กู้ซากรถทัวร์ชนเสาไฟฟ้าที่สุราษฎร์ฯ ได้แล้ว ผู้บาดเจ็บอยู่ในอาการหวาดกลัว

สุราษฎร์ธานี - เจ้าหน้าที่กู้ซากรถทัวร์ บขส.ที่ชนเสาไฟฟ้าแรงสูงที่สุราษฎร์ธานีได้แล้ว ในขณะที่ผู้บาดเจ็บยังคงน่าห่วง หลายรายยังอยู่ในอาการหวาดกลัว และมีอีกหนึ่งคนที่อาการน่าเป็นห่วงอยู่ในห้องไอซียู ด้านคดีนั้นถือว่าสิ้นสุดในคดีอาญา เพราะคนขับเสียชีวิต เหลือแต่คดีเพ่ง ที่ได้ทำประกันไว้จ่ายคนละ 400,000 บาท

จากกรณีรถทัวร์ปรับอากาศชั้น 1 ของบริษัท ขนส่ง จำกัด เสียหลักประสบอุบัติเหตุชนเสาไฟฟ้าที่บริเวณหน้าปั๊มน้ำมัน ปตท. ถนนสุราษฎร์ธานี-นครศรีธรรมราช หมู่ที่ 7 ต.ตะเคียนทอง อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 10 ราย บาดเจ็บ จำนวน 17 ราย

ความคืบหน้าล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้กู้ซากรถทัวร์ได้แล้ว หลังใช้เวลากว่า 6 ชั่วโมง โดยใช้รถยกจำนวน 3 คัน จากกนั้น เจ้าหน้าที่ได้เก็บทรัพย์สินของผู้โดยสารไปเก็บรักษาไว้ที่สถานีตำรวจกาญจนดิษฐ์ ในขณะเดียวกัน นายมนตรี เพชรขุ้ม นายก อบจ.สุราษฎร์ธานี ได้นำช่อดอกไม้เข้าเยี่ยมปลอบขวัญให้กำลังใจแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ในขณะที่ผู้ประสบเหตุหลายๆ คน ยังคงหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ได้กล่าวว่า คนขับรถขับเร็วมาก ผู้โดยสารไปเตือนกับแสดงความไม่พอใจ และขับเร็วยิ่งขึ้นก่อนที่จะประสบอุบัติเหตุ

ด้านนายแพทย์ฉัตรชัย ศรีนามวงศ์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ระบุว่า ขณะนี้ มีผู้บาดเจ็บสาหัสที่เกี่ยวกับกระดูกได้นอนคอยการผ่าตัดจำนวน 15 ราย มีนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ 2 คน ลักเซมเบิร์ก 2 ราย ซิมบับเว 1 คน อินเดีย 4 คน ส่วนที่เหลือเป็นชาวไทย 6 คน และมีนายคมสัน นันทสหกิจกุล อาการยังน่าเป็นห่วง ต้องนอนรักษาตัวอยู่ในห้อง ICU ที่ต้องเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด

ด้านคดีนั้น พ.ต.อ.สุริยา นาคแก้ว ผกก.สภ.กาญจนดิษฐ์ เผยว่า คดีอาญาเมื่อคนขับเสียชีวิต คดีอาญานั้นสิ้นสุด เหลือแต่คดีแพ่ง ทางบริษัท และประกันภัยจะต้องรับผิดชอบค่าเสียหายแก่ผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิต


นางมารศรี ชินประหัษฎ์ ผอ.สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ลงมาดูแลผู้บาดเจ็บ และระบุว่า ทาง บขส.ได้ทำประกันภัยไว้กับ บริษัท ทิพยประกันภัย และ พ.ร.บ.ทิพยฯ ประเภท 3 กรณีคนขับรถประมาทในเบื้องต้น ผู้เสียชีวิตจะได้วงเงินประกัน 200,000 บาท บวกกับ PA อีก 200,000 บาท รวมเป็น 400,000 บาท

ส่วนผู้เสียชีวิตทราบชื่อเพิ่มอีก 2 ประกอบด้วย น.ส.กิมพันธ์ แซ่ด่าน อายุ 51 ปี นายสุรศักดิ์ กล้วยไพบูลย์ และอีก 3 คน เป็นหญิงไม่ทราบชื่อและสัญชาติ ขณะนี้ศพได้นำมาเก็บไว้ที่มูลนิธิกุศลศรัทธา

ส่วนรายชื่อผู้บาดเจ็บนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ประกอบด้วย 1.Miss Roverta Nortun ชาวอังกฤษ 2.Mr.Jonathan B ennet 3.Mr.PUSH PINDER KUMA ชาวอินเดีย 4.MRS.PINRY JAIN ชาวอินเดีย 5.MRS.AASHIMA JAIN ชาวอินเดีย 6. MISS.JASMINE MAGLIGE ชาวลักเซมเบิร์ก 7.MR.FIGUE MAGIAS MICHEAL อายุ 35 ปี ชาวลักแซมเบิร์ก 8.Mr.Kapl Gaya 35 ปี ชาวซิมบับเว ส่วนใหญ่มีอาการทางกระดูก เช่น กระดูกหัก เจ็บหน้าอก และมีแผลฉีกขาด

สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บชาวไทยทราบชื่อ คือ น.ส.ธิติมา กล่อมเกลี้ยง อายุ 27 ปี นายพีรศักดิ์ เย็นศิริ อายุ 26 ปี น.ส.สดใส กากะรันต์ อายุ 21 ปี น.ส.น้ำเพชร พูลเพิ่ม อายุ 41 ปี นายคมสัน นันทะสหกิจกุล อายุ 36 ปี น.ส.จิรพร เหล่าแกมแก้ว อายุ 43 ปี นางพร้อม พิจารณพงษ์ อายุ 64 ปี น.ส.พิตะวัน สุวรรณประเสริฐ อายุ 35 ปี ส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บเกี่ยวกับกระดูก และเจ็บหน้าอกเช่นเดียวกัน