.2534 และได้จดทะเบียนเป็นสถาบันศึกษาปอเนาะ เมื่อวันที่ 6 พ.ค.47 ปัจจุบัน มีผู้ช่วยโต๊ะครู จำนวน 20 คน มีนักเรียนชาย จำนวน 218 คน นักเรียนหญิง จำนวน 150 คน และมีคนชรา จำนวน 12 คน และเด็กอนุบาล จำนวน 80 คน
